กองปราบฯรวบมือปืนเงินผ่อนหนีคดีฆ่าญาติสนิทอดีต ส.ส.กระบี่

ตำรวจกองปราบ รวบ มือปืนรับจ้าง หนีคดีฆ่าญาติสนิทอดีต ส.ส.กระบี่ เจ้าตัวให้การรับสารภาพเพื่อนสนิทว่าจ้าง แต่ได้เงินในลักษณะผ่อนจ่าย

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.) จับกุมตัว นายธีรศักดิ์ หรือตู่ จันทร์ทอง อายุ 34 ปี ชาว อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น และหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 70 เม็ด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ริมถนนบริเวณกลางซอยหลวงแพ่ง 8 ม. 12 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายธีรศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์เป็นมือปืนรับจ้าง และเคยก่อคดีฆ่าผู้อื่นมาแล้ว 2 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี โดยคดีแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2546   ผู้ต้องหารายนี้ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิง นายวรายุทธ หอมหวน และนายระพีพจน์ เอียดช่วย ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ริมถนน ใน ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นเหตุให้นายวรายุทธฯ เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ ส่วนนายระพีพจน์ฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

กระทั่งต่อมาช่วงประมาณเดือน ก.ย. 2554 ผู้ต้องหารายนี้พร้อมกับพวกอีก 1 คนก็ได้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนตามประกบยิง นายวีระ เอ่งฉ้วน อายุ 39 ปี เจ้าของสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมันและเจ้าของร้านรับซื้อเศษยางพารารายใหญ่ ใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ และเป็นญาติใกล้ชิด นายอาคม เอ่งฉ้วน อดีตส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ จนเสียชีวิตคาที่บริเวณหน้าร้านรับซื้อยางดังกล่าว ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ 1 ราย คงเหลือผู้ต้องหารายนี้ที่ยังหลบหนีการจับกุม

กระทั่งชุดสืบสวนกองปราบฯ ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในซอยหลวงแพ่ง 8 หมู่ 12 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว พร้อมกับขยายผลตรวจค้นพบยาเสพติดยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในห้องของ นายธีรศักดิ์ ซึ่งยู่ในซอยดังกล่าวอีกจำนวน 70 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

นายธีรศักดิ์ ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยคดีแรกที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นั้นยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายและ ผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันมาก่อน และเจ็บแค้นที่กลุ่มผู้ตายเคยนำมีดมาไล่ฟันตนจึงกลับไปเอาอาวุธปืนมาก่อเหตุดังกล่าว ส่วนคดียิงนายวีระ เอ่งฉ้วน ยอมรับว่าได้ร่วมกับพวกก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้รับการว่าจ้างมาจากเพื่อนสนิทในจำนวนเงิน 3 หมื่นบาท ให้ช่วยลงมือก่อเหตุ โดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ส่วนเพื่อนสนิทคนดังกล่าวเป็นผู้ลงมือยิงเอง แต่ระหว่างนั้นตนเห็นว่านายวีระ ยังไม่เสียชีวิตตนจึงลงไปยิงซ้ำอีกที

อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุตนยังได้รับเงินค่าจ้างไม่ครบ เนื่องจากได้รับในลักษณะของการผ่อนจ่ายครั้งละ 2-3 พันบาท ซึ่งจนถึงตอนนี้เพิ่งได้รับเงินมาเพียงแค่   1 หมื่นบาทเพียงเท่านั้น กระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป