มุขใหม่โจรกรุงเสียบโบรชัวร์ก่อนยกเค้า

บ้านคือวิมานของเรา แต่ไฉนเผลอแป๊บเดียวบ้านเราก็กลายเป็นขุมทองของโจรไปอย่างไม่รู้ตัว

เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ตอนเช้าออกไปทำงานตามปกติ พอเลิกงานกลับมา ปรากฏว่าทรัพย์สินหายเกลี้ยง ทั้งที่ป้องกันเป็นอย่างดีด้วยการล็อกประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา

เหมือนจะเป็นคดีขโมยขึ้นบ้านปกติที่ทุกคนต่างก็ระมัดระวังกันอยู่แล้ว แต่เมื่อสืบสวนลงไปในรายละเอียดยิ่งอึ้งกิมกี่ เพราะวิธีที่โจรใช้สุดแสนจะธรรมดา ด้วยการเก็บเอาใบปลิว กระดาษโฆษณาสินค้า หรือโบรชัวร์ ที่แจกกันตามท้องถนน ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปมาเป็น “เครื่องมือ”

หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะเลือกตระเวนหาบ้านที่จะก่อเหตุตามหมู่บ้าน ชุมชน ที่คนไม่พลุกพล่าน โดยจดจำเวลาขณะนั้นเอาไว้ ระหว่างที่ขับขี่จักรยานยนต์ไปตามซอกซอยต่างๆ นั้น หากพบว่าบ้านไหนน่าจะมีแก้วแหวนเงินทองเก็บสะสมไว้มาก มันก็จะลงมากดกริ่งที่รั้วหน้าบ้าน

หากไม่มีใครอยู่ ก็จะเอาโบรชัวร์ที่เก็บมานั้นเสียบไว้ที่ประตูบ้าน แล้วก็จากไป ทำอย่างนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งได้บ้านเป้าหมายจนพอใจ

เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่เหมือนจะเป็นการก่ออาชญากรรม แต่ตำรวจ สน.พญาไท หูตายังไวตามจับ เอี่ยมฮุย แซ่หลี อายุ 55 ปี กับ สาโรจน์ หงส์ทอง อายุเพียง 19 ปี ได้ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท

ของกลางที่ยึดได้ไม่น้อย มีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น สร้อยทองคำหนัก 2 สลึง อีก 1 เส้น และพระเลี่ยมทองอีก 3 องค์ นอกจากนี้ยังมีสมุดบัญชีธนาคารของเหยื่ออีก ที่เหลือเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน ปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน อุปกรณ์งัดแงะ และกุญแจผีหลายดอก

พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.พญาไท เล่าถึงพฤติกรรมสุดเนียนของโจรรายนี้ว่า ทั้งคู่จะขับขี่จักรยานยนต์ไปตามบ้านพักแล้วลงไปกดกริ่งหน้าบ้าน ถ้าเจ้าของบ้านไม่อยู่ก็จะใช้กระดาษสั่งอาหารตามร้านต่างๆ ไปเสียบไว้ที่ประตูหน้าบ้าน

วันต่อมาจึงย้อนกลับมาดูบ้านหลังเดิมที่เอาโบรชัวร์เสียบทิ้งไว้ ถ้าประตูบ้านเป้าหมายหลังไหนยังมีกระดาษติดอยู่ก็แสดงว่าไม่มีคนอยู่บ้านเสร็จโจร ไม่น่าเชื่อว่ามุขพื้นๆ ไม่มีอะไรต้องพิถีพิถันเลย เปิดทางให้โจรคู่นี้ถือวิสาสะขึ้นไปกวาดทรัพย์สินมาแล้วกว่า 30 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีผู้มาแจ้งความกรณีถูกโจรขึ้นบ้านหลายครั้ง โดยใช้มุขพื้นๆ ที่กล่าวมานี้เอง โดยเฉพาะเสือเฒ่าเอี่ยมฮุย ไม่เพียงแต่ชอบลักทรัพย์เท่านั้น เคยก่อเหตุใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์เหยื่อ และยังเคยแอบอ้างตัวเป็นนายตำรวจยศนายดาบสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กร่างพกปืนไปรีดไถเงินจากชาวต่างด้าวย่านหัวลำโพงอีกด้วย

ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เลยก่อเหตุลักทรัพย์ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ รามคำแหง คลองตัน ซอยสวนพลู ห้วยขวาง ดินแดง และสุขุมวิท

ที่น่าสนใจคือ พอทำทีเอาโบรชัวร์ไปเสียบไว้ที่ประตูบ้านเหยื่อแล้ว ในวันต่อมา หากกระดาษยังอยู่ที่เดิม ก็จะนำกุญแจมาตะไบและลองไขดู หากไขได้ก็จะเข้าไปลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไขได้เสียด้วย

เขาทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 30 ปี ปัจจุบันอายุปาเข้าไป 55 ปีแล้ว เรียกได้ว่ายึดอาชีพขึ้นบ้านคนอื่นมาแล้วกว่า 25 ปี แม้จะเคยถูกจับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง เข้าคุกครั้งละประมาณ 2 ปี แต่ก็ไม่เข็ดเปลี่ยนลูกน้องชวนมาก่อเหตุไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำหน้า

ทั้งนี้ 25 ปีแห่งการเป็นโจรลักทรัพย์ ย่อมการันตีความเชี่ยวชาญเรื่องกุญแจผี ทรัพย์สินที่ได้มา หากเป็นทองคำก็จะเอาไปขายที่ย่านเยาวราชหรือเอาไปหลอม ส่วนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าถ้าไม่เอาไปจำนำก็เก็บไว้ใช้เอง

ได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปเข้าคาเฟ่หมดครับพี่น้อง พอเงินหมดปั๊บก็ไปขึ้นบ้านปุ๊บ มาถูกจับเข้าซังเตคราวนี้ ก็ด้วยข้อหาเดิมๆ คือ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน คนแบบนี้คงไม่ตายดี เพราะต้องเวียนเข้าออกคุกอยู่บ่อยๆ

ว่าไปแล้วไม่มีใครเคยคาดคิดว่าคดีบ้านถูกโจรยกเค้าเกิดจากโบรชัวร์นั่นเอง ต่อไปหากเห็นโบรชัวร์แนะนำสินค้า หรือเมนูอาหารฟาสต์ฟู้ดชุดพิเศษมาเสียบอยู่ที่ประตูบ้านก็ต้องระวังให้มาก อย่าให้บ้านเรากลายเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพกุญแจผี เพราะไม่แน่ว่าลูกน้องตาเฒ่าเอี่ยมฮุยอีกมากมายอาจจะจ้องหยั่งเชิงอยู่หน้าบ้านเราก็เป็นได้!!!