ฎีกายืนจำคุก 50 ปี "เอ็ม แรมบ้า"ข่มขืนลูกจ้างสาว

ศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุก 50 ปี “เอ็ม แรมบ้า” ข่มขืนลูกจ้างสาว ถ่ายคลิป ส่วนภรรยา ยกฟ้อง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ศาลอาญา ถ. รัชดาภิเษกนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรชัย หรือคณิศร วิวัฒนชาติ ฉายา "เอ็ม พญาไท" หรือ "เอ็ม แรมบ้า" อายุ 41 ปี และนางธนวรรณ หรือเดือน อุดมมีชัย หรือคล้ายแพร อายุ 50 ปี ภรรยา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา,ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมต่อสิ่งใดฯ,หน่วงเหนี่ยวกักขัง และพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490

ตามฟ้องโจทก์บรรยายสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 19 เม.ย. - 10 ส.ค. 51 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนบังคับข่มขู่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงาน หจก.อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟของจำเลยทั้งสอง แล้วจำเลยที่ 1 ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายครั้งหลายหน โดยข่มขู่จะนำรูปภาพและวีดิโอที่จำเลยที่ 1 แอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายไปเผยแพร่ โดยมีจำเลยที่ 2 พูดจาขู่เข็ญ ข่มขืนใจผู้เสียหาย หมิ่นประมาท เหตุเกิดแขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

คดีนี้จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาตลอด โดยที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำคุกนายสุรชัยหรือเอ็ม พญาไท จำเลยที่ 1 รวมโทษทุกข้อหาทุกกระทงไว้ 50 ปี ปรับ 1,050 บาท ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ส่วนนางธนวรรณ จำเลยที่ 2 ภรรยา จำคุก 10 ปีฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำผิด แต่จำเลยที่ 2 ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ศาจึงออกหมายจับเมื่อปี 2557 และสั่งปรับนายประกันไปแล้ว 1 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ในชั้นฎีกานางธนวรรณ ก็มีพฤติการณ์หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาอีก

โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัว นายสุรชัย จำเลย ที่ 1 มาจากเรือนจำ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หลังจากต้องเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาฎีกาถึง 2 ครั้งเนื่องจากครั้งแรก นางธนวรรณ จำเลยที่ 2 อ้างว่า ไม่ได้รับหมายศาล และไม่มาศาลตามนัด ดังนั้นวันนี้เมื่อ นางธนวรรณ ภรรยาจำเลยที่ 2 ยังไม่มาศาลอีก ศาลจึงอ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลังจำเลยที่ 2

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นควรแก้ปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ที่กระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทจากลงโทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว ตาม ม.310 วรรคแรกให้เป็นจำคุกฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังฯ ม.276 วรรคแรกอันเป็นบทหนักสุด โดยยังคงให้กำหนดโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำคุก 50 ปี ส่วนนางธนวรรณ ภรรยาจำเลยที่ 2 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

น.ส.รัศมี เพ็ญสุขทนายความของผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ร่วมด้วยนั้น กล่าวหลังจากร่วมฟังคำพิพากษาฎีกาว่า คดีอาญาจบแล้ว ฝ่ายผู้เสียหายจะพิจารณากฎหมายเพื่อจะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อไป ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลยกฟ้อง ตนจะไปตรวจดูรายละเอียดคำพิพากษาฎีกาทั้งหมดเพื่อศึกษาข้อกฎหมายอีกคครั้ง