บาร์เซโลนาสมาร์ทซิตี้ ตัวอย่างดีๆของสเปน
ภาพเลิศหรูล้ำสมัยของสมาร์ทซิตี้หรือเมืองอัจฉริยะ ที่หลายๆ เมืองทั่วโลกวาดฝันไว้ผ่านนโยบายๆ หรือการทุ่มงบประมาณ
โดย...ทีมงาน โลก 360 องศา facebook : โลก 360 องศา youtube : โลก 360 องศา
ภาพเลิศหรูล้ำสมัยของสมาร์ทซิตี้หรือเมืองอัจฉริยะ ที่หลายๆ เมืองทั่วโลกวาดฝันไว้ผ่านนโยบายๆ หรือการทุ่มงบประมาณไปกับการติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคล้ำสมัย แต่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง สงสัยกันหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วสมาร์ทซิตี้คืออะไร ทำแล้วช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้หรือไม่และถ้าจะทำควรจะทำอย่างไร เมืองบาร์เซโลนาเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศสเปนคือหนึ่งในตัวอย่างของสมาร์ทซิตี้ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของโลก
บาร์เซโลนาประกาศตัวเป็นสมาร์ทซิตี้เมืองแรกสุดของสเปน เมื่อปี ค.ศ. 2013 และถือเป็นสมาร์ทซิตี้ลำดับที่ 5 ของยุโรป แต่กว่าจะฝ่าฝันมาได้ถึงทุกวันนี้ก็ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย เพราะความกว้างใหญ่ของพื้นที่และเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก การจะสร้างระบบสมาร์ทซิตี้ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่และตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายและยังต้องใช้เงินลงทุนสูง
บาร์เซโลนาโชคดีมีผังเมืองเป็นระเบียบที่สุดเมืองหนึ่งของโลก จึงง่ายต่อการวางแผนและสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับโครงการสมาร์ทซิตี้ นอกจากนั้นแล้วยังมีรายได้มหาศาลจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวเกือบ 20 ล้าน ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าโรงแรมที่นั่นจะเรียกเก็บภาษีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ยูโร/คน ในขณะที่โรงแรมในกรุงมาดริดหรือแคว้นอื่นๆ อาจไม่เรียกเก็บในส่วนนี้เพราะเมืองบาร์เซโลนาอยู่ในการปกครองของแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งมีอำนาจในการบริหารจัดการงบประมาณมากกว่าแคว้นอื่นๆ ที่ยังต้องพึ่งพางบประมาณจากส่วนกลาง ด้วยเหตุนี้บาร์เซโลนาจึงไม่ติดขัดด้านงบประมาณสำหรับโครงการสมาร์ทซิตี้
เมื่องบประมาณพร้อมจึงเริ่มต้นทดลองประยุกต์เทคโนโลยีสมาร์ทซิตี้กับระบบสาธารณูปโภคของเมืองบาร์เซโลนา ซึ่งเราได้รับเกียรติให้เข้าไปเยี่ยมชมศูนย์บริหารและจัดการน้ำ มีหน้าที่ดูแลระบบควบคุมคุณภาพน้ำในสวนสาธารณะ บังคับการเปิดปิดน้ำในวงเวียนน้ำพุ ไปจนถึงควบคุมระบบส่งน้ำใต้ดินมายังโรงบำบัด ระบบนี้มีการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจจับและสั่งการกลไกการจ่ายน้ำ ซึ่งควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ไม่กี่เครื่องและเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน สามารถสังเกตการณ์ผ่านระบบกล้องวงจรปิด ข้อดีของระบบนี้ทำให้ลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน สามารถดูแลและเข้าถึงระบบโครงข่ายส่งน้ำได้ทั่วถึง ลดการสูญเสียน้ำในระบบได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และยังสามารถนำน้ำกลับมาหมุนเวียนได้ใหม่อีกครั้ง
การทำระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพและทั่วถึง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นฐานสำคัญของสมาร์ทซิตี้ เทศบาลเมืองบาร์เซโลนาจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาจุดจอดรถประจำทางอัจฉริยะ มีป้ายที่สามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆ เช่น รถประจำทางสายใดกำลังจะมาถึง ใช้เวลากี่นาทีจะมาถึงอุณหภูมิประมาณกี่องศา เป็นต้น โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคา ซึ่งระบบนี้ถือเป็นมาตรฐานการให้บริการรถประจำทางที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศของยุโรป นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังส่งเสริมการใช้จักรยานเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ จึงมีการสร้างสถานีให้บริการจักรยานเช่าสาธารณะกว่า 400 แห่งทั่วเมือง สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่สามารถค้นหาตำแหน่งสถานีเพื่อเช่าหรือคืนจักรยาน เพื่อใช้ในการคำนวณเส้นทางและวางแผนการเดินทางได้อีกด้วย และอีกหนึ่งระบบที่เราคิดว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือระบบจัดเก็บขยะด้วยท่อดูด สามารถพบเห็นได้เฉพาะเขตใจกลางเมืองเท่านั้น หลักการทำงานคือเมื่อขยะถูกทิ้งลงในถัง ที่มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายท่อใต้ดินที่มีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศแรงดันสูง เพื่อดูดขยะมารวมกันไว้ตามสถานีพักขยะ ขยะจะถูกรวมไว้ในกระบะแบบปิดทึบ จากนั้นรถบรรทุกก็จะมาเคลื่อนย้ายกระบะไปยังโรงงานคัดแยกและทำลายขยะ ข้อดีของระบบนี้ช่วยลดขั้นตอนซับซ้อนของการใช้แรงงานคนในการจัดเก็บขยะ รวมถึงลดปัญหาจราจรติดขัดจากการปิดกั้นของรถบรรทุกขยะ เพราะในเขตใจกลางเมืองมีถนนคับแคบ นอกจากนั้นแล้วกระบะแบบปิดทึบทำให้การเคลื่อนย้ายขยะไม่ส่งกลิ่นเหม็นหรือเกิดการรั่วซึมของน้ำขยะลงบนถนน
การสร้างสมาร์ทซิตี้ไม่ได้พัฒนาแค่เพียงระบบสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่จะต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งเมืองบาร์เซโลนาเลือกที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย เพราะปัจจุบันจำนวนมากถึง 3 แสนคน ในจำนวนนี้ 1 แสนคนอายุเกิน 80 ปี และ 1 ใน 4 คนต้องอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทำให้เป็นโรคซึมเศร้าและขาดการเข้าถึงระบบรักษาพยาบาล จึงทำให้เกิดโครงการ Vincles ที่มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แล้วนำไปทดลองใช้กับผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งฟังก์ชั่นของแอพพลิเคชั่นนี้ก็ออกแบบมาให้ผู้สูงอายุใช้งานได้ง่าย แต่ช่วยทำให้เกิดกิจกรรมและเกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับลูกหลานมากยิ่งขึ้น เพราะโดยปกติชาวสเปนจะอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ คล้ายๆ ครอบครัวชาวเอเชีย แต่ปัจจุบันเมื่อลูกหลานเติบใหญ่นิยมย้ายออกไปสร้างครอบครัวใหม่ ดังนั้น โครงการนี้จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่โดดเดี่ยวให้กลับมามีความสุขในบั้นปลายชีวิต นี่อาจจะดูเป็นแอพพลิเคชั่นธรรมดาๆ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ทางเทศบาลบาร์เซโลนาบอกกับเราว่า โครงการคือหนึ่งในต้นแบบที่ถูกนำไปพัฒนาต่อยอดในหลายประเทศทั่วโลกนั่นเอง
รู้จักคำว่า Fab lab กันหรือไม่ คำนี้อาจเป็นคำใหม่ที่คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคย คำนี้มาจากคำเต็มๆ ว่า Fabrication laboratory หรือห้องปฏิบัติการประดิษฐกรรม มีต้นกำเนิดขึ้นที่สถาบัน MIT ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อตั้งห้องทดลองที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัย เพื่อให้ใครก็ได้ที่อยากประดิษฐ์คิดค้นอะไรใหม่ๆ สามารถมาใช้อุปกรณ์ฟรี ส่งผลให้เกิดการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากตำรา
ความสำเร็จของ Fab lab ถูกนำไปเผยแพร่ในประเทศต่างๆ ผ่านการสนับสนุนของ Fab lab Foundation บางประเทศสร้างอยู่ในมหาวิทยาลัย บางประเทศสร้างรวมกับห้องสมุดประชาชน และบางประเทศสร้างในชุมชน ที่ใครๆ ก็สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งในบาร์เซโลนามี Fab lab อยู่ถึง 2 แห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ในชุมชนของผู้มีรายได้ต่ำชานเมืองบาร์เซโลนา เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกของการให้การศึกษา ส่วนอีกแห่งตั้งอยู่ร่วมกับสถาบัน Institute for Advanced Architecture of Catalonia เพื่อมอบโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งที่นี่มีการแบ่งออกเป็นแผนกย่อยๆ เช่น แผนก Fab 3D มุ่งเน้นการออกแบบประดิษฐกรรมต่างๆ ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ แผนก Fab kid สร้างสรรค์สื่อเรียนรู้สำหรับเด็ก และแผนก Fab city มุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมเพื่อรองรับสมาร์ทซิตี้ผ่านโครงการ Smart Citizen ซึ่งเป็นโครงการที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย
Tomás Díez และ Guillem Camprodon คือผู้ริเริ่มและพัฒนาโครงการนี้ผ่านการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ Smart Citizen Kit ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่มีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ ความชื้น ไปจนถึงระดับมลพิษได้ สามารถส่งข้อมูลทั้งหมดผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย เพื่อไปแสดงผลผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ชิ้นนี้พวกเขาสร้างขึ้นในราคาถูกและยังทำงานบนระบบโอเพนซอร์ส ที่ใครๆ ก็สามารถนำเอาไปต่อยอดได้ เช่น เพิ่มอุปกรณ์ตรวจจับอื่นๆ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับมลภาวะทางเสียง หรือนำไปประยุกต์กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อแบ่งปันข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ของเมือง เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือ การทำให้สมาร์ทซิตี้ประสบความสำเร็จบนพื้นฐานของอุปกรณ์ที่มีราคาถูกและผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เมื่อเข้าถึงได้ง่ายผู้คนก็จะตระหนักว่า ประโยชน์ของการเป็นสมาร์ทซิตี้คืออะไร และจะต้องปรับตัวอย่างไรให้เท่าทันเทคโนโลยี ซึ่งนั่นก็คือคุณสมบัติของการเป็น Smart Citizen นั่นเอง
ท้ายที่สุดแล้วการจะสร้างสมาร์ทซิตี้นั้น คงไม่อาจลอกเลียนแบบสูตรสำเร็จจากเมืองใดเมืองหนึ่งได้ เพราะทุกๆ เมืองล้วนมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร รูปแบบผังเมือง และการเท่าทันเทคโนโลยี ซึ่งการได้มาศึกษาสมาร์ทซิตี้ที่บาร์เซโลนาทำให้เราทราบอีกว่าเรื่องของการสร้างการตระหนักรู้ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะนำไปสู่ 3 สิ่งพื้นฐานสำคัญที่สมาร์ทซิตี้จะต้องมี นั่นก็คือ Smart Device, Smart Plan และ Smart People ถ้ามี 3 สิ่งที่นี้ครบ สมาร์ทซิตี้ย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน และอย่าลืมติดตามชมอีกหนึ่งช่องทางรับสาระความรู้ดีๆ จากพวกเรา ในรายการโลก 360 องศา ทุก
วันเสาร์ เวลา 21.20 น. ทาง ททบ.5


