posttoday

‘มนัสนันท์’ จากเด็กไม่สนใจเรียนสู่ ดร.ผู้บริหาร

09 เมษายน 2560

เพราะ...ความไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา อุปสรรค ที่พบเจอในชีวิต ทำให้ผู้บริหารหญิงสุดแกร่ง “มนัสนันท์ พจน์จิรานุกูล”

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

เพราะ...ความไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา อุปสรรค ที่พบเจอในชีวิต ทำให้ผู้บริหารหญิงสุดแกร่ง “มนัสนันท์ พจน์จิรานุกูล” ที่เจอจุดเปลี่ยนในชีวิตมากมาย ต้องออกจากบ้านใน จ.สระบุรี ช่วงอายุ 20 ปี ก่อนมาเริ่มต้นทำงานใน กทม. พร้อมกับทำงานไปและเรียนหนังสือพร้อมกัน จนถึงจุดสร้างธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้บริหาร ซึ่งเปลี่ยนธุรกิจจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย มาสู่การดึงเข้ามาสร้างโรงงานในประเทศไทย และยังขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

“มนัสนันท์ พจน์จิรานุกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปร-แอ็ค มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ปส์ เปิดเผยว่า จากจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตที่ต้องสูญเสียคุณแม่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยในอายุประมาณ 20 ปี และเป็นคนที่สนิทกับคุณแม่อย่างมาก ในช่วงเวลาดังกล่าวมีเงินติดตัวประมาณ 3,000 บาท จึงตัดสินใจออกจากบ้านที่ จ.สระบุรี มาเริ่มต้นที่ กทม. พร้อมกับทำงานและเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงไปด้วย ซึ่งการออกจากบ้านเพราะอยากเริ่มต้นใหม่ แม้ว่าที่บ้านจะมีธุรกิจส่วนตัวและมีฐานะก็ตาม

การเรียนหนังสืออีกครั้งและทำงาน เริ่มต้นจากปี 2535-2536 ได้เป็นพนักงานขายผงซักฟอกเปาบุ้นจิ้น บริษัท สหพัฒนพิบูล ต่อมาก็ย้ายไปเป็นพนักงานฝ่ายขายสินค้าให้แก่บริษัทต่างๆ สินค้าอุปโภคบริโภค และได้ทำงานแผนกขายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งใช้เวลา 8 ปี เพราะก่อนหน้านี้เป็นคนที่ไม่ตั้งใจเรียน และไม่ชอบเรียนเลย แต่ครั้งนี้ตัดสินใจเด็ดขาดต้องมุ่งมั่น ขยันเรียนให้จบให้ได้ หลังจากนั้นก็ยังเรียนต่อเนื่อง และเรียนต่อระดับปริญญาโท สายการตลาด ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พร้อมกับทำงาน

ต่อมาเมื่อจบระดับปริญญาโทแล้ว ก็ตัดสินใจเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ คณะนิเทศศาสตร์ และจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ได้เป็น ดร.ได้สำเร็จ ทุกอย่างมาจากการที่เราต้องการเรียนและพัฒนาความรู้ การไม่หยุดนิ่ง

“คุณพ่อเสียไปก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เราจึงสนิทกับคุณแม่อย่างมาก แต่เราเป็นเด็กเกเร ไม่ชอบเรียนหนังสือเลย แต่ที่ทำมาทั้งหมด ตั้งใจกลับมาเรียนอีกครั้ง จนกระทั่งจบปริญญาตรี จบปริญญาโท และปริญญาเอก จึงอยากให้คุณแม่ได้เห็นสิ่งที่เราทำ เราทำทุกอย่างจนสำเร็จตามที่ตั้งใจแล้ว” มนัสนันท์ กล่าว

ต่อมาได้เปลี่ยนมาทำงานที่บริษัทด้านการขายเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง ผ่านโครงการต่างๆ และได้เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานสู่ผู้จัดการฝ่ายขายได้สำเร็จ โดยได้ทำงานประจำต่อเนื่องเป็นเวลา 11 ปี และเมื่อถึงอายุ 32-33 ปี จึงถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เริ่มมีแนวคิดอยากสร้างธุรกิจ จึงได้เริ่มสร้างธุรกิจและเปิดบริษัทของตัวเอง ซึ่งอยากสร้างธุรกิจที่อยากทำและมีความถนัด

