posttoday

ตร.เร่งล่าตัวสาวต้องสงสัยฆ่าเผาสามีฝรั่งก่อนหนีไปกับหนุ่มใหม่

22 มกราคม 2561

ผู้บังคับการตำรวจภูธรพิจิตรตั้งชุดล่าสาวฆ่าหั่นศพเผานั่งยางสามีชาวอิตาลี เผยพบจดหมายตัดพ้อ "เธอบอกว่ารักเพราะเพียงต้องการเงิน"

ผู้บังคับการตำรวจภูธรพิจิตรตั้งชุดล่าสาวฆ่าหั่นศพเผานั่งยางสามีชาวอิตาลี เผยพบจดหมายตัดพ้อ "เธอบอกว่ารักเพราะเพียงต้องการเงิน"

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบึงนาราง พล.ต.ต.ธวัชชัย มวลนรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้ประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ฆ่าหั่นศพเผานั่งยาง นายจูเซปเป เดอ สเตฟานี อายุ 61 ปี  ชาวอิตาลี บริเวณข้างอ่างเก็บน้ำบ้านบึงทับจั่น ตรงข้าม อบต.แหลมรัง ตำบลแหลมรัง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร  เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ธวัชชัย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และตำรวจท่องเที่ยว ได้สรุปรวบรวมพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ และหลักฐานที่ตรวจค้นภายในบ้านพักของ นางรุธจิรา เอี่ยมละม้าย ภรรยาของผู้ตายซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยและหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกับสามีใหม่ ส่งตรวจพิสูจน์ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสืบสวนทางอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสารในทางลับ ตลอดจนพยานสิ่งแวดล้อมมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน  ซึ่งจะทราบผลพิสูจน์ต่างๆในเร็วๆวันนี้ เพื่อนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องสงสัย และผู้ร่วมขบวนการฆ่าเผานั่งยางในครั้งนี้

พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า ภรรยาของผู้ตายขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปกับสามีใหม่ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ชื่อนายฮามัวรี่ พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส โดยเจ้าหน้าที่พบจดหมายที่ผู้ตายได้เขียนทิ้งเอาไว้ 1ฉบับ มีข้อความว่า "ที่เธอบอกว่ารัก เพราะเพียงต้องการเงินเท่านั้น ไม่เคยเจอใครเลวเท่านี้" ทำให้มีผู้ตายและภรรยาทะเลาะกันอย่างรุนแรง

สำหรับนายฮามัวรี่ เจ้าหน้าที่ได้รับการยืนยันจาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าเป็นบุคลต้องห้ามในการเข้ามาในราชอาณาจักร จึงคาดว่าเป็นชนวนเหตุและนำไปสู่การเกิดฆาตกรรมขึ้น

อย่างไรก็ตามได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ติดตามตัวนางรุธจิรา และนายฮามัวรี่ ชาวฝรั่งเศสมาสอบสวน ซึ่งเชื่อว่าในการก่อเหตุครั้งนี้จะมีคนอื่นๆมีส่วนร่วมอีก 2-3 คน โดยได้ส่งทีมสืบสวนเพิ่มเติมอีกชุดหนึ่งแกะรอยติดตามอยู่ซึงเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าในเร็ววันนี้จะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญกับคนในท้องที่เป็นอย่างมาก