จับแผงลอยสยาม1ต.ค. ขู่ผิดอาญาข้อหาบุกรุก
จุฬาฯ ยัน 1 ต.ค.จับปรับแผงลอยรอบสยามแน่ ที่ผ่านมาปรับไปแล้ว 300 ราย เทศกิจขู่ใช้กฎหมายเข้มขึ้นถึงคดีอาญาข้อหาบุกรุก แจงค่าปรับให้จ่ายที่เขต
จุฬาฯ ยัน 1 ต.ค.จับปรับแผงลอยรอบสยามแน่ ที่ผ่านมาปรับไปแล้ว 300 ราย เทศกิจขู่ใช้กฎหมายเข้มขึ้นถึงคดีอาญาข้อหาบุกรุก แจงค่าปรับให้จ่ายที่เขต
นายสวัสดิ์ ปฐมมงคลกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการศูนย์การค้าสยามสแควร์ เปิดเผยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่วมกับสำนักงานเขตปทุมวัน และ สน.ปทุมวัน จะเริ่มจับปรับผู้ใช้พื้นที่บริเวณฟุตปาทรอบสยามสแควร์ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยจะเริ่มปรับผู้ใช้บริเวณฟุตปาทบริเวณถนนพระราม 1 ก่อน บริเวณถนนพญาไท และถนนอังรีดูนังต์ ซึ่งที่ผ่านมามีแผงลอยที่ขายในบริเวณรอบพื้นที่สยามสแควร์ถูกจับปรับจากสำนักงานเขตปทุมวันประมาณ 300 ราย
ทั้งนี้ ทางสัญจรบริเวณรอบสยามสแควร์นั้นเป็นพื้นที่ของจุฬาฯ ซึ่งที่ผ่านมาจุฬาฯ ได้รับการรองเรียนเป็นอย่างมากเรื่องความไม่เป็นระเบียบ และมีปัญหาการก่ออาชญากรรมขึ้นจำนวนมาก ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเคยคิดจะทำตั้งแต่ปี 2547 มาแล้ว แต่ก็ต้องพับแผนลงไป แต่ที่นำมาปัดฝุ่นอีกครั้งเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ทำให้พื้นที่บริเวณโรงภาพยนตร์สยามโดนเผา จากความไม่สงบทางการเมือง จึงทำให้ต้องมีการก่อสร้างอาคารใหม่ ทำให้ฟุตปาทโดยเฉพาะบริเวณพระราม 1 ไม่มีพื้นที่จะใช้เดินสัญจร
“เรามีแนวคิดที่จะให้ผู้ที่อยู่บนฟุตบาทประเภทหาบเร่ แผงลอยย้ายเข้าไปอยู่บริเวณซ. 5 ของสยามสแควร์ เปิดเป็นไนท์มาร์เก็ต แต่แผนดังกล่าวต้องยกเลิกไปเพราะต้องก่อสร้างเป็นอาคารชั่วคราวกึ่งถาวร ที่ต้องใช้ไป 2 ปี จึงไม่มีพื้นที่เหลือให้ผู้ที่มีอาชีพแผงลอย ซึ่งการจะยกเลิกการปรับผู้ค้าแผงลอยนั้นต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการในทรัพย์สินจุฬา” นายสวัสดิ์ กล่าวนายสมบูรณ์ หอมนาน หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ เขตปทุมวัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเทศกิจได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ค้าที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ในอัตราไม่เกิน 2,000 บาท โดยผู้ค้าต้องไปเสียค่าปรับที่สำนักงานเขตเท่านั้น และหากมีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่และเรียกให้จ่ายค่าปรับในจุดเกิดเหตุ ขอให้ผู้ค้าอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด
“เป็นไปไม่ได้ที่เทศกิจจะเรียกเก็บค่าเช่าแผง เพราะมีใบเสร็จยืนยันชัดเจนว่าเป็นค่าปรับ” นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ เจ้าหน้าที่เทศกิจมีอำนาจเต็มที่ในการจับปรับผู้ค้าบนทางเท้าหรือที่สาธารณะ รวมถึงพื้นที่ของเอกชนที่มีการอนุญาตให้ใช้ทางเท้า เจ้าหน้าที่เทศกิจก็สามารถจับปรับผู้กระทำผิดได้เช่นกัน
“ที่ผ่านมาทางจุฬาฯ ได้ขอความร่วมมือให้เทศกิจเข้าไปบังคับใช้กฎหมาย แต่ปัจจุบันพบว่ามีปัญหาร้องเรียนมากขึ้น เพราะเมื่อจับปรับแล้วผู้ค้าก็ยังกระทำผิดซ้ำอีก ดังนั้นจุฬาฯ จึงเตรียมใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น โดยให้ตำรวจจับผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอาญาข้อหาบุกรุกที่ของเอกชน” นายสมบูรณ์ กล่าว
วันที่ 1415 ก.ย.นี้ เทศกิจ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของจุฬาฯ จะเริ่มลงพื้นที่เพื่อแจกใบปลิวประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าย้ายออกจากพื้นที่ก่อนวันที่ 1 ต.ค. รวมทั้งจะแจ้งให้ผู้ค้าทราบถึงมาตรการขั้นเด็ดขาดในการดำเนินคดีทางอาญา


