posttoday

เก็บเห็ด เรื่องดราม่าตา-ยาย

08 พฤษภาคม 2560

โดย...สมผล ตระกูลรุ่งหนึ่งในหลายคดีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เป็นเรื่องดราม่าของกระแสสังคม คือคดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกสองสามีภรรยา เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าสองตายายเข้าไปเก็บเห็ดในป่า แล้วถูกจับติดคุก แล้วนำไปเปรียบเทียบกับผู้มีชื่อเสียงที่มีบ้านในป่า แต่ไม่ติดคุก เป็นเรื่องดราม่าสร้างกระแสให้ดูน่าสงสารว่าตายายยากจนเข้าป่าเก็บเห็ดก็ติดคุก ยิ่งเปรียบเทียบกับลูกตระกูลเครื่องดื่มชูกำลังหนีคดี แล้วสรุปว่า คุกมีไว้ขังคนจน การสร้างกระแสดราม่าดังกล่าว เป็นลักษณะเอามัน ไม่ได้มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือประกอบการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคมเรื่องนี้เป็นคดีบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในเขตป่าสงวน เหตุเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานศาลได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกา เป็นฎีกาที่ 456/2560เหตุเกิดเมื่อปี 2553 พนักงานอัยการฟ้องสองสามีภรรยาเป็นจำเลยว่า ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ โดยการทำไม้ในเขตป่าสงวนคิดเป็นเนื้อที่ 72 ไร่ และได้ใช้อุปกรณ์เครื่องมือตัดและโค่นไม้สัก ไม้กระยาเลย ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. 700 ต้น และร่วมกันมีไม้สักกับไม้กระยาเลยที่ยังมิได้แปรรูปจำนวน 1148 ท่อน เป็นการท

โดย...สมผล ตระกูลรุ่ง

หนึ่งในหลายคดีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เป็นเรื่องดราม่าของกระแสสังคม คือคดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกสองสามีภรรยา เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าสองตายายเข้าไปเก็บเห็ดในป่า แล้วถูกจับติดคุก แล้วนำไปเปรียบเทียบกับผู้มีชื่อเสียงที่มีบ้านในป่า แต่ไม่ติดคุก เป็นเรื่องดราม่าสร้างกระแสให้ดูน่าสงสารว่าตายายยากจนเข้าป่าเก็บเห็ดก็ติดคุก ยิ่งเปรียบเทียบกับลูกตระกูลเครื่องดื่มชูกำลังหนีคดี แล้วสรุปว่า คุกมีไว้ขังคนจน

การสร้างกระแสดราม่าดังกล่าว เป็นลักษณะเอามัน ไม่ได้มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือประกอบการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม

เรื่องนี้เป็นคดีบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในเขตป่าสงวน เหตุเกิดที่ จ.กาฬสินธุ์ สำนักงานศาลได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกา เป็นฎีกาที่ 456/2560

เหตุเกิดเมื่อปี 2553 พนักงานอัยการฟ้องสองสามีภรรยาเป็นจำเลยว่า ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ โดยการทำไม้ในเขตป่าสงวนคิดเป็นเนื้อที่ 72 ไร่ และได้ใช้อุปกรณ์เครื่องมือตัดและโค่นไม้สัก ไม้กระยาเลย ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. 700 ต้น และร่วมกันมีไม้สักกับไม้กระยาเลยที่ยังมิได้แปรรูปจำนวน 1148 ท่อน เป็นการทำผิดกฎหมาย

คดีนี้จำเลยสองสามีภรรยาให้การรับสารภาพตามฟ้อง เป็นการรับสารภาพต่อหน้าศาลว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง ไม่มีประเด็นว่าเข้าไปเก็บเห็ดแต่อย่างใด เมื่อรับสารภาพไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ศาลไม่มีทางพิพากษาเป็นอย่างอื่นไปได้ เมื่อยอมรับว่าทำผิดจริงศาลก็ต้องลงโทษ โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกรวม 30 ปี ลดรับสารภาพเหลือ 15 ปี

สองสามีภรรยาจึงยื่นฎีกา อ้างว่าที่รับสารภาพไปนั้น เกิดจากความเจ็บป่วย เคยเกิดอุบัติเหตุมีอาการมึนงง ไม่เข้าใจที่ศาลถาม จึงรับสารภาพไปโดยไม่เต็มใจ ในคำพากษาฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้ออ้างอาการป่วยของจำเลยตามฎีกา เป็นการกล่าวอ้างเพิ่มขึ้นในชั้นฎีกาแตกต่างกับข้ออ้างในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ที่กล่าวอ้างแต่เพียงว่า มีคนบอกจำเลยทั้งสองให้รับสารภาพเสียค่าปรับแล้วกลับบ้านได้ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จำเลยทั้งสองจึงให้การรับสารภาพ แต่ถึงอย่างไรจำเลยทั้งสองก็ยอมรับว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล ขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงอาญา นอกจากนี้ อาการป่วยของจำเลยตามข้ออ้างในฎีกา ยังขัดแย้งกับใบรับรองแพทย์และการสืบเสาะว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับอุบัติเหตุก่อนถูกฟ้องคดี

ศาลฎีกาจึงเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นต่อสู้นั้น แสดงว่าสองสามีภรรยาพยายามปั้นแต่งข้ออ้างอาการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยบิดเบือนให้เห็นว่า จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพโดยความไม่สมัครใจ แต่กลับปรากฏข้อเท็จจริงว่า เรื่องที่จำเลยทั้งสองกล่าวอ้างมานั้นขัดแย้งกันเองทั้งสิ้น จึงเป็นพิรุธรับฟังเป็นความจริงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาก็ยังปรานีโดยพิพากษาว่า ข้อเท็จจริงจากรายงานการสืบเสาะได้ความว่า การแผ้วถางในเขตป่าสงวนนี้ น่าจะทำเป็นกระบวนการมีนายทุนมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ในการจับกลุ่มนั้นมีผู้กระทำผิดหลายคนรวมจำเลยทั้งสองได้วิ่งหลบหนี แต่มีเพียงแต่จำเลยทั้งสองยอมเข้ามอบตัวและให้การรับสารภาพ กรณีมีเหตุสมควรกำหนดโทษที่ลงแก่จำเลยทั้งสองให้น้อยลง เพื่อให้เหมาะสมแก่รูปคดี แต่ตามพฤติการณ์ การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองส่งผลกระทบต่อสภาพความสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยากแก่การฟื้นฟูให้กลับคืนให้ดีดังเดิม ส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงกรณีจึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยทั้งสอง ศาลฎีกาได้ปรับแก้ให้ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี

จากคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว จะเห็นได้ว่าศาลฎีกาวินิจฉัยด้วยความปรานีแล้ว แต่ข้อเท็จจริงไม่มีเรื่องการเก็บเห็ด ทั้งสองคนก็ไม่น่าจะเรียกตา-ยาย ในขณะเกิดเหตุ ปี 2553 สามีอายุ 51 ปี ภรรยา 48 ปี แม้ปัจจุบัน วันที่ศาลฎีกาพิพากษา สามีก็ 58 ปี ภรรยา 55 ปีเท่านั้น คนอายุขนาดนี้จะเรียกตา-ยายได้อย่างไร และดูจากรูปภาพก็ไม่ได้แก่ถึงขนาดจะเรียกตายาย

การวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองว่า ตายายเก็บเห็ดถูกศาลพิพากษาจำคุก แล้วนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่บุกรุกป่าแต่ไม่ถูกจำคุก แล้วสร้างเรื่องราวให้เห็นว่า กฎหมายรังแกคนยากจน คนที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างนี้ ได้อ่านหรือรู้ข้อเท็จจริงในคดีมากน้อยเพียงใด การวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงหรือแกล้งไม่รู้หรือตั้งใจที่จะไม่รู้ เป็นเรื่องต้องถามว่า คนพวกนี้มีเจตนาอย่างไร

เรื่องดราม่าว่า สองสามีภรรยาแค่เข้าไปเก็บเห็ดก็ถูกจับ เป็นเรื่องที่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในคดีมาก่อน น่าจะเกิดภายหลังเพื่อสร้างเรื่องดราม่า แต่ข้อเท็จจริงที่เป็นหลักฐานคือ มีการตัดฟันโค่นล้มต้นไม้ในเขตป่าสงวน เพื่อให้เป็นป่าเสื่อมโทรม อันเป็นวิธีที่นายทุนหรือผู้มีบารมีจะใช้เป็นช่องทางเพิกถอนสภาพป่าสงวน เป็นข้อเท็จจริงที่ทราบกันดีว่า การทำในลักษณะอย่างนี้ย่อมมีนายทุนหรือผู้มีบารมีหนุนหลังตามที่ศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ วิธีการก็คือการว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปตัดไม้ทำลายป่า ให้เงินสินจ้างรางวัล ฉะนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ชาวบ้านเหล่านี้ก็รู้ดีว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ที่กล้าทำเพราะได้ประโยชน์คุ้มค่าเหนื่อย กรณีนี้จึงไม่ใช่การเข้าไปเก็บเห็ดในป่าและมิใช่ชาวบ้านเข้าไปตัดไม้เพื่อเอามาปลูกสร้างบ้าน แต่เป็นกระบวนการทำลายธรรมชาติ

แทนการสร้างเรื่องดราม่าว่าตายายเก็บเห็ด ถ้าสังคมอยากจะวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมเรื่องนี้ ควรต้องเรียกร้องให้สืบสาวไปให้ถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง กระบวนการยุติธรรมที่ผิดเพี้ยน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกระบวนการต้นน้ำ กรณีเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ที่ปล่อยปละละเลยคือตำรวจและอัยการ การตัดไม้ทำลายป่ามีหลายกรณีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ละเลยไม่ดำเนินการใดๆ กับผู้บุกรุก และมีหลายกรณีที่การขนไม้เถื่อนผ่านหน้าโรงพักเป็นพันเป็นหมื่นท่อน แต่ตำรวจมองไม่เห็น ต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรามีปัญหา และไม่ใช่เพิ่งจะมีปัญหา แต่ปัญหานี้มีมานานแล้ว

กระบวนการสร้างเรื่องดราม่าตายายเก็บเห็ดนี้ก็เช่นกัน ก็ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำนี้เป็นนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการตัดไม้ทำลายป่าหรือไม่

การวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลสามารถทำได้ โดยเฉพาะคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดและถือเป็นบรรทัดฐาน แต่ต้องเป็นการวิจารณ์โดยเหตุด้วยผล โดยข้อเท็จจริงที่เป็นจริง ไม่ใช่การใส่สีตีไข่ ไม่ใช่การสร้างเรื่องดราม่า เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของศาล แน่นอนครับว่าศาลก็เป็นปุถุชน บางเรื่องก็อาจจะผิดพลาดได้ บางคดีคำพิพากษาก็มีปัญหาจริงๆ

ระวังกันไว้นะครับ ศาลท่านมีบทบัญญัติเรื่องการละเมิดอำนาจศาล ถ้าเป็นการวิจารณ์ในเชิงดูหมิ่นดูแคลน อาจจะได้ไปเที่ยวหาประสบการณ์ในเรือนจำโดยไม่เต็มใจก็ได้

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ฟอเรสต์ พบ แมนซิตี้ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 27 ธ.ค.68