วัคซีนแก้หวัด2009พิจิตรเกลี้ยง ‘สสจ.’เต้นเบิกโดสเพิ่มสกัดลาม
นางสุทธิยา ผอบเหล็ก หัวหน้างานฝ่ายควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พิจิตร เปิดเผยว่า ตลอดเดือน ก.ย.นี้ มีกลุ่มเสี่ยงตลอดจนกลุ่มนักศึกษามาขอฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เอช1เอ็น1 ทำให้วัคซีนล็อตล่าสุด 2.8 หมื่นโดส ได้หมดลงแล้ว ทำให้ จ.พิจิตร ตกอยู่ในภาวะขาดแคลนวัคซีน ต้องหยุดให้วัคซีนราว 7 วัน ขณะนี้ได้ทำเรื่องขอไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แล้ว คาดว่าต้นเดือน ต.ค. จะได้วัคซีนมาเพิ่มเติมอีก 7,000 โดส เพื่อบริการแก่ประชาชนได้ตามปกติ
นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์ สสจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 6.3 หมื่นโดส หมดลงแล้ว อยู่ระหว่างประสานขอเพิ่มเติมจาก สธ.อีก 1.2 หมื่นโดส เนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการและตื่นตัวอย่างมาก โดยเน้นให้บริการกับกลุ่มเสี่ยงก่อน
นพ.ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์ สสจ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ขณะนี้ให้บริการวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงไปแล้วเกือบ 70% คาดว่ายังเพียงพอให้บริการถึงวันที่ 31 ต.ค.
นพ.แสวง หอมนาม นายแพทย์ สสจ.นครนายก กล่าวว่า ได้ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนไปแล้ว 70% ประเมินว่าภายในวันที่ 31 ต.ค. ยังมีวัคซีนเหลืออีกเล็กน้อย
ด้าน ร.อ.นพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ ผู้ช่วยนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในพื้นที่นครราชสีมาพบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รวม 2,003 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 8 คน แยกเป็นในปี 2552 พบผู้ป่วย 1,639 คน เสียชีวิต 7 คน และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นมาถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 รวม 364 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อน และผู้ป่วยไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน
ร.อ.นพ.วรัญญู กล่าวเพิ่มว่า โควตาวัคซีน 79,335 โดส ได้แจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลทั่วทั้งจังหวัด 35 แห่งทั้งหมดแล้ว ยอมรับว่าจำนวนวัคซีนไม่เพียงพอให้บริการประชาชน จึงเน้นฉีดให้กลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ง่าย และอาจมีอาการรุนแรงหากได้รับเชื้อ อาทิ กลุ่มแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้านหน้าดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก คนพิการ ผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน คนอ้วนที่มีน้ำหนักมากเกินไป และหญิงมีครรภ์ จึงต้องเร่งป้องกันในช่วงฤดูหนาวนี้
ทั้งนี้ หากคนกลุ่มนี้ติดเชื้ออาจเกิดอาการแทรกซ้อนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้


