posttoday

มะกันใต้แสงจันทร์ Moonlight

28 กุมภาพันธ์ 2560

หากพักจากเรื่องเศรษฐกิจ-การเมืองเครียดๆ กันแล้ว เมื่อวานนี้ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาทั่วโลกโซเชียลได้มากที่สุด

โดย...นันทิยา วรเพชรายุทธ

หากพักจากเรื่องเศรษฐกิจ-การเมืองเครียดๆ กันแล้ว เมื่อวานนี้ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาทั่วโลกโซเชียลได้มากที่สุด เห็นจะเป็นเวที อคาเดมี อวอร์ดส์ กับปรากฏการณ์ “จดหมายผิดซอง” (อีกแล้ว)

เพราะความสะเพร่าของทีมงานที่ส่งจดหมายผิดซองนี่เอง ที่ทำให้ 2 ดาราดังรุ่นลายครามอย่าง วอร์เรน เบตตี้ และ เฟย์ ดันอเวย์ ต้องกลายเป็นจำเลยประกาศชื่อผิด ซ้ำรอยเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2016 เพราะแทนที่จะเป็นหนังเกย์ผิวสีสุดดราม่าอย่าง “Moonlight” แต่กลายเป็นประกาศให้หนังเพลงดังอย่าง “La La Land” ไปเสียอย่างนั้น

โชคดีที่ได้โปรดิวเซอร์ของลาลาแลนด์ จอร์แดน โฮโรวิทซ์ เป็นคนพูดออกไมค์ย้ำว่ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นของมูนไลต์ต่างหาก และได้ฝีปากพิธีกรหลัก จิมมี คิมเมล มาช่วยพลิกสถานการณ์ให้ผ่อนคลายลง ถึงอย่างนั้น ทางบริษัทตรวจสอบบัญชี ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเรื่องการนับคะแนนและประกาศรางวัล ก็ยืนยันจะเร่งสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อแก้ไขความผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์งานอคาเดมี อวอร์ดส์ ให้กระจ่างโดยเร็ว

แม้จะเป็นเรื่องผิดพลาดที่คลี่คลายลงได้แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยเหมือนกันที่มูนไลต์ถูกขโมยซีนไปเพราะเรื่องประกาศรางวัลผิด ทั้งที่รางวัลของมูนไลต์อาจถือเป็น “สาสน์ทางการเมือง” ที่ทรงพลังที่สุดครั้งหนึ่งในฮอลลีวู้ดก็ว่าได้

ประการแรกนั้น เป็นเพราะมูนไลต์อาจนับเป็นหนังเกย์ผิวสี “เรื่องแรก” ที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ของงานออสการ์ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

หนังแนวความหลากหลายทางเพศ LGBT ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ล้วนได้แต่รางวัลอื่นๆ แต่ไม่ใช่รางวัลใหญ่สุดอย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เช่น Milk ที่ฌอน เพนน์ ได้รางวัลนำแสดงชายยอดเยี่ยมปี 2009 จากบทนักการเมืองเกย์ หรืออย่างหนังเกย์ที่ดังที่สุดเรื่องหนึ่งอย่าง Brokeback Mountain ก็ทำได้ดีสุดที่รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมซึ่งตกเป็นของ อั้ง ลี่    

แต่มูนไลต์ยังเป็นทั้งหนังเกย์ที่ควบเรื่องสีผิวไปพร้อมกันด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้งในยุคคนขาวครองเมืองของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งทำให้สังคมสหรัฐเข้าสู่การแตกแยกทางความคิดมากที่สุดครั้งหนึ่งทั้งในเรื่องสีผิว ศาสนา เพศ ไปจนถึงเรื่องจริยธรรม เช่น การทำแท้งและการครอบครองปืน

อย่างไรก็ดี คงไม่ยุติธรรมนักหากจะกล่าวถึงรางวัลนี้ในแง่การเมืองเป็นหลัก หากยังไม่ได้ชมบทและการแสดงอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนักแสดงนำที่ถ่ายทอดชีวิต 3 ช่วงวัย ของตัวเอก “ไชรอน” ได้อย่างน่าทึ่งโดยเฉพาะสีหน้าและแววตา รวมถึงบทที่สะท้อนมุมของสังคมคนผิวสีในอเมริกาได้อย่างน่าติดตาม แม้ว่านี่จะเป็นหนังดราม่าทุนต่ำเพียง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ได้มีนักแสดงแม่เหล็กชื่อดัง และทำเงินได้เพียง 22 ล้านเหรียญสหรัฐในบ้านก็ตาม

“รางวัลนี้เป็นของเด็กชาย เด็กหญิง ทั้งผิวดำ ผิวสีอื่น ไปจนถึงคนที่ไม่ต้องการระบุเพศ รางวัลนี้เป็นของพวกคุณทุกคน” ทาเรลล์ อัลวิน แม็คครานีย์ 1 ใน 2 ผู้เขียนบทซึ่งได้รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม กล่าว

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"