posttoday

ปราจีนฯพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี

06 เมษายน 2562

ปราจีนบุรี-ยืนยันความพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี อายุมากกว่า1,560ปี

ปราจีนบุรี-ยืนยันความพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี อายุมากกว่า1,560ปี

เมื่อวันที่ 6เม.ย. นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ นั้น จ.ปราจีนบุรีมีความพร้อมแล้วเต็ม 100 เปอร์เซนต์ โดยจ.ปราจีนบุรีมีแหล่งน้ำในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 2 แหล่ง จุดแรกคือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่โบราณสถานวัดสระมรกต ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี และใน จุดที่ 2 เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากโบราณสถานสระแก้ว ตั้งอยู่ใน ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จุดแรก เป็น บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปใช้ในพิธีพระบรมราชาภิเษก ตั้งอยู่ระหว่างรอยพระพุทธบาทคู่ ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยขนาด 1.50 เมตร อยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี อายุมากกว่า 1,560 ปี กับ อโรคยาศาล ที่ยังหลงเหลือซากเมืองเป็นศิลาแลงให้เห็น เป็นอโรคยาศาล ในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ปรารถนาให้พสกนิกรของพระองค์พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะ เป็นบ่อกลมรัศมีรอบวงประมาณ 2 เมตรขุดลึกลงในศิลาแลงมีน้ำสีเขียวใสสะอาดตลอดทั้งปีไม่แห้ง ในบ่อพบพระพุทธรูปสมัยทวารวดี และโบราณวัตถุอายุมากกว่า 1,560ปี เป็นจำนวนมาก จ.ปราจีนบุรีได้นำน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประกอบพระราชพิธีต่างๆ มาโดยตลอด

ปราจีนฯพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 2 เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก โบราณสถานสระแก้ว ตั้งอยู่ใน ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ อยู่นอกคูเมืองทางทิศใต้ ห่างออกมาประมาณ 100 เมตร ลักษณะของสระแก้วเป็นสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ขุดลงไปในชั้นศิลาแลงธรรมชาติ ขนาด 18 X 18 เมตร ทางลงสระอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ที่ขอบสระของสระแก้วทางด้านทิศเหนือมีการตัดศิลาแลงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยื่นเข้ามาในสระ มีบันไดทางลงด้านข้างทั้งสองข้าง

ที่ผนังขอบสระแก้วมีภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นสัญลักษณ์ และรูปสัตว์อยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมได้แก่ ภาพช้าง สิงห์ มกร และงู จำนวน 29 กรอบภาพ มีรูปสัตว์จำนวน 45 ตัว ได้แก่ รูปช้าง 24 รูปสิงห์ 11 รูปมกร 8 รูปหมู 1 และ รูปกินรี 1 นอกจากนี้ยังมีรูปงูพันหม้อน้ำระหว่างช้าง 2 ช้าง รูปมกรและหงส์เดินเรียงกันเป็นแถวเหนือกรอบรูป รูป "ช้าง" นั้น บางครั้งเป็นรูปช้างช้างเดียวอยู่ในกรอบแสดงอิริยาบถต่าง ๆ เช่นยืน เดิน นั่งคุกเข่า หรือจะเป็นรูปช้างหลายช้างแสดงอาการชนกัน หรือเดินเรียงกันเป็นต้น

ปราจีนฯพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี

รูป"สิงห์" บนขอบสระแก้วนั้นมักจะเป็นรูปสิงห์เดี่ยวอยู่ในกรอบ จะแสดงอาการต่าง ๆ เช่นเผ่น หรือกระโจน

รูป "มกร" นั้นจะมีลักษณะแตกต่างกัน เช่นมกรมีงวงสั้น งวงยาว ตัวมกรมีเกล็ดคล้ายจระเข้ บางมกรมีลำตัวยาวคล้ายงู บางมกรมีเขา มีหางคล้ายปลา หรือมีหน้าคล้ายสิงห์ก็มี สำหรับรูป "หมู" ที่สระแก้วนั้นมีเพียงรูปเดียว ลักษณะคล้ายหมูป่า ยืนย่อขาหลัง แหงนหน้าขึ้น หางม้วน ส่วนรูป "งู" นั้น เหมือนงูธรรมชาติแผ่พังพานหันหน้าไปทางสระ

สันนิษฐานว่า "โบราณสถานสระแก้ว" มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 10-11 เชื่อว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรืออาจเป็นพิธีกรรมเพื่อความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากภาพสัตว์และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่บนขอบสระ รูปช้าง สิงห์ มกร คชลักษมี หรือปูรณกุมภะ ล้วนแต่เป็นสิ่งมงคลในสังคมเกษตรกรรมทั้งสิ้น กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนโบราณสถานสระแก้วไว้เมื่อ 8 มีนาคม 2478

โดย จ.ปราจีนบุรีมีความพร้อมในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 2 แหล่งดังกล่าวนี้

ทั้งนี้หลังจากเสร็จพิธี ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่งแล้ว จะทำการแห่ไปที่วัดบางกระเบาวรวิหารพระอารามหลวง ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เพื่อนำไปเข้าสู่พิธีปลุกเสกและเวียนเทียนสมโภชน์ต่อไป ในวันที่ 8 – 9 เม.ย.62 นี้

ซึ่งวัดบางกระเบาวรวิหารพระอารามหลวง เป็นวัดที่มีพระเกจิดัง หลวงพ่อจาดหรือ พระครูสิทธิสารคุณ ในสมัยสงครามอินโดจีน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้จอดเรือและพระราชทานถวายเรือพระที่นั่งให้หลวงพ่อจาดหรือ พระครูสิทธิสารคุณ ด้วย ปัจจุบันนำตั้งแสดงให้ชมที่ข้างวิหารหลวงพ่อจาดด้วย และในบริเวณวัดมีค้างคาวแม่ไก่ขนาดใหญ่น้ำหนักมากกว่า 1 – 2 กก.นับพัน ๆ ตัวอาศัยอยู่”

ปราจีนฯพร้อมจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 2 แหล่ง ยุคทวารวดี

 

ข่าวล่าสุด

คลัง ยันยุบสภาฯไม่สะดุดเศรษฐกิจ ชี้กระทบปี 69 วงจำกัด คาด GDP โต 2%