ตำรวจภาค8จับ"เม่น ท่าพญา"นักค้ายาเสพติดรายใหญ่เมืองนครศรีฯ

นครศรีธรรมราช-ตำรวจภาค8ร่วมจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดในเมืองนครศรีฯยึดยาบ้าเกือบ1ล้านเม็ดไอซ์กว่า4กก.มูลค่ารวม53.5ล้านบาท

เมื่อวันที่ 30มี.ค.62 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พร้อม พล.ต.ต.ฐากูล เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงข่าวการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่สุดในจังหวัด ฯ ของกลางจำนวน 990,800 เม็ด ไอซ์หนัก 4 กก.ผู้ต้องหา 1 ราย คือนายอุทัย ใหม่แย้ม หรือ “เม่น ท่าพญา” อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 6 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 แถลงว่า ได้สืบทราบว่ามีการส่งมอบยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงส่งหน่วยสวาทร่วมกับชุดสืบ ภ.นครศรีธรรมราช เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือนายอุทัยฯ พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง และสอบสวนขยายผลนำไปจับกุมยาเสพติดได้เพิ่มเติมในพื้นที่ หมู่ 2 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ได้ของกลางยาบ้ารวมเกือบ 1 ล้านเม็ด และไอซ์น้ำหนัก 4 กก.มูลค่าประมาณ 53.5 ล้านบาท

จากการตรวจค้นจับกุมหลังสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้ โดยผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขณะที่ตำรวจได้สอบสวนเพื่อหาตัวผู้ร่วมขบวนการ แต่ทางผู้ต้องหายังบอกว่า “ไม่ต้องขยายผลหรอก ผมนี่แหละเป็นรายใหญ่สุดในเมืองนคร” ส่วนยาเสพติดทั้งหมดรับมาจากภาคเหนือ ยาบ้าครั้งละประมาณ 1 ล้านเม็ด และไอซ์รับมาครั้งละ 20 กก.ซึ่งได้นำไปจำหน่ายไปส่วนหนึ่งแล้ว

พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 กล่างอีกว่า ผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายเร่งด่วนที่จะต้องเน้นหนักเป็นพิเศษในการจับกุม โดยหลังจับกุมก็จะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินซึ่งหัวหน้าทีมมีทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้การดำเนินการจะนำไปสู่คดีฟอกเงินด้วย เพื่อเร่งลดอิทธิพลของผู้ค้ายาเสพติดให้มากที่สุด เร่งจับกุมตัวการสำคัญ ดำเนินมาตรการด้านทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดให้มากที่สุดด้วย

สำหรับแก๊งค้ายาเสพติดรายนี้มีหัวหน้าทีมหรือตัวการใหญ่เป็นลูกของคนมีสี ซึ่งมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดจนมีทรัพย์สินรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท มีบ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราชและกรุงเทพฯ รวม 4-5 หลัง มีรถแบ็คโฮ และรถเทรนเลอร์กว่า 20 คัน ซึ่งตำรวจได้ติดตามพฤติกรรมและพยายามติดต่อล่อซื้อยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง แต่ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ซึ่งจะต้องดำเนินการตัวการใหญ่รายนี้อย่างเด็ดขาดต่อไป พล.ต.ต.นันทเดชฯ ระบุ.