posttoday

บัณฑิตหนุ่มพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดผลิตกาแฟขี้ชะมดขายรายได้งาม

11 มิถุนายน 2560

หนุ่มวัย 22 กลับไปพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดหลังจบปริญญาตรี ทำไร่กาแฟ-ฟาร์มชะมด ผลิตกาแฟขี้ชะมดออกขายสร้างรายได้งาม

หนุ่มวัย 22 กลับไปพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดหลังจบปริญญาตรี ทำไร่กาแฟ-ฟาร์มชะมด ผลิตกาแฟขี้ชะมดออกขายสร้างรายได้งาม

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ไร่กาแฟขี้ชะมด BlueGold Coffee ที่บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นไร่กาแฟที่ริเริ่มผลิตกาแฟขี้ชะมดออกจำหน่ายเป็นแห่งแรกใน จ.นครพนม โดยผู้ริเริ่มทำไร่กาแฟแห่งนี้ คือ นายเกียรติศักดิ์ คำวงษา หรือ เฟลม อายุ 22 ปี ที่ได้ร่วมกับ น.ส.เพ็ญพิชชา มณีรัตน์ มารดาที่เดิมมีอาชีพเป็นวิศวกรรับเหมาก่อสร้างร่วมกันพลิกฟื้นที่ที่ดินบ้านเกิดเนื้อที่กว่า 200 ไร่เป็นไร่กาแฟ

นายเกียรติศักดิ์กล่าวว่า หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ ก็มาเริ่มต้นทดลองทำไร่กาแฟในที่ดินของครอบครัวที่เดิมถูกปล่อยทิ้งร้าง โดยเริ่มทดลองปลูกกาแฟพันธุ์ โรบัสต้าเมื่อปี 2555 จนกระทั่งปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกประมาณ 50 ไร่และยังขยายอย่างต่อเนื่อง

หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟกล่าวว่า ไร่กาแฟแห่งนี้มีความพิเศษต่างจากไร่กาแฟทั่วไป คือ ได้มีการทดลองทำฟาร์มชะมด ควบคู่ไปด้วย โดยเริ่มต้นจากการนำพันธุ์ชะมดพื้นบ้าน ที่ชาวบ้านหาได้ตามป่า มาเลี้ยงขยายพันธุ์ เนื่องจากได้มีการศึกษาว่า ชะมดเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งสามารถเลี้ยงขยายพันธุ์ได้ไม่ผิดกฎหมาย และกำลังหายาก โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือ จะเป็นสัตว์ที่มีต่อมน้ำหอม เพื่อปล่อยกลิ่นสร้างอาณาจักร ซึ่งปัจจุบัน กาแฟขี้ชะมด กำลังเป็นที่นิยมของตลาด  ต้นตำหรับอยู่ทางประเทศอินโดนีเซียจึงทดลองทำกาแฟขี้ชะมดขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กาแฟมีคุณสมบัติพิเศษและมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น

นายเกียรติศักดิ์กล่าวว่า ฟาร์มที่นี่จะเป็นเป็นฟาร์มแบบเปิด เน้นความเป็นธรรมชาติมากที่สุด  โดยต้นกาแฟ จะเริ่มให้ผล เมื่ออายุราว 2 ปี ขึ้นไป  และจะมีผลสุกในช่วงฤดูหนาวของทุกปี  จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการผลิตกาแฟขี้ชะมด เนื่องจากทำฟาร์มชะมด ไว้ในที่เดียวกันกับไร่กาแฟ เมื่อชะมดกินผลกาแฟเข้าไป  และขับถ่ายออกมา  ตามธรรมชาติ  จากนั้นจะเก็บเมล็ดกาแฟจากมูลของชะมดมาผ่านกระบวนการผลิต ตากแดดให้แห้งได้ที่ ประมาณ 20 -30 วัน ก่อนนำมาแกะเอาเมล็ดกาแฟ  ไปคั่ว และนำไปบดชงเป็นกาแฟขี้ชะมด ที่มีคุณภาพ 

 

บัณฑิตหนุ่มพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดผลิตกาแฟขี้ชะมดขายรายได้งาม

"ปัจจุบันเรามีร้านกาแฟในฟาร์ม และมีสาขาใน กทม. ในชื่อ บลูโกลด์ คอฟฟี่ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์กาแฟชะมด เป็นกาแฟสำเร็จรูปแบบชง มีกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม ขวดละ 50 บาท กำลังเตรียมวางขายตามร้านสะดวกซื้อ  และมีสบู่ผลิตจากกากกาแฟ บำรุงผิวก้อนละ 100 บาท  ซึ่งในส่วนของกาแฟชะมดที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป จะมีราคาสูงประมาณกิโลกรัมละ 20,000 – 30,000 บาท ซึ่งปัจจุบันมีออเดอร์ส่งต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง"นายเกียรติศักดิ์กล่าว

นายเกียรติศักดิ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือจะต้องเป็นเกษตรปลอดสารพิษ เนื่องจากกาแฟที่ปลูกจะต้องดูแลด้วยปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น เพราะหากมีสารพิษเจอปน ชะมดจะป่วยตายทันที

อย่างไรก็ตามในอนาคตสิ่งที่คาดหวังไว้คือ ต้องการให้เป็นไร่กาแฟฟาร์มชะมดตัวอย่าง  ที่จะเป็นศูนย์เรียนรู้ในการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ หันมาศึกษาทดลอง นำกาแฟไปปลูก  เพราะเรามีเบี้ยกาแฟจำหน่าย ต้นละ 20 -30 บาท  จากนั้นเราจะประกันราคารับซื้อเข้าโรงงาน เพราะจะมีการวางแผนทำโครงการกาแฟครบวงจร เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ ให้เกษตรกรในพื้นที่ มีรายได้เพิ่มจากการทำไร่ ทำนา  เนื่องจากกาแฟ ปกติจะสามารถเก็บผลิตได้ปีละครั้ง ในช่วงฤดูหนาว  ในส่วนของผลกาแฟที่เหลือจากชะมดกิน เราจะเก็บมาแปรรูป ส่งโรงงาน  และในการดูแลช่วงไม่ใช่ฤดูเก็บผลิตผลิตกาแฟ จะมีการจัดหาผลไม้ ทั่วไปเลี้ยงชะมด รอจนกว่าถึงฤดูกาลลูกกาแฟสุก  

นอกจากนี้ต้องการที่จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ ศึกษาขั้นตอนการเลี้ยงชะมด วิถีชีวิตชะมด  เพราะเป็นสัตว์ป่าเริ่มหายาก และมีความเชื่องน่ารัก  เป็นแหล่งศึกษาการผลิตกาแฟขี้ชะมด  รวมถึงจะได้นำสัตว์เลี้ยงหลายชนิดที่หาดูยาก มาเลี้ยงไว้ในฟาร์ม ซึ่งในอนาคตจะทำเป็นฟาร์มเกษตรท่องเที่ยว คาดว่าในปลายปี 2560 จะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ กาแฟขี้ชะมด BlueGold Coffee

บัณฑิตหนุ่มพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดผลิตกาแฟขี้ชะมดขายรายได้งาม

 

 

บัณฑิตหนุ่มพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดผลิตกาแฟขี้ชะมดขายรายได้งาม

 

 

บัณฑิตหนุ่มพลิกฟื้นที่ดินบ้านเกิดผลิตกาแฟขี้ชะมดขายรายได้งาม

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา