posttoday

จบด้วยดี! บุรุษพยาบาลเคลียร์ญาติปัดชกหน้าผู้ป่วย ญาติหายสงสัยหลังดูวงจรปิดหลายรอบ

08 ธันวาคม 2561

บุรุษพยาบาล รพ. ดังขอนแก่นย่องเงียบ แจงญาติ ยืนยันไม่ได้ชกหน้าผู้ป่วย สรุปทุกอย่างจบลงด้วยดี หลังดูวงจรปิดหลายรอบ ญาติหายสงสัย แต่ขอให้เป็นอุทาหรณ์

บุรุษพยาบาล รพ. ดังขอนแก่นย่องเงียบ แจงญาติ ยืนยันไม่ได้ชกหน้าผู้ป่วย สรุปทุกอย่างจบลงด้วยดี หลังดูวงจรปิดหลายรอบ ญาติหายสงสัย แต่ขอให้เป็นอุทาหรณ์

จากกรณี ที่ น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี ลูกบุญธรรมของนายพินันท์ ประเคนทอง อายุ 65 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้เสียชีวิต  เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดตามกฎหมาย กับบุคคลที่เป็นชายคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ชกใบหน้านายพินันท์ ขณะเข้ารับการรักษาภายในห้องฉุกเฉิน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี ลูกสาวบุญธรรมของผู้เสียชีวิต ได้ส่งคลิปบุรุษพยาบาลที่อยู่ในคลิปภาพดังกล่าวเดินทางเข้าพบญาติอีกครั้งด้วยตนเองโดยเป็นคลิปภาพดังกล่าวเป็นการนั่งพูดคุยกันระหว่างญาติผู้ป่วยกับทางบุรุษพยาบาล โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมรับฟังด้วย

น.ส.ศรินทิพย์ กล่าวว่า บุรุษพยาบาลคนดังกล่าวได้ชี้แจงว่า ไม่ได้ทำร้ายผู้ป่วย แต่เห็นผู้ป่วยใช้แขนข้างซ้ายดิ้นจนเชือกที่ผูกเอาไว้หลุดออก ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับเอามือไปแกะผ้าพันแผลที่ศีรษะออก จึงเดินเข้าไปเพื่อจะคว้ามือผู้ป่วยไม่ให้แกะ แต่จังหวะที่กำลังคว้านั้น ผู้ป่วยเอามือออกก่อน ทำให้จับมือไม่โดน และผู้ป่วยก็นอนลงเอง ก่อนที่จะบอกกับผู้ป่วยว่า นอนนิ่งๆ เดี๋ยวจะตกเตียง พร้อมทั้งผูกเชือกมัดมือผู้ป่วยไว้กับเตียงให้แน่นอีกครั้ง พร้อมอธิบายกับกิริยาที่กระทำลงไป หากไม่เหมาะสมตนเองก็รู้สึกเสียใจที่ทำให้ญาติรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับแสดงท่าทางที่กระทำในวันนั้นให้ญาติดู ซึ่งยืนยันว่าจับมือผู้ป่วยไม่โดน

" หลังจากที่มีการร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกันทุกฝ่าย แต่บุรุษพยาบาลในคลิปไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย แต่เดินทางมาพบญาติภายหลังจากที่สื่อมวลชนไป ซึ่งทางบุรุษพยาบาลได้เข้ามาเจรจากับญาติ ยอมรับและขอโทษ ว่าปฏิบัติต่อผู้ป่วยด้วยท่าทางไม่เหมาะสม และค่อนข้างรุนแรง ซึ่งหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับตัวบุรุษพยาบาลแล้ว ทำให้ญาติรู้สึกพอใจ รวมทั้งได้ดูคลิปวงจรปิดอย่างละเอียดหลายรอบ ทำให้ญาติเชื่อได้ว่า พ่อไม่ได้ถูกทำร้าย เพราะก่อนหน้านี้ได้ดูเพียงแค่รอบเดียว และไม่สามารถบันทึกภาพกลับไปได้เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายบันทึกภาพไป พร้อมทั้งคำพูดของทางโรงพยาบาลทุกครั้งที่โทรมาชี้แจงพูดไม่เหมือนกันสักครั้งทำให้ครอบครัวรู้สึกสับสนว่าสิ่งใดคือความจริง จนตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรม" น.ส.ศรินทิพย์ กล่าว

น.ส.ศรินทิพย์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากการที่ทุกฝ่ายได้ร่วมพุดคุยกันเมื่อวานที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ถือว่าสบายใจขึ้นมาส่วนหนึ่ง โดยที่โรงพยาบาลยอมรับว่าเกิดจากความบกพร่องในการดูแลผู้ป่วยจริง โดยปล่อยให้ผู้ป่วยตกเตียง แต่ญาติยังไม่สบายใจต่อการกระทำของพยาบาลที่บอกว่าดึงมือพ่อ ซึ่งมีลักษณะเหมือนใช้ความรุนแรง และมีท่าทีเหมือนต่อว่าพ่อ ทั้งที่ญาติยืนยันตั้งแต่แรกว่าไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต  แต่ต้องการความชัดเจนเพราะศพมีรอยเย็บที่คิ้วและรอยช้ำที่ดวงตา ซึ่งไม่ใช่สาเหตุที่เข้ารักษา รวมทั้งไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนจากแพทย์ตั้งแต่แรก เพราะครั้งแรกบอกว่าเป็นมาตั้งแต่เข้ารับการรักษา พอทักท้วงจึงยอมรับในภายหลังว่าผู้ป่วยตกเตียง การตรวจสอบภาพวงจรปิดครั้งแรกได้ดูเพียงรอบเดียวและมีคำชี้แจงไม่ชัดเจนและกลับคำ ทำให้ญาติเกิดความสับสนและเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องเข้าแจ้งความกับตำรวจ

"ภายหลังได้รับการชี้แจงจาก รพ.และบุรุษพยาบาลได้เข้ามาพูดคุยกับญาติก็คลายความกังวลแล้ว และไม่ติดใจสงสัย โดยโรงพยาบาลยอมรับบกพร่องในการดูแลทำให้ผู้ป่วยตกเตียง และบุรุษพยาบาลยอมรับใช้ท่าทางไม่เหมาะสมและค่อนข้างรุนแรง ทำให้ญาติเชื่อว่าถูกทำร้าย ตนเองขอฝากในเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนัก แต่ก็ควรทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติให้ชัดเจน และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกฝ่ายต่อไป และการดำเนินการตามกฎหมายก็สิ้นสุดจบลงด้วยการพูดคุยกันจนเข้าใจ"