เรือบรรทุกข้าวสารชนตลาดน้ำวัดท่าการ้องนักท่องเที่ยวเจ็บ1

เรือบรรทุกข้าวสาร750ตัน เจอกระแสน้ำพัดจนเสียการควบคุม ไหลชนแพตลาดน้ำวัดท่าการ้องอยุธยาพังเสียหาย นักท่องเที่ยวเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งกู้ซากเรือขึ้นจากแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อเวลา 10.30 น. ได้เกิดเหตุเรือลำเลียงชื่อ ยูอี  46 ซึ่งบรรทุกข้าวสารน้ำหนัก  750  ตัน รวม 30,000  กระสอบ  จากบริษัทสยามอินดิก้า  จำกัด  อ.ป่าโมก  จ.อ่างทอง ได้ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเชี่ยวจากภาวะน้ำเหนือหลาก พัดจนเสียการควบคุมและได้พุ่งเข้าชน แพปลาและตลาดน้ำของวัดท่าการ้อง ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง โดยนักท่องเที่ยวที่กำลังเลือกซื้อสินค้าอยู่บริเวณแพต่างวิ่งหนีตายขึ้นมาบนฝั่งหน้าวัดท่าการ้องอย่างอลหม่าน

ทั้งนี้เรือลำดังกล่าวกำลังเดินทางไปส่งสินค้าที่ท่าเรือเกาะสีชัง จ.ชลบุรี โดยก่อนที่จะถึงตลาดน้ำประมาณ 1 กม. ได้ถูกกระแสน้ำพัดจนเสียการควบคุม จนพุ่งชนกับตอหม้อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา  ต.ภูเขาทอง ก่อนจะไหลตามน้ำมาจนชนเข้ากับแพปลาและตลาดน้ำ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว 1  รายคือนางวารุณี อ่อนศรี อายุ 30 ปีนักท่องเที่ยวชาว ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำและถูกนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว  

นายสังข์เวียน   คุ้มแก้ว คนขับเรือโยง โชคนพดารา ซึ่งลากเรือลำเลียงมา กล่าวว่า ระหว่างการลากเรือโมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ภูเขาทอง  อ.พระนครศรีอยุธยา  ซึ่งกระแสน้ำแรงมาก  เรือลำที่  3  สะบัดจนเสียการควบคุม และท้ายเรือฟาดกับตอม่อของสะพานทำให้เรือส่ายไปมาและบังคับไม่อยู่ จึงบอกให้ตัดเชือกผูกเรือที่โยงติดกันออก และให้คนที่อยู่ในเรือพ่วงลากจูงทั้งหมดกระโดดหนีน้ำ เพราะเรือกำลังจะล่มและพยายามบังคับเรือไม่ให้ฟาดเข้ากับแพปลาตลาดน้ำวัดท่าการ้องแต่เอาไม่อยู่  จึงฟาดเข้ากับแพปลาอย่างแรงกระทั่งเรือลำเลียงค่อยๆ จมลงสู่ก้นแม่น้ำ

นางฉวีวรรณ   แสงพระจันทร์  แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งขายอยู่ในแพ กล่าวว่าได้ยินเสียงคนที่อยู่ในแพเอะอะ  โวยวายและบางคนตะโกนให้คนที่อยู่ในแพทั้งหมด   รีบขึ้นจากแพตลาดน้ำเพราะท้ายเรือบรรทุกข้าวสารกำลังจะพุ่งชน  จึงรีบวิ่งหนีแต่ไม่ทัน โดยถูกท้ายเรือกระแทกตกน้ำ

ด้าน พ.ต.ท.พิชา รุจินาม รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทางคดีอาญา กับนายสังข์เวียน คุ้มแก้ว คนขับเรือในข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายส่วนทางคดีแพ่งต้องให้ผู้เสียหายแท้จริงเจาจรรับรับชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากไม่มีการชดใช้ก็สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้อีกเช่นกัน

ด้านพระครูสุทธิปัญญาโสภณ กล่าว่า แพและเรือในตลาดน้ำมีการลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างมากและกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหายที่แท้จริง

ขณะที่ นาวาโท รชต  ผกาฟุ้ง เจ้าท่า จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า มีการวางทุ่นเตือนอันตรายและออกประกาศชาวเรือให้หยุดเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่เกิดเหตุไปก่อนจนกว่าจะมีการกู้เรือที่จมได้สำเร็จ