posttoday

นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งออร์แกนิก

02 กุมภาพันธ์ 2562

นิวซีแลนด์ ได้รับการยอมรับในเรื่องความเป็นออร์แกนิก

นิวซีแลนด์ ได้รับการยอมรับในเรื่องความเป็นออร์แกนิก (Organic) หรือเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีนิยามมากมาย แต่หลักใหญ่ใจความคือ ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมี ไม่มีการดัดแปลง ไม่ใช่ผลิตผลจากพืชตัดต่อพันธุกรรม (GMOs - Genetically Modified Organisms) หากเป็นปศุสัตว์และสัตว์ปีกจะไม่มีการใช้สารเร่งและยาปฏิชีวนะทั้งสิ้น อีกทั้งระบบการผลิตต้องปลอดภัยต่อดิน น้ำ อากาศ รวมทั้งผู้ผลิตเอง

กระบวนการทำเกษตรอินทรีย์ ที่การผลิตมาจากธรรมชาติ 100% เมล็ดพันธ์ุหรือปศุสัตว์ต้องไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ไม่ใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ปล่อยให้มีการเจริญเติบโตเป็นไปโดยธรรมชาติทั้งยังส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย

ประสบการณ์ในการเยือนนิวซีแลนด์ ไปชมกระบวนการและวิธีทำงานในฟาร์มโคนมออร์แกนิก จึงเป็นเรื่องที่ควรบอกกล่าวและเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรออร์แกนิกในไทยได้เช่นกัน

นิวซีแลนด์ดินแดนแห่งออร์แกนิก

นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งออร์แกนิก

สถานะทางกฎหมาย ปี 2546 ออร์แกนิกฟาร์ม นิวซีแลนด์ จดทะเบียนเป็นIncorporated Society โดยเกษตรกรที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกของออร์แกนิกฟาร์ม นิวซีแลนด์ ซึ่งหมายถึงการจดทะเบียนกับรัฐบาลในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยสมาชิกของออร์แกนิกฟาร์ม นิวซีแลนด์ เป็นเจ้าของโลโก้และทรัพย์สินทางปัญญา

ออร์แกนิกฟาร์ม นิวซีแลนด์ ยังส่งผู้แทนเข้าไปอยู่ในคณะทำงานภาคเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ (Organic AotearoaNew Zealand - OANZ) และมีจุดประสงค์ในการประสานงานและเสริมสร้างความสนใจเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ในระดับประเทศ สมาชิกของคณะทำงานภาคเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ประกอบด้วยผู้รับรองมาตรฐาน เอ็นจีโอ และตัวแทนจากอุตสาหกรรมอินทรีย์

หยิบรายงานชื่อ “2016 New ZealandOrganic Market” ของ Organics Aotearoa New Zealand มาอ่าน เป็นรายงานประจำปีเกี่ยวกับตลาดออร์แกนิกในประเทศนิวซีแลนด์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาพรวมของการผลิตเกษตรอินทรีย์ภายในประเทศ ทัศนะความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสินค้าออร์แกนิก
บทวิเคราะห์-สำรวจตลาดออร์แกนิกในประเทศ กรณีศึกษาเฉพาะเรื่อง เช่น การผลิตองุ่นและไวน์ การผลิตผลิตภัณฑ์จากนม กีวี ทัศนะความเห็นจากเชฟ (พ่อครัว-แม่ครัว)และข้อมูลสถิติการส่งออก

เนื้อหาข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจ คือตลาดออร์แกนิกในประเทศนิวซีแลนด์มีมูลค่าประมาณ 217 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ (ประมาณ 5,190.3 ล้านบาท) โดยเป็นการขายผ่านซูเปอร์มาร์เก็ตราว 167 ล้านเหรียญ ตลาดผักและผลไม้สดราว 25 ล้านเหรียญ และในร้านขายปลีกออร์แกนิกอีก 25 ล้านเหรียญ การซื้อขายสินค้าผ่านร้านซูเปอร์มาร์เก็ตมียอดการเติบโตถึง 127% ในช่วงตั้งแต่ปี 2555 โดยผู้บริโภคราว 2 ใน 3ได้เคยซื้อสินค้าออร์แกนิกเป็นบางครั้ง

นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งออร์แกนิก

ตลาดส่งออกสินค้าออร์แกนิกที่ผลิตในนิวซีแลนด์ในปี 2558 มีมูลค่าราว 240-250 ล้านเหรียญ (ประมาณ 5,740-5,960 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเพียง 11% นับจากปี 2555 ราว 45% เป็นสินค้าส่งออกในกลุ่มผักและผลไม้สด รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ และอาหารแปรรูป

ตลาดส่งออกหลักคือ ยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย (3 ที่รวมกันมีมูลค่า 66% ของการส่งออกออร์แกนิก) ในช่วงระหว่างปี 2555-2558 ตลาดส่งออกไปประเทศจีนเพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 10% ในขณะที่ตลาดส่งออกไปญี่ปุ่นลดลงจาก 10% เหลือ 6%

