ล่วงสองทศวรรษฆ่ายกวัด...แอริโซนา

ความอึมครึมเป็นปริศนาดำมืดมานานถึง 2 ทศวรรษ ยังไม่ทำให้ พระครูวิเทศพรหมคุณ รู้สึกอึดอัดใจเท่ากับบรรยากาศที่คุกรุ่นภายใน 6 เดือนข้างหน้า

นั่นเป็นเพราะพระลูกวัดของวัดพรหมคุณาราม วัดไทยในแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว และวิตกเกี่ยวกับอันตรายที่มองไม่เห็น หากผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรฆ่ายกวัดเมื่อปี 2534 ถูกศาลสั่งให้มีอิสรภาพ และออกมาเดินถนนอีกครั้ง หลังต่อสู้คดีนี้มานานถึง 19 ปี

ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2534 เกิดคดีสะเทือนขวัญคนไทย และชาวพุทธทั่วโลก เมื่อตำรวจสหรัฐอเมริกาพบว่า พระสงฆ์ 6 รูป สามเณร 1 รูป แม่ชี 1 รูป และเด็กวัด 1 คน ถูกฆาตกรรมยกวัด หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมคนร้ายเป็นเด็กวัยรุ่น 2 คน คนหนึ่งเป็นเม็กซิกันชื่อ อเล็กซานดรา กราเซียร์ ส่วนอีกคนเป็นเด็กไทยอเมริกัน “โจนาธาน ดูดี้”

คดีนี้ตำรวจสรุปว่าเป็นคดีปล้นทรัพย์ตามคำรับสารภาพของกราเซียร์ เนื่องจากมีเงินและทรัพย์สินของวัดหายไปประมาณ 2,500 เหรียญสหรัฐ แต่ขณะเดียวกัน โจนาธาน ดูดี้ กลับต่อสู้คดีนี้มาตั้งแต่สมัยนั้น กระทั่งศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นสั่งให้ปล่อยตัว แต่ฝ่ายอัยการของสหรัฐได้ตัดสินใจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุด และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสูงมีความเห็นให้ส่งสำนวนคดีนี้กลับไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาใหม่อีกครั้ง โดยขีดกรอบว่าต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือนนี้

นั่นจึงเป็นคำตอบสุดท้ายว่า โจนาธาน ดูดี้ จะถูกปลดปล่อยให้มีอิสรภาพหรือไม่ ท่ามกลางปริศนาที่ดำมืดมาตลอด 19 ปี ว่าเขาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ หรือเกิดขึ้นจากน้ำมือคนอื่น กระทั่งประเด็นการฆ่ายกวัดก็ยังคงมีหมอกหนาทึบปิดบังไว้ ไม่มีใครตอบได้อย่างเต็มปากว่าสาเหตุของการฆ่าเกิดจากการปล้นทรัพย์จริงตามที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐถกแถลงไว้หรือไม่

ถึงตอนนี้ พระครูวิเทศพรหมคุณ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และเข้ามาอยู่ที่วัดแห่งนี้ทันทีหลังเกิดเหตุเพียงวันเดียว รวมทั้งชุมชนชาวไทยที่นั่นไม่ได้กังวลถึงสาเหตุของเหตุการณ์ในวันนั้นแล้ว แต่ประเด็นที่สำคัญมากกว่านั่นคือ หาก โจนาธาน ดูดี้ ได้รับการปล่อยตัวออกมา จะมีอะไรมาการันตีความปลอดภัยของพระสงฆ์ที่วัดพรหมคุณารามได้ และนั่นคือสิ่งที่พระทั้งหมด 7 รูปที่จำวัดอยู่กำลังกังวลที่สุด

“ถึงตอนนี้มีพระสงฆ์ 4 รูป ขอกลับมาที่เมืองไทยแล้ว หลังรู้ข่าวว่า ดูดี้ อาจจะได้รับการปล่อยตัว โดยจะกลับทันทีหลังจากออกพรรษา ส่วนอีก 2 รูป จำใจต้องอยู่ทั้งที่กังวล เนื่องจาก 1 รูป กำลังรอกรีนการ์ด ส่วนอีกรูปอาพาธต้องรักษาตัวต่อเนื่อง” เจ้าอาวาสวัดพรหมคุณาราม กล่าวที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เนื่องจากต้องเดินทางมาศึกษาต่อที่กรุงเทพฯ และจะกลับไปแอริโซนาในเดือน ธ.ค.

