สภาวิศวกรแนะบทเรียนอินโดฯสึนามิต้องรับมือ
ถอดบทเรียนสึนามิอินโดฯ ไทยพร้อมรับมืออย่างไร สภาวิศวกรแนะควรซ้อมแผนป้องกัน เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
ถอดบทเรียนสึนามิอินโดฯ ไทยพร้อมรับมืออย่างไร สภาวิศวกรแนะควรซ้อมแผนป้องกัน เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
ศ.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียขนาด 7.5 ริกเตอร์ ความลึกอยู่ที่ประมาณ 10 กม. ยังถือว่าเป็นแผ่นดินไหวในระดับตื้น ถ้าระดับลึกต้องเกิน 30 กม.ขึ้นไป แผ่นดินไหวระดับ 7.5 ริกเตอร์ ถือว่าแรงแต่ก็ไม่น่าทำให้เกิดสึนามิที่สูง 6 เมตรได้ เพราะที่ผ่านมาสึนามิจะเกิดขึ้นต้องเป็นแผ่นดินไหวระดับ 8-9 ริกเตอร์ขึ้นไป แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นที่อินโดนีเซียนี้เรียกได้ว่าอาจจะอยู่นอกการคาดหมายของ นักวิทยาศาสตร์หลายๆ คน
ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าทำไมแผ่นดินไหว 7.5 ริกเตอร์ แต่กลับทำให้เกิดสึนามิความสูงระดับถึง 6 เมตรได้ ปัจจัยแรกคือแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น "บนบก" ซึ่งแตกต่างจากสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวที่ผ่านๆ มา ซึ่งมักเกิดขึ้นในทะเลลึก แล้วทำให้เกิดคลื่นกระแสน้ำเป็นสึนามิพัดเข้ามายังชายฝั่ง ต่อมาคือนอกจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนบกแล้ว ยังเกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนมีพลังอีกด้วย
"ต้องเรียนกับประชาชนว่า ประเทศไทยยังมีความโชคดี ตรงที่ว่าแนวที่เกิดแผ่นดินไหวแล้วทำให้เกิดสึนามิอยู่ห่างไกลออกไปนอกชายฝั่งทะเลฝั่งอันดามันนับเป็นพันกิโลเมตร ปัจจัยของเราคือ อยู่ที่ 'คน' เพราะว่าธรรมชาติของไทยไม่ได้โหดร้ายเท่ากับที่อินโดนีเซีย อย่างเมืองปาลูของอินโดนีเซียนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อน และเป็นรอยเลื่อนที่มีพลัง ขยับตัวได้ตลอดเวลา จึงได้รับผล กระทบทั้งแผ่นดินไหนและสึนามิซ้ำเติม ในห้วงเวลาที่ใกล้กัน" ศ.อมร กล่าว
สำหรับกรณีของประเทศไทย แนวรอยต่อของเปลือกโลกที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งนับพันกิโลเมตร ดังนั้นแผ่นดินไหวเองจึงไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ระบบอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ จึงควรทำงานได้ตาม ปกติ ดังนั้นจึงต้องเน้นเรื่องการดูแลระบบการแจ้งเตือนภัยให้ดีพอ เพราะหากระบบแจ้งเตือนภัยของเราล้มเหลว คนจะหนีไม่ทัน และหลังจากแจ้งเตือนภัยแล้ว ต้องมีแผนที่หลบภัยเพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่าจะต้องหนีหลบภัยไปที่ไหน ตลอดจนระบบไซเรนควรมีตลอดแนวชายฝั่ง และจำเป็นต้องมีแผนซักซ้อม ซึ่งต้องซักซ้อมกันทุกปี