posttoday

"อัศวิน"แถลงยกเลิกแนวคิดนำหอศิลป์ฯให้กทม.บริหารเอง

15 พฤษภาคม 2561

"อัศวิน"แถลงยกเลิกแนวคิดนำ "หอศิลปวัฒนธรรมฯ" มาให้กทม.บริหารเอง แจงให้มูลนิธิฯ บริหารจนครบสัญญาในปี 64

"อัศวิน"แถลงยกเลิกแนวคิดนำ "หอศิลปวัฒนธรรมฯ" มาให้กทม.บริหารเอง แจงให้มูลนิธิฯ บริหารจนครบสัญญาในปี 64

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงผลภายหลังการประชุมผู้บริหารกทม. ถึงกรณีแนวทางพิจารณาของกทม.ในการเตรียมนำหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครกลับมาบริหารเอง ว่า ขณะนี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯอัศวิน ไปแล้ว ถ้าพี่น้องประชาชนไม่เห็นด้วยกับการที่กทม. จะเข้าปรับปรุงพื้นที่ภายในหอศิลป์ฯ ซึ่งกทม.จำเป็นต้องหอศิลป์ฯ กลับมาบริหารเอง เพราะขัดต่อระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครนั้น ทางกทม.จะยุติแนวคิดดังกล่าว และปล่อยให้การบริหาร โดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นตามบันทึกลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2564 เหลือระยะเวลาอีก 3 ปี กทม.จะรอให้ไปถึงระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาการมอบสิทธิให้มูลนิธิฯ บริหารก่อนแล้วค่อยหาแนวทางดำเนินการต่อไปในอนาคต ส่วนในเรื่องการบริหารเงินสนับสนุนว่ากทม.จะต้องให้เงินอุดหนุนแก่หอศิลป์ฯ ตามเอ็มโอยูหรือไม่นั้น ตนไม่เคยเห็นเอ็มโอยูดังกล่าวว่ามีเงื่อนไขว่าอย่างไรบ้าง

"ผมก็มีแต่ความคิดที่ดีๆ ต้องการให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ที่บอกว่าหอศิลป์ฯ ขาดทุนปีละ 80 ล้านบาทนั้น ผมไม่เคยพูด ไม่รู้ว่าไปเอาข้อมูลมาจากไหน ผมไม่เคยพูด บางครั้งข่าวเขียนกันไปเรื่อยเปื่อย ให้ไปหาหลักฐานมาว่าผมพูดตรงไหน อย่างไร เพราะนักข่าวก็อัดเสียงตลอดอยู่แล้ว แต่ผมไปพูดตอนไหน เอาไปเขียนกัน ซึ่งการจะขาดทุนหรือได้กำไร ไม่เกี่ยวกับกทม. แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการของมูลนิธิฯ ซึ่งหากสังคมไม่เห็นด้วย ผมก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมให้สำนักวัฒนธรรม ฯ ยุติการนำเสนอแนวทางดำเนินการให้กทม.บริหารหอศิลป์ฯ จนกว่าจะครบปี 2564 ค่อยมาว่ากันใหม่ ซึ่งผมได้ยืนยันผ่านเฟซบุ๊กไปแล้วเมื่อวานนี้"พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

ขณะเดียวกัน ทราบว่าจะมีกลุ่มศิลปินเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สั่งให้ผู้ว่าฯกทม.ยุติเรื่องดังกล่าว เมื่อวานนี้นายกฯ ก็ได้โทรบอกแล้วว่าอะไรที่ประชาชนไม่เห็นด้วย ขอให้ตามใจประชาชนแล้วกัน จากนั้นได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กทันที

