posttoday

"บิ๊กตู่"ขู่พรรคการเมืองไม่มาหารือมิ.ย.นี้ จะกำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้

20 มีนาคม 2561

"ประยุทธ์"เตือนพรรคการเมืองไม่ร่วมวงหารือ มิ.ย.นี้ จะกำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้ บอก "สนช." อย่าโยนรัฐบาล ส่งศาลรธน.ตีความกฎหมายส.ส. เชื่อฉบับนี้ไม่มีปัญหา

"ประยุทธ์"เตือนพรรคการเมืองไม่ร่วมวงหารือ มิ.ย.นี้ จะกำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้ บอก "สนช." อย่าโยนรัฐบาล ส่งศาลรธน.ตีความกฎหมายส.ส. เชื่อฉบับนี้ไม่มีปัญหา

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเชิญพรรคการเมืองร่วมหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งในเดือนมิ.ย.นี้ ว่า เรื่องการเชิญพรรคการเมืองนั้นใครจะมาหรือไม่มาก็แล้วแต่เขา ถ้าไม่มาประชาชนจะว่าอย่างไร ตนต้องการให้ประชาชนรับทราบ รับรู้ด้วยว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคตไม่ได้หมายความว่าตนจะไปรู้นโยบายอะไรของเขา เพียงแต่เขาต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ในสิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะทุกพรรคอาสาที่จะเข้ามาทำงานการเมืองให้กับประเทศ

"อันนี้สุดแล้วแต่ถ้ามาไม่ครบหรือไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย มันก็กำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้นั่นแหละ"นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้รัฐบาลเสนอศาลรัฐธรรมนูญตีความพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. หลังจากที่สนช.ยื่นในส่วนของส.ว.ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องว่ากันไป เป็นขั้นตอนทางกฎหมายสามารถกระทำได้ เพราะมีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ไม่อย่างนั้นศาลฯ ไม่มีงานทำ ตราบใดที่ยังมีข้อห่วงใยข้อกังวลก็ต้องให้ศาลตอบให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวัง ตนก็ระมัดระวังอยู่แล้วไม่ให้เกิดผลกระทบต่อโรดแมป

"พออย่างนี้มาก็บอกว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบในภาพรวม พอเขาเห็นชอบร่วมกันมาก็บอกรัฐบาลไปก้าวล่วง โดยใช้อำนาจสั่งทำให้ผ่าน เรื่องแบบนี้มีทั้งสองทาง"นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเชิญพรรคการเมือง มาชี้แจงถึงนโยบายนั้นถือเป็นการแทรกแซงพรรคการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเชิญพรรคการเมืองมาพูดคุย ไม่ได้หมายถึงให้มาพูดคุยในนโยบายพรรค แต่อยากให้พูดถึงว่าจะแก้ไขปัญหา เช่น เรื่องการทุจริต เรื่องการบุกรุกป่า อย่างไร โดยต้องคุยแบบนี้ แล้วทำไมนโยบายพรรคมันปิดลับกันมากหรืออย่างไร แต่พรรคการเมืองสามารถเปิดเผยนโยบายพรรคของตัวเองในภายหลังก็ได้ เพราะตนไม่ได้อยากจะรู้ เพียงแต่อยากจะถามว่าพรรคการเมือง จะทำต่อในสิ่งที่ตนทำไว้อย่างไร ถ้ามีวิธีการอื่นก็ต้องถามว่า ประชาชนจะรับได้หรือไม่ ไม่ใช่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย แล้วก็เลือกกันออกมา มันไม่ใช่

“มันต้องสร้างการรับรู้ อย่างวันนี้ผมบอกทุกอันแล้ว ผมเคยหวงห้ามว่าใครจะเอาของผมไปใช้บ้างไหม และที่ผ่านมาผมทิ้งของเขาหมดหรือเปล่ามันก็ไม่ใช่อีก อะไรที่สานต่อได้ผมก็ทำ ส่วนอะไรที่มีปัญหาก็แก้ไขให้ถูกต้อง ใครเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาลก็ต้องทำให้ประเทศชาติเจริญเติบโต นโยบายพรรคนั้นไม่ใช่นโยบายที่จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงได้เพราะนโยบายพรรคเขาทำเพื่อสนองตอบบางกลุ่มเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นไม่ใช่หรือ ยกตัวอย่าง การจำนำข้าว ถามว่าให้ใคร แล้วเคยรับผิดชอบในเรื่องงบประมาณแผ่นดินหรือไม่”

เมื่อถามว่า หากพรรคการเมืองไม่มาร่วมหารือด้วยจะไม่สามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้ใช่หรือไม่ โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่ไม่มา นายกฯ กล่าวว่า ไม่มาแล้วจะคุยกับใคร

เมื่อถามย้ำอีกว่าหากพรรคการเมืองไม่มาแล้วจะกำหนดวันเลือกตั้งได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องหาข้อยุติให้ได้มากที่สุด วันนี้มีพรรคการเมืองกี่พรรคที่เกี่ยวข้อง เพราะตอนนี้มีอยู่ 40-50-60 พรรคแล้ว และกกต.จะรับรองทุกพรรคหรือไม่

"ใครอยากมาก็มา แต่ผมไม่ไปเบี้ยวอยู่แล้วแหล่ะ ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกตั้ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องกำหนดเองจะไปยากอะไรเล่า" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะส่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นเรื่องของสนช. เพราะกฎหมายนี้ยังไม่ได้ส่งกลับมาที่ตนเลย อย่ามาโยนให้รัฐบาล ในเมื่อท่านยังมีปัญหากันอยู่ก็ต้องแก้ที่ท่าน ถ้ามันไม่จำเป็นตนจะส่งทำไม ในเมื่อมอบหมายความรับผิดชอบไปแล้วก็ให้ไปทำกันตรงโน้น มิเช่นนั้นจะเสียหายกว่าที่จะได้อะไรกลับมา ในเมื่อวันนี้สนช. ยังเห็นไม่ตรงกัน

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องที่สนช. เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบไม่ตรงกัน แต่เกิดจากความเป็นห่วง เพราะมีเสียงทักท้วงจากตรงนั้นตรงนี้ เช่น นักการเมือง และอื่นๆ จึงเกิดความไม่มั่นใจ ดังนั้น ก็ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนตัดสิน เพื่อจะไม่เกิดความเสียหายในวันหน้า มิเช่นนั้น เมื่อเลือกส.ว.มาแล้วมีปัญหาฟาวร์ทั้งหมดจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบพอถึงตอนนั้น

เมื่อถามว่า แสดงว่าสนับสนุนให้ทั้ง 2 ฉบับส่งตีความใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ เห็นสนช.ส่งฉบับเดียวไม่ใช่หรือ เมื่อถามย้ำว่า ควรส่งทั้ง 2 ฉบับหรือไม่เพื่อกันปัญหาในอนาคต นายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่มีหรอก ฉบับส.ส.ไม่น่าจะมีปัญหา”

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยขอจดจัดตั้งพรรคการเมือง สามารถทำได้และเหมาะสมหรือไม่ จะเอื้อต่อบรรยากาศการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปดูกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ได้ ตนให้ความสนใจกับทุกพรรค และเป็นเรื่องของประชาชนพิจารณาเอาเองและเป็นเรื่องของกฎหมาย