ธุรกิจเกษตรอินทรีย์โดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 30% ในช่วงระหว่างปี 2555-2558 พื้นที่ปลูกองุ่นและพืชสวนยังคงขยายตัว เพิ่มขึ้น 128% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่นและพืชสวนที่ได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์ 25,476 เฮกตาร์ (159,225 ไร่) นอกจากองุ่นออร์แกนิกแล้ว พืชสวนออร์แกนิกที่มีการปลูกมากคือ แอปเปิ้ลและกีวี

พื้นที่เลี้ยงสัตว์เกษตรอินทรีย์ลดลง 55% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เหลือพื้นที่ราว 267,731 ไร่ ซึ่งเกิดขึ้นจากฟาร์มขนาดใหญ่เลิกกิจการไป แต่มูลค่าของการขายผลผลิตกลับไม่ได้ลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์บางส่วนก็เริ่มเพาะปลูกพืช กลายเป็นสวนผสมผสาน ไม่ได้เลี้ยง
สัตว์แต่เพียงอย่างเดียว ทำให้ฟาร์มเหล่านี้ถูกจัดเป็นประเภทฟาร์มผสมผสานแทน

เปิดประสบการณ์“โคราฮา ฟาร์ม”โคนมออร์แกนิก

นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งออร์แกนิก

การได้ไปสัมผัสประสบการณ์ประเทศนิวซีแลนด์ครั้งแรก ที่ชื่อประเทศหมายถึง “ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว” โดยมีประชากรในประเทศรวม 4 ล้านคน มีขนาดพื้นที่ใหญ่อันดับใกล้เคียงกับประเทศญี่ปุ่น และอังกฤษ รวมถึงมีขนาดเล็กกว่าไทย แต่นิวซีแลนด์กลับอบอุ่นไปด้วยธรรมชาติ ผู้คนในเมืองที่แสนจะมีอัธยาศัยดี มีความเป็นมิตร พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ก้าวแรกที่เครื่องบินลงถึงสนามบินนานาชาติโอ๊กแลนด์

การได้ไปสัมผัสประเทศนิวซีแลนด์ครั้งนี้จัดโดย ไวเอท นิวทริชั่น ผลิตภัณฑ์นมผงระดับพรีเมียม ที่ได้เชิญสื่อมวลชนและคุณแม่รุ่นใหม่ไปสำรวจประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อไปเปิดประสบการณ์ที่แหล่งเลี้ยงโคนมออร์แกนิก

การเดินทางจากประเทศไทยที่มีสายการบินตรงจากไทยถึงประเทศนิวซีแลนด์ ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ก่อนไปถึงเมืองโอ๊กแลนด์ ที่จะอยู่บริเวณเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเวลาของนิวซีแลนด์ในเดือน ธ.ค. จะเร็วกว่าไทย 6 ชั่วโมง และเดือนนี้ถือเป็นช่วงฤดูร้อน

คณะไปลงพื้นที่ในฟาร์ม “โคราฮา ฟาร์ม” (Koraha Farm) อยู่ที่ Waitetuna Valley ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆจากตัวเมืองโอ๊กแลนด์ ก่อนถึงฟาร์มที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาและเป็นพื้นที่ที่จะทำการเกษตรทั้งเลี้ยงโคและเลี้ยงแกะ

โคราฮา ฟาร์ม เป็นฟาร์มของ ไมค์ มอสผู้ก่อตั้งฟาร์มและเกษตรกรรุ่นใหม่ สามารถสร้างพื้นที่ในฟาร์มสู่การทำเกษตรแบบออร์แกนิกได้ทั้งหมด โดยในฟาร์มมีทั้งการเลี้ยงปศุสัตว์ ทั้งโคนม แกะ ม้า ตลอดจนมีพื้นที่เป็นแหล่งน้ำสำหรับใช้ในฟาร์มอย่างครบวงจร

ไมค์ บอกว่า ได้สร้างโคราฮา ฟาร์ม ที่เป็นฟาร์มออร์แกนิกอย่างครบวงจร และต้องมีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมในการปรับฟาร์มเป็นเวลา 3 ปี โดยความสนใจที่ต้องการทำออร์แกนิก มาจากการได้เคยไปรับฟังข้อมูลและได้ไปดูงานในด้านออร์แกนิก จึงมีความสนใจ เพราะเป็นการบริหารจัดการฟาร์มทั้งหมดด้วยความยั่งยืน

ฟาร์มมีการเลี้ยงโคนมจำนวนกว่า100 ตัว เป็นการเลี้ยงแบบอิสระ โดยให้โคนมได้มีพื้นที่ในการกินหญ้ารอบๆ หุบเขา และสามารถได้อยู่กับพื้นที่อิสระได้ตลอดทั้งปีเนื่องจากสภาพอากาศของนิวซีแลนด์ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงโคนม ไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าหนาวที่ไม่หนาวเกินไป และหน้าร้อนที่ไม่ร้อนมาก หรือร้อนที่สุดประมาณ 20 กว่าองศาเซลเซียส