เมื่อถามว่าการยุติดังกล่าวเพราะเกิดจากการเคลื่อนไหวของเหล่าศิลปินและประชาชนหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การดำเนินโครงการทุกอย่างจะต้องฟังเสียงจากประชาชน หากไม่เห็นด้วยจำเป็นต้องยุติ อาทิ การตัดถนน หากมีการต่อต้านจากประชาชนและผู้สัญจร กทม.ก็จำเป็นยกเลิก เพราะการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.จะต้องทำเพื่อประชาชน ในเมื่อประชาชนไม่เห็นชอบก็ต้องหยุด อีกอย่างตนไม่ใช่คนดื้อดึง ส่วนกระแสข่าวว่าการนำหอศิลปฺฯ กลับมาบริหารเองเพื่อเลี่ยงการจัดกิจกรรมทางการเมืองนั้น ไม่เกี่ยวกัน เพราะตนไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้จากการเมือง ต้องเรียนว่าไม่ได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย คำนึงเพียงจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ภายในอย่างไร เพราะครั้งที่ลงพื้นที่ไปยังหอศิลป์ฯ เห็นว่ามีพื้นที่ควรใช้สอยให้เกิดประโยชน์ อาทิ การจัดหาโต๊ะ เก้าอี้ให้เด็กนั่ง แต่ทางสำนักวัฒนธรรมฯ แจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เพราะอยู่ภายใต้การบริหารของมูลนิธิฯ ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้มาก่อน จึงหารือกันว่าจะเข้าไปดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพียงเท่านั้นเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในปีงบประมาณ 2562 จะมีการนำเสนองบประมาณเพื่ออุดหนุนหอศิลป์ฯ หรือไม่นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการนำเสนองบประมาณของสำนักวัฒนธรรมฯ ส่วนการจะได้รับจัดสรรงบประมาณหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบจากสภากทม.

"ยืนยันว่า ขณะนี้ประชาชนไม่อยากให้กทม.เข้าไปดูแล เนื่องจากกทม.ไม่มีประสบการณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ก็ให้ทางมูลนิธิฯ เป็นผู้ดำเนินการไปกว่าจะครบกำหนดปี 2564 ส่วนตอนนั้นผู้ว่าฯกทม.จะเป็นใคร ผมก็ไม่รู้แล้ว"พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

เมื่อถามอีกว่าสภากทม.ไม่เห็นชอบงบประมาณประจำปี 2561 เพราะเห็นว่าการให้เงินอุดหนุนหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้โครงสร้างของกทม.นั้นเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะกทม.จะต้องออกข้อบัญญัติกทม.มารับรองก่อน แต่พล.ต.อ.อัศวิน จะปล่อยให้มูลนิธิฯ บริหารต่อไปจนถึงปี 2564 ระหว่างนี้จะดำเนินการให้เรื่องดังกล่าวถูกต้องอย่างไร พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว ส่วนนี้ตนจะต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม กทม.จะดำเนินการให้อยู่แล้ว แม้ฝ่ายกฎหมายบอกว่าไม่เห็นชอบหรือไม่ควรก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายหาแนวทางว่ากทม.จะทำอย่างไรถึงจะสามารถให้เงินอุดหนุนได้ จากนั้นก็จะไปพิจารณาเหตุผล ยังยืนอีกครั้งอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนผมโอเคทั้งหมด ไม่มีปัญหา ส่วนที่กลุ่มศิลปินจะให้มีการประชุมร่วมกันนั้น จะมอบหมายให้สำนักวัฒนธรรมฯ ร่วมพูดคุยหารือ ส่วนที่กลุ่มศิลปินระบุว่าการยุติเรื่องดังกล่าวไม่เชื่อมั่นต่อคำพูดของตนนั้น หากไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่อยากเชื่อเอง กระแสข่าวว่าไม่ให้เกียรติศิลปินแห่งชาตินั้น หากไม่ให้เกียรติ คงไม่ยกเลิกหรอก

เมื่อถามอีกว่าสาเหตุที่ยอมถอยเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อคะแนนเสียง ซึ่งผู้ว่าฯกทม.อาจลงสมัครเลือกตั้งครั้งหน้า ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่ทำไปเพราะความพึงพอใจต่อประชาชน