posttoday

แลนด์มาร์คเชียงของ 280 ล้าน ดึงนักท่องเที่ยวฟื้นเขตเมืองเก่า

08 กรกฎาคม 2560

อ.เชียงของ จ.เชียงราย ถือเป็นประตูสำคัญที่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้จะเข้ามาสู่ประเทศไทย

โดย...ชินภัทร์ ไชยมล

อ.เชียงของ จ.เชียงราย ถือเป็นประตูสำคัญที่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้จะเข้ามาสู่ประเทศไทย จากปัจจัยการคมนาคมที่มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว

ข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจคือ มีนักท่องเที่ยวเข้ามา จ.เชียงราย ถึงปีละ 3 ล้านคน และในจำนวนนี้ 2 ล้านคน แวะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ อ.เชียงของ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมองหาวิธีที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวแวะเข้ามายังเชียงของ มากกว่าที่จะเป็นเพียงทางผ่าน

ทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ พร้อมด้วย อรทัย ฮงประยูร นายกเทศมนตรีตำบลเวียง อ.เชียงของ พิชัย อินโน ผู้ใหญ่บ้านบ้านหัวเวียง และ ธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงของ ได้ลงพื้นที่เตรียมการสร้างแลนด์มาร์คเชียงของ บริเวณพื้นที่ดินสาธารณะ 19 ไร่ บ้านหัวเวียง ซึ่งอยู่ติดกับท่าเรือบั๊ค ซึ่งจุดดังกล่าว ทางเทศบาลตำบลเวียงจะสร้างแลนด์มาร์คของ อ.เชียงของ เป็นจุดจำหน่ายสินค้าชายแดน ตลาดนัดชายแดน และจุดขายใหม่คือ การสร้างปลาบึกเรืองแสงขนาดใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามริมแม่น้ำโขง

ขณะที่ท่าเรือบั๊ค ซึ่งเคยใช้เป็นท่าเรือลำเลียงรถบรรทุก ก่อนที่จะเปิดใช้สะพานมิตรภาพจะอนุรักษ์เอาไว้ โดยจะปรับปรุงให้ได้มาตรฐานและสวยงาม โดยมีสะพานเชื่อมต่อหากันระหว่างท่าเรือบั๊คและพื้นที่แลนด์มาร์คเชียงของ เพราะจะเป็นเส้นทางเชื่อมในการปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยทั้งหมดของโครงการนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561

ทัศนัย กล่าวว่า อ.เชียงของ ได้รับงบประมาณจากโครงการภายใต้แนวทางการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีทั้งสิ้นใน 8 โครงการ อาทิ การสร้างเส้นทางจักรยาน ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและสุขภาพ ตลาดการค้าชายแดนไทย-ลาว โครงการปรับปรุงท่าเรือบั๊ค และโครงการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งโขงเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจอำเภอเชียงของ รวมมูลค่า 280 ล้านบาท

“ก่อนจะมีสะพานมิตรภาพท่าเรือบั๊คเดิมเป็นจุดผ่านแดนทางเรือเพียงจุดเดียวของ อ.เชียงของ ที่นักท่องเที่ยวใช้ข้ามฝั่งไปยังประเทศลาว ไปยังเมืองห้วยทรายและหลวงพระบาง ปัจจุบันสภาพภูมิทัศน์ถือว่าไม่สวย ไม่สามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องของการขนส่งทางเรือและการข้ามฟากไปมาได้สะดวกแถมยังไม่ได้มาตรฐาน รัฐบาลได้จัดงบประมาณปรับปรุงท่าเรือบั๊ค เพื่อจอดเรือข้ามฟาก เรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวด้วย” นายอำเภอเชียงของ กล่าว

ทัศนัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเชื่อมในการปั่นจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่บ้านห้วยเม็ง จนถึงบ้านโจ้โก้ ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจะผ่านเชียงของไปยังหลวงพระบาง แต่ถ้าหากโครงการเสร็จสิ้นลงทั้ง 8 โครงการ โดยเฉพาะแลนด์มาร์คเชียงของ จะทำให้จุดนี้เป็นเมืองแห่งการแวะท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

ด้านนายกเทศมนตรีตำบลเวียง อรทัย ฮงประยูร บอกว่า ท่าเรือบั๊คเป็นท่าเรือเก่าแก่กว่าครึ่งศตวรรษ โครงการทั้งหมดจะมีการสอดคล้องกันในเรื่องของระเบียงริมโขง จะมีการออกแบบสะพานไม้เชื่อมต่อกันระหว่างท่าเรือบั๊คและแลนด์มาร์ค มีความสวยงาม ดังนั้นในปี 2561 เป็นต้นไปจึงอยากให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาดูความเปลี่ยนแปลงของ อ.เชียงของ ที่จะสวยงามมากยิ่งขึ้น

ด้าน ธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงของ กล่าวว่า หลังจากทางการลาวไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ใช้พาสปอร์ตข้ามทางเรือ โดยใช้ท่าเรือบั๊ค ทำให้ต้องไปข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ อ.เชียงของ หายไป หากมีการสร้างแลนด์มาร์ค ก็จะเป็นตัวดึงดูดเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวแวะเข้ามา เพราะเส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ทั้ง อ.เชียงแสน แม่สาย หรือเวียงแก่น ภูชี้ฟ้า

ต้องติดตามกันว่า จนถึงปี 2561 ซึ่งโครงการต่างๆ เหล่านี้แล้วเสร็จ จะเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนกลับคืนมายังตัว อ.เชียงของ เหมือนเช่นอดีตได้หรือไม่ เพราะตั้งแต่มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพเชียงของตั้งแต่ปี 2556 นักท่องเที่ยวที่เคยเข้ามายังตัว อ.เชียงของ ก็ลดน้อยลงไป