"เข้าข่ายพยายามฆ่า" อาสาโหดฟาดกระบองเด็ก2ขวบสาหัส

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เผยพฤติการณ์อาสาจราจร จ.ชลบุรี เข้าข่ายพยายามฆ่า จี้ไม่ใช่เจ้าพนักงานตำรวจต้องร่วมรับผิดชอบด้วย 

สืบเนื่องจากคดีอาสาสมัครใช้ฟาดกระบองโดนเด็ก 2 ขวบ ขณะนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มากับพ่อและแม่จนบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นหนึ่งในคดีดังภายในจังหวัดชลบุรี ซอยเขาตาโล หมู่ 13 ต.หนองปรือ เมื่อช่วงคืนวานนี้ (26 มี.ค) ที่ผ่านมา โดยทั้งในและนอกโลกโซเชียลต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. อาจารย์เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดังแห่งเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นของด้านกฎหมายในคดีดังกล่าว “เข้าข่ายพยายามฆ่า” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 80

“อาสาตำรวจไม่มีอำนาจตั้งด่านตรวจค้นจับกุมและทั้งเมื่อดูจากอาวุธที่ใช้ในการทำร้าย และดูจากอวัยวะของผู้ถูกกระทำคือบริเวณศีรษะ และดูจากพฤติการณ์ในการตีของผู้กระทำความผิด กรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่าเพราะเล็งเห็นผลว่าตีเข้าไปแล้วผู้เสียหายคือเด็กอาจตายได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 80 รับโทษสองในสาม”

และนอกจากนี้ทนายชื่อดังยังกล่าวอีกว่า “อาสาตำรวจหรืออาสาจราจรไม่ใช่เจ้าพนักงานไม่มีกฎหมายใดใดให้อำนาจในการตรวจค้นจับกุมหรือตั้งด่าน มีแต่อำนาจเถื่อนเท่านั้นนอกจากนี้ตำรวจที่รับผิดชอบและนำพวกอาสาเหล่านี้มาร่วมในการทำงานอาจต้องร่วมรับผิด ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหายโดยตรงเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

“ควรทำเป็นคดีตัวอย่าง เพราะนับวันพวกอาสาสมัครทั้งหลายจะลุแก่อำนาจไปตั้งด่านตรวจค้นจับกุมโดยที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะบุคคลทุกคนเสมอกันตามกฏหมายตามแล้วธรรมนูญมาตรา 27 บุคคลธรรมดาจึงไม่สามารถจับคนอื่นได้”