เปิดนาทีชีวิตนักข่าวสาวเหยื่อฮ.ตก
ย้อนรอยนาทีชีวิตนักข่าวสาวช่อง11 ขณะประสบเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ย่านนนทบุรี ระหว่างถ่ายทำสารคดีท่องเที่ยว
ย้อนรอยนาทีชีวิตนักข่าวสาวช่อง11 ขณะประสบเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ย่านนนทบุรี ระหว่างถ่ายทำสารคดีท่องเที่ยว
โดย....ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน
สิ้นเสียงตะโกนแหวกอากาศอย่างกะทันหันสั้นๆ ว่า “เฮ้ย” ร่างมนุษย์ชายหญิงทั้ง 4 ภายในโครงสร้างอันแข็งแกร่งมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท สบตากันอย่างเลิ่กลั่ก ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสมดุลที่ถูกทำลาย แรงโน้มถ่วงโถมเข้ามาทำหน้าที่ของมัน แล้ว “แมลงปอเหล็ก” ตัวน้อย ก็ถูกฉุดจนร่วงโรยสู่ผืนน้ำเจ้าพระยาอันกว้างใหญ่
ชั่วขณะจิตที่เกิดขึ้น ได้ตราตรึงลงในห้วงความทรงจำของ กั้ง - “พัชรรินทร์ พัชรประภานันท์” ผู้สื่อข่าวสาว วัย 25 ปีของสถานีโทรทัศน์ช่อง11อย่างยากจะลบเลือน ประสบการณ์การขึ้นเฮลิคอปเตอร์ครั้งแรกของเธอ เสมือนเป็นฝันร้ายคอยตามหลอกหลอนในทุกครั้งที่เธอมองไปยังคุ้มน้ำ หรือจำต้องเหินตัวสู่เบื้องบนอีกครั้ง
“มันเร็วมากเลยค่ะ พอได้ยินเสียง “เฮ้ย” จากนักบินที่ 1 เครื่องก็โคลงเคลงและเอนตกลงในน้ำทันที”เธอเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะย้อนเหตุการณ์กลับไปว่า ขณะนั้นเฮลิคอปเตอร์กำลังบินเลาะริมแม่น้ำเจ้าพระยามุ่งหน้าไปยังพระราม 4 ประมาณเวลาได้ 10 นาฬิกาเศษ
ตอนนั้นทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นปกติ สมาชิกบนเครื่องหยอกเอินกันตามประสา บ้างชะโงกหน้าแลเห็นเบื้องร่างเล็กกระจิดริด ส่วนตัวก็ทำการเปิดหน้าบนเครื่องให้เสร็จสิ้น กระทั่งเมื่อเครื่องบินตีคู่กับสะพานและเข้าโค้งไปทางเกาะเกร็ด นักบินที่1 ได้อุทานขึ้นอย่างเสียงหลงว่า “เฮ้ย” ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว เครื่องเฮลิคอปเตอร์ก็เหมือนถูกกระชากให้เอียงมาทางซ้าย มันตะแคงกลางอากาศ และเป็นช่วงเวลาเพียงวาบเดียวเท่านั้น ทุกอย่างๆ ก็จมลงใต้บาดาล
“ตอนนั้นกั้งนั่งอยู่ด้านซ้ายค่ะ เครื่องเสียหลักมาด้านซ้ายพอดีเลยเหมือนว่าจะถูกทับ พอแวบเดียวทุกอย่างตกสู่ผิวน้ำ กั้งเลยออกจากเครื่องได้เป็นคนสุดท้าย”เธอยังไม่คลายอาการตื่นเต้นขณะเล่า
กั้ง ยิ้มเล็กน้อยก่อนย้อนนาทีชีวิตให้ฟังต่อว่า ตอนนั้นยังมีสติและจำทุกอย่างได้ เมื่อได้สัมผัสผิวน้ำก็เหมือนถูกแรงดูดลงไปให้จมลงไปเรื่อยๆ น้ำทะลักเข้าเครื่องอย่างรวดเร็ว มองเห็นทุกคนหนีตาย แหวกว่ายออกจากเครื่อง ส่วนตัวเองนั้นได้รวบรวมสติแล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วพยายามสลัดตัวออกมาจากเครื่องให้เร็วที่สุด
“กั้งพยายามกั้นหายใจให้นานเพื่อให้ตัวลอยขึ้นพ้นน้ำ ตอนนั้นคิดเพียงว่าถ้าไม่มีคนมาช่วยยังไงก็ต้องตาย ต้องตายแน่ๆ รู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำนานมากๆ ทั้งที่ทราบภายหลังว่าอยู่เพียงนาทีเดียว จากนั้นหูของกั้งได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆ บอกว่า “นั่นไงๆ อยู่ตรงนั้นไง รีบไปช่วยสิๆ” แล้วเราก็รู้สึกตัวว่ามีคนมาล็อกตัวไปจากด้านหลัง จนพาขึ้นด้านบนฝั่งได้สำเร็จ”
เธอบุ้ยใบ้มือไม้ประกอบการเล่าอย่างออกอรรถรส“ต้องขอขอบคุณนักบินที่เอาเครื่องลงได้ใกล้ฝั่งมากที่สุด และขอบคุณเป็นพิเศษคือคุณวินัย (บุปผา) ที่เสี่ยงชีวิตมาช่วยเหลือกั้ง”
ผู้สื่อข่าวสาวรายนี้ยอมรับว่ายังฝังใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และหากปฏิเสธได้ก็คงจะไม่กลับไปบินอีก ที่สำคัญแม้ว่าตัวเองจะชื่อ “กั้ง” แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกโฉลกกับน้ำเอาสักเท่าไร
เธอ บอกว่า ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว พรุ่งนี้ (14 ก.ย.) แพทย์ก็จะอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว ซึ่งหากหายป่วยเมื่อไรก็จะกลับมาทำงานต่อตามเดิม