พระครูวิเทศพรหมคุณ บอกว่า ทุกวันนี้ยังมีคนถามอยู่ว่าคดีนี้มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เนื่องจากเป็นพระเพียงรูปเดียวในขณะนี้ที่เชื่อมติดกับเหตุการณ์วันนั้นได้ และเป็นเพื่อนกับ พระไพรัช พรหมวโร เจ้าอาวาสรูปเดิมที่ถูกฆ่าตายไปด้วย แต่เราก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน ถึงตอนนี้ก็ไม่อยากรู้แล้วว่าสาเหตุของการฆาตกรรมที่แท้จริงเกิดจากอะไร แต่สิ่งที่น่ากังวลที่สุดตอนนี้ คือ พระทุกรูปที่จำวัดอยู่กำลังหวาดกลัว ดูดี้จะหวนกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง

“อาตมาก็รู้สึกกังวลหากเขาได้รับการปล่อยตัว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหรือไม่ ไม่ว่าเขาจะก่อเหตุหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะเกิดความแค้น นั่นทำให้อาตมารู้สึกไม่มั่นใจและกลัวว่าอาจจะตายฟรี หากถูกฆ่าตายเหมือนกับอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งใครก็รับประกันไม่ได้” พระครูวิเทศพรหมคุณ กล่าวด้วยความกังวล

หลวงพ่อบอกว่า ในใจของพระทุกรูปเริ่มหวาดกลัว มองกันว่าสมัยก่อนไม่มีเหตุการณ์อะไรยังถูกฆ่ายกวัด แต่ตอนนี้มีเหตุการณ์ที่เป็นเชื้อเกิดขึ้นแล้วจึงทำให้กังวลกันไปใหญ่ อาตมาบอกได้อย่างเดียวว่าทุกอย่างไม่ควรจองเวรกัน อาตมาอาจจะไม่อยู่ถาวร แต่การหาเจ้าอาวาสมาแทนเป็นเรื่องยาก

หลวงพ่อวัดไทยในแอริโซนา เรียกร้องให้คณะสงฆ์ในไทย หรือมหาเถรสมาคม รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หันมาให้ความสำคัญ และให้ความสนใจกับความปลอดภัยของพระไทยในต่างแดน หลวงพ่อมองว่าที่ผ่านมาคณะสงฆ์ไม่เคยเหลียวแลว่าพระไทยจะอยู่กันอย่างไร โดยเฉพาะที่วัดพรหมคุณาราม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะทำให้พระเกิดความมั่นใจมากกว่านี้ รวมทั้งให้ความมั่นใจกับพุทธศาสนิกชนด้วย

“จะให้ตำรวจมาคุ้มครอง เขาก็ไม่มาหรอก สมัยก่อนหลังเกิดเหตุตำรวจก็วนเวียนมาดูบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ทุกวันนี้ต้องระวังกันเอง เช่น สร้างกำแพง ทำประตูขึ้นมาจากเดิมที่เคยเปิดโล่ง รวมทั้งติดกล้องวงจรปิด แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่สามารถป้องกันได้ 100%”เจ้าอาวาสรูปเดิม กล่าว และไม่ขอพูดเรื่องร้ายๆ อีก เพราะไม่อยากยึดติดกับภาพฝันร้ายเดิมๆ

หลวงพ่อยังฝากถึงมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรที่จะให้ความสำคัญ และหันมามองพระไทยในต่างแดนบ้าง ที่ผ่านมามักมองกันว่าพระในต่างประเทศนั้นร่ำรวย อยู่กันอย่างสุขสบาย และไม่ต้องทำอะไร

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับกันหมดทุกคนอยู่ด้วยความลำบาก ต้องหาเงินจ่ายค่าเช่า และค่าสาธารณูปโภค อีกทั้งปัจจัยที่ได้รับบริจาคก็ไม่ได้มีมากมายอะไร แถมยังต้องต่อสู้กับความหวาดกลัวต่างๆ นานาจากชุมชนที่อยู่รอบวัด ซึ่งไม่ได้เป็นชาวพุทธ ประเด็นต่างๆ เหล่านี้จึงควรหาทางสนับสนุนด้วย

ถึงตอนนี้แม้ว่าหมอกดำแห่งความกังวลยังคงอยู่ แต่พระครูวิเทศพรหมคุณก็ยืนยันที่จะอยู่ที่วัดพรหมคุณารามต่อไปก่อน แม้จะเต็มไปด้วยความกลัว และความหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือหรือเยียวยาจากคณะสงฆ์ในไทย

ในขณะที่อีกไม่เกิน 6 เดือนนี้ ก็จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า โจนาธาน ดูดี้ จะได้รับอิสรภาพหรือไม่ หากได้รับอิสรภาพ เขาจะต้องไปอยู่กับครอบครัวที่รัฐโคโลราโด ถึงจะมีระยะทางที่ห่างกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พระทั้งหมดคลายกังวลลงไปได้ ช่วยหลวงพ่อ หลวงพี่ด้วยครับ!!!