สมานฉันท์ ธรรมวัฒนะ ปมคาใจ ใคร ได้ประโยชน์?
ปมบาดหมางภายในตระกูล
“ธรรมวัฒนะ” กินเวลายืดเยื้อยาวนานกว่าทศวรรษ นับตั้งแต่เกิดคดีสะเทือนขวัญจากการเสียชีวิตของนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต สส.กทม. พรรคประชากรไทย ซึ่งกลายเป็นประเด็นคาใจบรรดาญาติพี่น้องที่เคลือบแคลงสงสัยว่าใครคือฆาตกรกระทั่งศาลมีคำตัดสินยกฟ้องนายนพดล ธรรมวัฒนะ ที่ตกเป็นจำเลยมาโดยตลอด ทำให้พ้นมลทินในที่สุด
เช้าวันที่ 6 ก.ย. ที่บ้านธรรมวัฒนะ เขตบางเขน ได้มีพิธีทำบุญใหญ่เนื่องในวันครบรอบ 11 ปี การเสียชีวิตของนายห้างทอง และบรรพบุรุษตระกูลธรรมวัฒนะ
นับเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวของพี่น้องตระกูลดังอย่างพร้อมหน้า ประกอบด้วย นายนพดล ธรรมวัฒนะ น.ส.มัลลิกา หลีระพันธ์ พร้อมด้วย น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ น.ส.ณฤมล มังกรพานิชย์ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีความขัดแย้งกันอย่างหนัก
ก่อนเริ่มพิธีสงฆ์ น.ส.ณฤมล และ น.ส.คนึงนิตย์ ได้นำพวงมาลัยมากราบขอขมานายนพดล พี่ชายที่ตกเป็นจำเลย พร้อมทั้งขออโหสิกรรมที่เคยล่วงเกินและเข้าใจผิดมาตลอด
ต่อมานายนพดล น.ส.คนึงนิตย์ และ น.ส.ณฤมล ร่วมแถลงเปิดใจในประเด็นที่ว่า
“ใครได้ใครเสียผลประโยชน์จากการเสียชีวิตของนายห้างทอง” ท่ามกลางความสนใจของกลุ่มพ่อค้าแม่ขายในตลาดยิ่งเจริญน.ส.ณฤมล เปิดใจเป็นคนแรกว่า อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับครอบครัวอื่นๆ ว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนในครอบครัวไม่หันหน้าคุยกัน ปล่อยให้ถูกครอบงำ เชื่อฟังคำยุแหย่จากบุคคลภายนอก จนทำให้เรื่องบานปลาย
เธอบอกว่า หลังจากนายห้างทองเสียชีวิตไม่นาน นายปริญญา ธรรมวัฒนะ น้องชาย ได้เข้ามาจัดการเปลี่ยนแปลงหุ้นและธุรกิจหลายอย่างของครอบครัว รวมถึงเข้ามาบริหารตลาดยิ่งเจริญ
น.ส.ณฤมล เล่าว่า นายปริญญาได้นำเอกสารต่างๆ มาให้เซ็น แต่ด้วยความไว้ใจและเชื่อใจมาโดยตลอด จึงไม่ได้อ่านเอกสาร ทำให้ทรัพย์สินบางอย่างตกไปเป็นของนายปริญญา
ขณะที่นายนพดล กล่าวว่า หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้อง จึงเป็นที่ชัดเจนว่ามีการปั้นพยานหลักฐานเท็จเพื่อใช้กล่าวหาตัวเอง และสำหรับ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หนึ่งในผู้ร่วมชันสูตรพลิกศพนายห้างทอง ก็คงต้องยอมจำนนด้วยหลักฐาน เพราะมีการพิสูจน์ชัดเจนว่ารอยฟกช้ำที่พบตามร่างกายนายห้างทองเกิดจากการสร้างหลักฐานเท็จ
นายนพดล กล่าวอีกว่า คำพิพากษาของศาลในครั้งนี้ทำให้มั่นใจว่าการปกครองประเทศโดยหลักนิติธรรมจะนำไปสู่ความสงบสุขของประเทศ ซึ่งการรวมตัวกันของพี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดใจ ไม่ได้เป็นการสร้างภาพให้คนภายนอกมองว่ามีความรักใคร่กลมเกลียวกันเหมือนเดิม แต่ทุกคนยอมจำนนต่อหลักฐานและคำตัดสินของศาล
“
ที่ผ่านมากิเลสอาจจะครอบงำ ทำให้พี่น้องบางคนทำในสิ่งที่ผิด แต่วันนี้ความจริงได้ปรากฏแล้ว 11 ปีที่ผ่านมา ผมได้รับผลกระทบอย่างมาก ช่วงชีวิตในขณะนั้นสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้มากมาย แต่ก็ต้องมาตกอยู่ในสภาพจำเลยของสังคม” นายนพดล กล่าวนายนพดล เปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่ทำให้นายห้างทองฆ่าตัวตาย เพราะมีปัญหาหลายเรื่อง และต้องการความร่วมมือจากคนในครอบครัว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ โดยก่อนจะเสียชีวิตมีเอกสารบางอย่างที่สำคัญมาก และเกี่ยวข้องกับนายปริญญา
“
อาจเป็นเพราะพี่ห้างทองไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือหาทางออกได้ เหตุการณ์จึงจบลงเช่นนั้น” นายนพดล กล่าวนายนพดล ทิ้งท้ายว่า ขณะนี้เหลือเพียงคดีฟ้องร้องเรื่องหุ้นกับนายปริญญาเท่านั้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคดีที่สำคัญ และคาดว่าจะมีการตัดสินในเร็วๆ นี้


