ดรุณ แสงฉาย คีย์แมนแผนฮับการบิน

โดย...ทศพล หงษ์ทอง

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2559 มีคำสั่งให้ ดรุณ แสงฉาย อดีตรองปลัดกระทรวงมานั่งเป็นอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ด้วยความไว้วางใจจาก อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ที่ได้วางหมากให้บุรุษผู้นี้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาการบินของประเทศ และให้นำทัพประเทศไทยปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) พร้อมภารกิจที่สำคัญในการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาครองรับการเป็นเมืองท่าอากาศยานของอาเซียน (Aeropolis)

ดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีเป็นอีกความท้าทาย แต่เน้นเรื่องการนำนโยบายและแผนแม่บทที่รัฐมนตรีต้องการมาทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนศักยภาพการบินของประเทศ ดังนั้นจึงเป็นภารกิจสำคัญที่สนามบินทั้ง 28 แห่งต้องเร่งจัดทำแผนพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจการบินและตลาดการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับภาครัฐได้ถึงปีละ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่ธุรกิจส่งออกสินค้า ภาคการท่องเที่ยว และสินค้าเอสเอ็มอี กระจายรายได้ไปสู่ประชากรท้องถิ่น รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อปลดล็อกธงแดงไอเคโออีกด้วย

เมื่อดูจากประวัติการผ่านร้อนผ่านหนาวในกระทรวงคมนาคมแล้ว นับว่าเป็นหมากสำคัญที่ดูแลด้านเชิงนโยบายขนส่ง ตั้งแต่การเป็นผู้อำนวยการกรมโยธาธิการจังหวัดตราดและฉะเชิงเทรา ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท จากนั้นกระโดดขึ้นมาเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านการขนส่ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าอธิบดีกรมท่าอากาศยานผู้นี้ มองเกมขาดเรื่องการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้เกิดความเชื่อมโยงกัน

ดรุณ แสงฉาย

“ผมอยู่กระทรวงคมนาคมมา ทำงานด้านการขนส่งมาตลอด ตั้งแต่กรมโยธาธิการและผังเมือง จากนั้นได้ไปดูแลนโยบายการก่อสร้างเชื่อมโยงถนนที่กรมทางหลวงชนบท จนเข้ากระทรวงดูแลรับผิดชอบแผนขนส่งทั้งหมด ผมจึงให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระบบขนส่ง จนได้มาทำหน้าที่ในกรมท่าอากาศยาน จึงต้องการทำให้ระบบขนส่งทางอากาศเชื่อมโยง ทั้งท่าเรือ มอเตอร์เวย์ และสถานีรถไฟ เพื่อเป็นฐานให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่เป็นสัดส่วนหลักของจีดีพีประเทศ” ดรุณ กล่าว

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญเพื่อก้าวขึ้นเป็นฮับการบินอาเซียน คือการปั้นอนาคต ซึ่งการผลิตบุคลากรคุณภาพจำเป็นต่อการยกระดับอุตสาหกรรมการบินของไทย  ประกอบกับบ้านเราสุ่มเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรจากการเร่งก่อสร้างและขยายสนามบินทั่วประเทศ ดังนั้นจึงเตรียมลงทุนเปิดศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบิน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินและผลิตบุคลากรคุณภาพเพื่อรองรับธุรกิจการบินในอนาคตที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในแต่ละปีตามจำนวนผู้โดยสาร เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกใบรับรองมาตรฐานบุคลากรการบิน (License) อย่างเป็นทางการ ดังนั้น กรมท่าอากาศยานจะเร่งพัฒนาหลักสูตรและเสนอให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) รับรองหลักสูตรมาตรฐานสากล วาดฝันให้ศักยภาพการบินไทยเติบโตอย่างยั่งยืน