แกะรอยบริษัทขายหินฝุ่น ขบวนการปลอมมันสำปะหลังส่งออก
ตามรอยบริษัทขายหินฝุ่น สู่การกระชากหน้ากากขบวนการปลอมปนมันสำปะหลังส่งออก
ตามรอยบริษัทขายหินฝุ่น สู่การกระชากหน้ากากขบวนการปลอมปนมันสำปะหลังส่งออก
ความต้องการมันสำปะหลังของตลาดเอเชียและยุโรปพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าฤดูกาลผลิตปี 2552 /2553 ประเทศไทยจะผลิตหัวมันสดได้กว่า 21 ล้านตัน แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ ข้อมูลจาก สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุชัดว่าตลาดมีความต้องการถึง 28 – 30 ล้านตันต่อปี
ปัจจัยชี้วัดปริมาณการผลิตในแต่ละปีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและโรคระบาด ส่วนราคาการขายนั้นอยู่ที่ความต้องการ และ “คุณภาพ” ของผลผลิต โดยฤดูกาลผลิตปี 2553/2554 คาดการณ์ว่าจะผลิตได้ไม่ต่างจากเดิมมากนัก คือประมาณ 21 ล้านตัน
อย่างไรก็ดี หากมองในแง่ตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกชั้นนำของโลก มันสำปะหลังทั้งระบบมีมูลค่าสูงถึงกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี
แต่ล่าสุดเกิด “กระบวนการปลอมปน” มันเส้นด้วยวัตถุดิบที่เรียกกันว่า “หินฝุ่น” หรือ สารโดโลไมท์ซีโอไลท์ ซึ่งมีลักษณะเป็นผงละเอียด สีครีม ไม่มีกลิ่น กายภาพโดยรวมคล้ายคลึงกับแป้งมันสำปะหลัง
สารดังกล่าวเป็นตัวเลือกสำหรับ “พ่อค้า-นายทุน” ที่ต้องการค้ากำไร โดยนำสารดังกล่าวนำไปผสมกับผลผลิตเพื่อเพิ่มน้ำหนัก และปริมาณสินค้าเพื่อการส่งออกให้มากที่สุด แต่ไม่คำนึงผลเสียที่จะตามมา
ปราโมทย์ กงทอง นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังฯ เปิดเผยว่า หินฝุ่นนี้สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากแป้งมันเส้นราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 5,500 บาท แต่หินฝุ่นขาวราคาเพียง 1,800 บาท ซึ่งหากนำมาผสมเพียง 20% ก็จะไม่สามารถมองออกได้
“หากแป้งมันเส้นที่ถูกปลอมปนหลุดรอดไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่เข้มงวดมาก ก็จะถูกตีกลับ กระทบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพมันสำปะหลังทั้งระบบ”นายกสมาคมฯ แสดงความกังวล
ขณะที่ อรรถพร พลบุตร สส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคเกษตรกรรม สืบเสาะได้หลักฐานเป็นใบเสนอขายหินฝุ่น จึงได้นัดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อส่งมอบหลักฐาน ในเรื่องนี้ในวันที่ 21 ก.ย. เวลา 14.00 น. นี้
“ใบเสนอขายหินฝุ่นมีชื่อผู้จำหน่ายและเบอร์โทรศัพท์ไว้อย่างชัดเจน เชื่อว่าสามารถนำไปสู่การเอาผิดทั้งขบวนการได้”อรรถพร ระบุ
อรรถพร กล่าวด้วยว่า หลังจากยื่นเรื่องสู่กระบวนการของกดีเอสไอแล้ว จะดำเนินการต่อใน 3 แนวทาง คือ 1.ให้เครือข่ายในจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหินฝุ่นเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเสนอให้ดีเอสไอเป็นระยะ 2.ประสานเรื่องไปยังกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) และนายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังฯ เพื่อร่วมกันดำเนินการ 3.นำเรื่องเข้าคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคเกษตรกรรมด้วย
สำหรับใบเสนอขายจากกระบวนการทั้งหมด ที่ทีมข่าว “โพสต์ทูเดย์” ตรวจสอบพบ ระบุชื่อ บริษัทขึ้นต้นด้วยคำว่า "พี" ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองลพบุรี จ.ลพบุรี มีเบอร์โทรศัพท์ เบอร์แฟ็กซ์ติดต่อ พร้อมระบุเลขที่การจดทะเบียน
เนื้อหาในเอกสารการจัดจำหน่าย อธิบายถึงวิธีการใช้อย่างชัดเจนว่า ใช้เป็นวัสดุตัวเติมผสมมันเส้น หรือกากมันที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ โดยผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวก่อนจำหน่าย หรือเก็บกักตุนไว้ในโกดังหรือไซโล ผสมในอัตราส่วน 20% ของน้ำหนักรวม กล่าวคือ มันเส้นหรือกากมัน 80 กิโลกรัม บวกโดโลไมท์ซีโอไลท์ 20 กิโลกรัม ให้ได้เท่ากับ 100 กิโลกรัม กำหนดราคาขายกิโลกรัมละ 1.80 บาท มีทั้งแบบเบ๊าท์ โดยใช้ท่อลำเลียงใส่รถ และแบบบรรจุถุงๆ ละ 25 กิโลกรัม บริการจัดเรียงใส่รถให้ เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และจะรักษาข้อมูลของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าเอง
ลงชื่อ นาย "ย" ผู้ลงนามในเอกสาร