การเริ่มต้นสร้างบริษัทในช่วงแรกที่รับสินค้ามาและขายในประเทศเป็นเวลา 2 ปี จนกระทั่งได้พบกับตัวแทนขายสินค้า บริษัทกันรั่ว กันซึม ที่มาจากประเทศอังกฤษ ถือเป็นแบรนด์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งได้เคยพบกันช่วงทำงานกับบริษัทเก่า ในที่สุดจึงเริ่มต้นเป็นตัวแทนฝ่ายขายให้แก่บริษัทดังกล่าว ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในประเทศสิงคโปร์ บริษัทใหม่ที่เรามุ่งทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ รวมทั้งการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักให้การยอมรับและเชื่อมั่นกับสินค้า และเชื่อมั่นที่จะเลือกใช้บริการ

ต่อมาก็ประสบช่วงสำคัญของธุรกิจอีกครั้ง เพราะพันธมิตรที่ร่วมก่อตั้งมาพร้อมกันตัดสินใจแยกจากบริษัท พร้อมดึงทีมงานไปด้วย ทำให้บริษัทต้องมาเริ่มต้นทั้งพนักงานใหม่อีกครั้ง แต่ไม่ยอมหยุด และมุ่งสร้างองค์กรต่อเนื่อง สร้างคนในองค์กรใหม่ให้แข็งแกร่ง

‘มนัสนันท์’ จากเด็กไม่สนใจเรียนสู่ ดร.ผู้บริหาร มนัสนันท์ พจน์จิรานุกูล

สินค้าได้นำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ และได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ามาเป็นเวลา 7-8 ปี และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเพียงรายเดียวในประเทศไทย ต่อมาจึงได้เริ่มต้นที่จะเจรจามาผลิตสินค้าในประเทศไทย ซึ่งตัวแทนจากประเทศสิงคโปร์ก็มีความเชื่อมั่นกับบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยความจริงใจ ให้ความซื่อสัตย์แก่ลูกค้า ทำให้ได้รับความไว้วางใจ มาสู่การสร้างโรงงานในประเทศไทยได้สำเร็จ ซึ่งได้สร้างโรงงานที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

การลงทุนสร้างโรงงานในไทย ใช้งบลงทุนประมาณ 20-30 ล้านบาท พื้นที่ 4 ไร่ และได้กู้เงินมาสร้างโรงงาน สามารถผ่อนชำระกับธนาคารได้หมดในเวลาประมาณ 6 ปี ซึ่งการที่บริษัทต่างประเทศตัดสินใจเลือกให้เราผลิตสินค้าในประเทศ มาจากความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการบริหารธุรกิจ

แบรนด์สินค้า กันรั่ว กันซึม ในปัจจุบันมีลูกค้าจากบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทย รวมถึงบริษัทก่อสร้าง และบริษัทรถไฟฟ้าใช้บริการจำนวนมาก อีกทั้งบริษัทมีบริการ พร้อมให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าตั้งแต่เริ่มวางแผนโครงการ การเริ่มก่อสร้าง และบริการหลังการขายแก่ลูกค้าครบวงจร โดยบริษัทก่อตั้งมาประมาณ 15 ปีแล้ว และยอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกปี

การบริหารธุรกิจก็จะมุ่งใช้เงินสดในองค์กรมาตลอด รวมถึงระบบการใช้เงินภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพมาก เพราะสภาพคล่องถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ขององค์กร รวมถึงการดูแลต้นทุน การเบิกจ่ายต่างๆ และไม่ลงทุนอะไรที่เกินตัว เพื่อดูแลสภาพคล่องให้ดีที่สุด ซึ่งเมื่อมีกำไรในธุรกิจก็จะลงทุนต่อเนื่อง

การทำธุรกิจมีทั้งปัญหาและวิกฤตมาต่อเนื่อง ก็ต้องปรับมุมมองการทำธุรกิจทุกอย่าง คือโอกาสใหม่เสมอ ก็เมื่อเจอปัญหาก็ต้องทำงานให้เยอะ และพร้อมขยับให้มากที่สุด และไม่กังวลที่จะเริ่มต้นในการสร้างสิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง

“ในทุกวิกฤตของชีวิต มีโอกาสใหม่เสมอ อยากให้ทุกคนตั้งสติ ในบางครั้งต้องถอยมาหนึ่งก้าว เพื่อมองทุกอย่างอย่างรอบด้าน และหากเรากลัวในด้านไหน ก็ต้องขยันให้เยอะและเรียนรู้ในด้านนั้นให้มาก เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด” มนัสนันท์ กล่าว

เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากแนะนำเด็กรุ่นใหม่ ทุกคนไม่ว่าจะทำผิดพลาดในเรื่องใดมาในชีวิต อยากบอกว่าทุกอย่างแก้ไขใหม่ได้ เริ่มต้นใหม่ได้ เด็กรุ่นใหม่ที่อาจจะทำบางเรื่องให้พ่อแม่ต้องผิดหวัง เราต้องลุกมาแก้ไข ทุกอย่างไม่สายเกินไป ที่จะกลับมาเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่อีกครั้ง

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”