ไมค์ เล่าต่อว่า โคนมที่ได้อยู่อย่างอิสระจึงไม่มีความเครียด มีผลดีต่อนมที่ผลิตได้ และอาหารที่นำมาให้โคนมก็เป็นออร์แกนิกที่มาจากพื้นที่ในฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มได้มีการดูแลสร้างระบบนิเวศโดยรอบมีการปลูกพืชหลากหลาย และมีระบบน้ำที่ดี จึงมีการป้องกันไม่ให้โคลงไปในแหล่งน้ำเพื่อสร้างความบริสุทธิ์ให้แหล่งน้ำ

ส่วนขั้นตอนการรีดนมโค มีบริเวณที่แยกพื้นที่ออกมา หลังจากนั้นจะเก็บไว้ในถังและมีรถของเครือข่ายนมออร์แกนิกของนิวซีแลนด์ที่เข้ามารับผลผลิตนมถึงฟาร์ม

มาตรฐานนมออร์แกนิก

นิวซีแลนด์ ดินแดนแห่งออร์แกนิก

ภคสรณ์ธชพร ชลปฐมพิกุลเลิศ Group Product Manager - GUM ไวเอท นิวทริชั่น กล่าวว่า การเลือกมาประเทศนิวซีแลนด์ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านออร์แกนิก และโคราฮา ฟาร์ม ถือเป็นหนึ่งในฟาร์มเครือข่ายที่เลือกมาเป็นฐานการผลิตของนมออร์แกนิก จึงอยากให้ทุกคนได้เห็นขั้นตอนการดำเนินงานที่กว่าจะออกมาสำเร็จสู่นมออร์แกนิก มีความพิถีพิถันและมีขั้นตอนในการตรวจสอบตามมาตรฐานในทุกด้าน จึงต้องการนำทุกคนมาสัมผัสและเห็นขั้นตอนอย่างใกล้ชิด

ทางด้าน เมทินี สุวรรณนาวาสิทธิ์ Senior Product Manager ไวเอท นิวทริชั่นกล่าวว่า ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นมสูตรออร์แกนิกแบรนด์แรก และเป็นครั้งแรกในไทยที่มีนมผงออร์แกนิกเข้ามาทำตลาด ซึ่งเป็นการผลิตจากนมออร์แกนิก100% โดยนอกจากมีแหล่งวัตถุดิบในประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีทั้งโคราฮา ฟาร์ม ยังมีฟาร์มอื่นๆ ในประเทศที่เป็นแหล่งผลิต รวมถึงมีวัตถุดิบจากฟาร์มนมในยุโรปด้วย เพื่อให้มีวัตถุดิบเพียงพอต่อการผลิต

ทั้งนี้ การเลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์นมผงออร์แกนิกสำหรับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป และกลุ่มคุณแม่ เนื่องจากแนวโน้มความต้องการของกลุ่มคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์สำหรับลูกมากขึ้น และเลือกที่มีความเหมาะสมกับลูก โดยมีขั้นตอนที่ต้องผ่านการตรวจเช็กกว่า 350 รายการ
ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค ซึ่งจะเปิดตัวสู่ผู้บริโภคคนไทยในช่วงต้นปี 2562 นี้

ทั้งนี้ การมาสัมผัสโคราฮา ฟาร์ม จึงได้เห็นถึงความใส่ใจของเจ้าของฟาร์มในการดูแลการเลี้ยงวัว และไมค์ ได้กล่าวปิดท้ายในงานว่า เขาได้ทำงานที่รักและมีความสุขในการทำงานทุกวัน ถือเป็นงานที่ดีสุดในโลกในมุมมองของเขา และออร์แกนิกคือความยั่งยืนอย่างแท้จริง

เพราะเป็นผลต่อทุกๆ คนที่อยู่ในฟาร์ม ต่อเนื่องไปถึงสิ่งแวดล้อม และสัตว์ต่างๆ ที่สำคัญยังได้ธรรมชาติกลับคืนมาเห็นจากรอบๆ ฟาร์ม ได้พบสัตว์หลายชนิดกลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่มากขึ้น เช่น นกสัตว์ป่า ทำให้มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น และช่วยทำให้ระบบโดยรวมธรรมชาติในพื้นที่กลับมาสมบูรณ์

ได้เกริ่นแต่แรกว่า นิวซีแลนด์ ชื่อของประเทศหมายถึง “ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว” โดยเมื่อมาเยือนจึงมีความเข้าใจความหมายกับชื่อของประเทศ จากการได้มองท้องฟ้าในแต่ละวันจะมีความสดใสและสีสันแตกต่างกัน ผสมด้วยความเป็นธรรมชาติที่เป็นทรัพยากรอันล้ำค่า จึงสามารถสร้างเศรษฐกิจด้วยเกษตรกรรมอินทรีย์อย่างแข็งแกร่งจนเป็นประเทศชั้นนำในด้านการเกษตรหลายด้าน

หากใครที่ชื่นชอบกับธรรมชาติ และความไม่วุ่นวายของสังคมเมือง การมานิวซีแลนด์จะได้รับพลังใหม่ที่ดีๆ กลับไปในชีวิตอย่างแน่นอน

ข่าวล่าสุด

เวทีไทย–จีนเปิดเกมลงทุนใหม่ ดัน Industrial Park เชื่อมซัพพลายเชนโลก