รร.ภูเก็ตเข้าพักโต7%
ท่องเที่ยวภูเก็ตยังคึกคัก เผยไตรมาส 2 โรงแรมภูเก็ตมีอัตราเข้าพักโต 6-7% ดีกว่าภาพรวมโรงแรมเอเชียแปซิฟิก
โพสต์ทูเดย์ - ท่องเที่ยวภูเก็ตยังคึกคัก เผยไตรมาส 2 โรงแรมภูเก็ตมีอัตราเข้าพักโต 6-7% ดีกว่าภาพรวมโรงแรมเอเชียแปซิฟิก
บริษัท เอสทีอาร์ ผู้จัดทำดัชนีชี้วัดในธุรกิจโรงแรม เปิดเผยผลการดำเนินงานของโรงแรมไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2559 พบว่า โรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทำผลการดำเนินงานได้น่าพอใจ โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 70.1% เพิ่มขึ้น 3.1% ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (เอดีอาร์) 97.39 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,408.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.9%
ขณะที่รายได้ต่อห้องพักที่ขายได้ (เรพพาร์) 68.24 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,388.4 บาท เพิ่มขึ้น 4.1% ส่วนโรงแรมที่อยู่ระหว่างก่อสร้างมีถึง 1,183 โครงการ รวมกว่า 2.7 แสนห้อง เพิ่มขึ้น 8.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้าน นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีวาน่า กรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรมใน จ.ภูเก็ต และกระบี่ กล่าวว่า ภาพรวมโรงแรมใน จ.ภูเก็ต ทำผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ได้น่าพอใจ และถือว่าดีกว่าผลการดำเนินงานของโรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยรวม ส่วนโรงแรมใน จ.กระบี่ ผลการดำเนินงานไม่ดีนัก เป็นผลจากได้รับผลกระทบเที่ยวบินจากจีนมา จ.กระบี่ ลดลง อีกทั้งสนามบินก็มีการปิดซ่อมรันเวย์ในช่วงค่ำ
ทั้งนี้ โรงแรมใน จ.ภูเก็ต ทำอัตราเข้าพักไตรมาส 2 ได้เพิ่มขึ้น 6-7% แต่ราคาห้องพักที่ทำได้ทรงตัว เป็นผลจากคู่แข่งมากขึ้น ทำให้เรพพาร์เพิ่มขึ้น 5-6% ใกล้เคียงกับตลาดเอเชียแปซิฟิก ส่วน จ.กระบี่ อัตราการเข้าพักลดไป 6-7% ขณะที่ราคาทรงตัว โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆ ใน จ.กระบี่ ที่หายไป คือ จีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะก่อนหน้านี้คนจีนที่เดินทางมากับทัวร์มาเที่ยว จ.กระบี่ มากในช่วงที่ จ.ภูเก็ต มีการซ่อมสนามบิน ขยายอาคารผู้โดยสาร แต่ปัจจุบันสนามบิน จ.ภูเก็ต เรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะมีผลให้คนจีนที่มากับทัวร์กลับไปเที่ยว จ.ภูเก็ต เหมือนเดิม
ทั้งนี้ จากการที่โรงแรมใน จ.กระบี่ ได้รับผลกระทบอัตราการเข้าพักลดลง นักท่องเที่ยวลด ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างหนักด้านราคา โรงแรมหลายแห่งออกมาทำโปรโมชั่นเพื่อดึงยอดเข้าพักให้สูงขึ้น แต่ในส่วนของ ดีวาน่าฯ ยังยืนพื้นราคาเดิม เนื่องจากไม่ต้องการทำให้มาตรฐานราคาห้องพักเสียไป ทำให้ไม่ได้จำนวนผู้เข้าพักเข้ามามากนัก แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ไม่ทำให้ราคาห้องพักที่ได้แย่ลง


