posttoday

พัทยามึน!ถกปมเรือภัตตาคารจอดกลางอ่าวไม่ฟันธงผิดกม.หรือไม่

28 เมษายน 2561

พัทยา-เมืองพัทยาถกปมเรือภัตตาคารจอดบริการกลางทะเลไม่ชี้ชัดผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะที่กรมทรัพยากรยันท้องถิ่นมีอำนาจกำกับดูแลหากละเลยเข้าข่ายม.157

พัทยา-เมืองพัทยาถกปมเรือภัตตาคารจอดบริการกลางทะเลไม่ชี้ชัดผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะที่กรมทรัพยากรยันท้องถิ่นมีอำนาจกำกับดูแลหากละเลยเข้าข่ายม.157

ประชาชนชาวเมืองพัทยา ร้องเรียนว่า มีเรือภัตตาคารเปิดให้บริการลอยอยู่ในน้ำกลางอ่าวพัทยา หน้าท่าเทียบเรือพัทยาใต้ กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพราะไม่ทราบได้ว่ามีรูปแบบการบริหารจัดการด้านระบบขับถ่ายของเสีย และการจัดทิ้งขยะที่มีประสิทธิภาพหรือไม่

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พลตำรวจตรีบัณฑิต คุณจักร รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมหารือแก้ไขปัญหาขยะจากเรือภัตตาคาร โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง นายอนันต์ พรหมดนตรี ผู้อำนวยการกรมทรัพยากรและสิ่ง แวดล้อม จังหวัดชลบุรี นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือ

พลตำรวจตรีบัณฑิต กล่าวว่าหลังได้รับเรื่องร้องเรียนได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพิบัติทางทะเลลงพื้นที่ตรวจสอบได้รับรายงานว่ามีเรือภัตตาคารลอยน้ำอยู่กลางอ่าวจำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือนาวาจักรพรรดิ์ เรือพิริยพงษ์ และเรือนิวโอเรียนเต็ล ซึ่งเป็นเรือภัตตาคารและแสดงโชว์ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาใช้บริการวันละหลายพันคน ขณะที่ระบบการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของเรือเหล่านี้ ทราบว่าได้มีการนำขยะใส่ถุงพลาสติกสีดำมากองไว้บริเวณท้ายเรือเป็นจำนวนมาก เพื่อรอการขนถ่ายไปสู่ฝั่ง ขณะที่บริเวณโดยรอบตัวเรือและพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่พบการทิ้งขยะลงสู่ทะเลแต่อย่างใด

ที่ผ่านมาพบว่าเรือภัตตาคารเหล่านี้จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อม สาขาเกาะล้าน เป็นผู้จัดเก็บขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยใช้บริการเรือขนถ่ายขยะของเมืองพัทยาในการจัดเก็บขึ้นฝั่งเพื่อนำไปที่โรงพักขยะที่สุขุมวิทซอย 3 ซึ่งคิดค่าธรรมเนียมการจัดเก็บอยู่ที่เดือนละ 12,000 บาท ในการจัดเก็บขยะปริมาณวันละ 1.5 ตัน แต่หลังจากที่เรือขนถ่ายขยะของเมืองพัทยา เกิดชำรุดเสียหายไม่สามารถจัดเก็บขยะได้ ทางผู้ประกอบการจึงได้มีการว่าจ้างภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการแทน ขณะที่ระบบการบริหารสิ่งปฏิกูลและน้ำเสียภายในเรือนั้นตามกฎหมายแล้วจะต้องถังแซ็ท รวมถึงบ่อดักจับไขมัน เพื่อเป็นการป้องกันการปล่อยสิ่งปฏิกูลและของเสียลงสู่ทะเล ซึ่งเรือทั้ง 3 ลำ ก็ได้มีการแจ้งไว้ว่ามีการจดทำอย่างถูกต้อง เนื่องจากข้อจำกัดเหล่านี้มีความจำเป็นในการประกอบเพื่อใช้ในการต่อใบอนุญาตให้จอดเรือได้เป็นประจำทุกปี

ส่วนเรื่องของใบอนุญาตการประกอบการการของเรือภัตตาคารเหล่านี้นั้น ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ และยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีการขอประกอบกิจการก่อนการประกาศของกระทรวงทัพยากรในปี พ.ศ.2553  ที่ประกาศให้เมืองพัทยาอยู่ในเขตควบคุมสิ่งแวดล้อมและไม่อนุญาตให้มีการประกอบกิจการเรือภัตตาคารบริเวณอ่าวพัทยาเพื่อป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล อย่างไรก็ตาม สำหรับเรือภัตตาคารที่จอดลอยลำทอดสมออยู่ในขณะนี้จากการตรวจสอบพบหลักฐานว่ามีเพียงการได้รับการอนุญาตจากรมเจ้าท่าอย่างถูกต้องขณะที่เรือเหล่านี้มีการขอจดทะเบียนเรืออย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นความผิดชอบจากกรมเจ้าท่าไม่ใช่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา เนื่องจากเรือเป็นเรือขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 24 เมตร

ด้าน นายอนันต์ พรหมดนตรี ผู้อำนวยการกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จังหวัดชลบุรี กล่าวว่าทางกระทรวงได้มอบอำนาจให้เมืองพัทยา เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มีอำนาจควบคุมและบังคับใช้กฎหมายได้เต็มที่ และเมื่อพบว่ามีการกระทำผิด กรณีนี้ก็อาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายในมาตร 157 ส่วนการประกอบกิจการของเรือภัตตาคาร ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถประกอบกิจการได้หากดำเนินการก่อน ที่จะมีประกาศกระทรวงทรัพยากร ในปี 2553 ซึ่งจากสอบถามก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดว่าเรือทั้ง 3 ลำ และยังมีการขออนุญาตจอดเพิ่มอีก 1 ลำ รวมเป็น 4 ลำ มีการขออนุญาตประกอบกิจการก่อนหรือไม่ ทราบเพียงแต่ใบอนุญาตที่ได้รับเป็นเพียงใบอนุญาตจอดรถเรือ จากกรมเจ้าท่า และใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบริการจากอำเภอบางละมุงส่วนใบอนุญาตการประกอบกิจการประเภทเรือภัตตาคารยังไม่พบ

อย่างไรก็ตามปัจจุบันเมืองพัทยาสามารถสั่งระงับการประกอบกิจการได้ หรือจะมีมาตรการในการผ่อนผันกิจการดังกล่าวต่อไป เนื่องจากพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องมีกิจการเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ทั้งหมดทั้งมวลการจะอนุญาตให้เปิดกิจการอย่างถูกต้องเมืองพัทยาเองต้องเข้มงวดในการออกมาตรการที่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องของน้ำเสีย สิ่งปฏิกูลและขยะในการประกอบกิจการดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้เมืองพัทยาจะ ต้องนำเสนอเรื่องมายังสำนักงานสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้มีการดำเนินการประกอบกิจการเรือภัตตาคารต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตามผลสรุปในที่ประชุมได้มีมติให้มีการจัดประชุมหารือร่วมอีกครั้ง เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นกรณีที่การประกอบการจะต้องไม่ส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยจะมีการเรียกผู้ประกอบการมาร่วมเพื่อชี้แจงมาตรการและข้อห้ามต่างๆ เพื่อ ให้นำไปปฏิบัติใช้อย่างเข้มข้น ขณะที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด จะได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประ ชุมคณะอนุกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัด ในการขอความชัดเจนกรณีบทบาทและหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่เมืองพัทยาจะสามารถนำไปใช้เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจนต่อไป

 

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน