ป.ป.ส.เตือนอันตรายดมแก๊สกระป๋องเสี่ยงตาย

ป.ป.ส.เตือนอันตรายพิษก๊าซกระป๋องหุงต้มไม่มีสี-กลิ่น เสพต่อเนื่องเสี่ยงตายสูงทำเลือดข้มข้นสูง-หัวใจขาดออกซิเจนเฉียบพลัน เตือนผู้ปกครอง-ครูเฝ้าระวังพฤติกรรมเยาวชน
 
วันที่ 25ก.พ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) เปิดเผยหลังจากเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเยาวชนจ.นครราชสีมา ได้นำก๊าซเชื้อเพลิงบรรจุกระป๋องมาเสพ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต 1 ราย และอีกรายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยระบุว่าก่อน จะเสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซดังกล่าว ทั้งคู่ได้เสพก๊าซมาแล้วประมาณ 2 เดือน เพื่อให้เกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม และมีอาการเมา ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างก๊าซมาตรวจสอบพบว่า เป็นก๊าซเชื้อเพลิงบรรจุกระป๋องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการหุงต้มใช้กับเตาแก๊สสนามแบบพกพา มีส่วนประกอบของโพรเพน (Propane) และบิวเทน (Butane) ซึ่งมีลักษณะเป็นก๊าซไม่มีสีและไม่มีกลิ่น 

"ภายใต้ความดันสูงจะเป็นของเหลวใส ไอที่เย็นจะเห็นเป็นหมอกหรือควันสีขาว ก่อนนำมาใช้ประโยชน์จะมีการเติมกลิ่น เพื่อให้สังเกตเห็นและป้องกันอันตราย กรณีที่เกิดการรั่วจากภาชนะบรรจุ  ซึ่งเมื่อนำไปสูดดมจะเกิดอันตราย ออกฤทธิ์กดระบบประสาทมึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หากสะสมในร่างกายจนมีความเข้มข้นสูงจะทำให้ออกซิเจนในปอดลดลง ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ลดลง หัวใจเต้นเร็ว มึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ทรงตัวไม่อยู่ เพราะเมื่อก๊าซผ่านจากปอดเข้าสู่กระแสเลือดจะไปสะสมในปริมาณสูงที่อวัยวะที่มีไขมันสูงคือ สมองหรือหาสะสมที่ตับ หัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และมีภาวะขาดออกซิเจน ก็จะเกิดอาการชัก หมดสติ เกิดภาวะขาดออกซิเจนเฉียบพลัน เสียชีวิตได้"นายศิรินทร์ยา กล่าว

ด้านนายนิยม เติมศรีสุข รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กรณีดังกล่าวอยากให้ผู้ปกครองช่วยเฝ้าระวังพฤติกรรมของเยาวชนด้วยเนื่องจากปัจจุบัน เด็กจะรับข้อมูลต่างๆจากสื่อออนไลน์หรือกลุ่มเพื่อน ทำให้เกิดการเลียนแบบ และพฤติกรรมบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดอันตราย จึงขอให้ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ช่วยสังเกตุและให้ความรู้ความเข้าใจถึงโทษพิษภัยจากการใช้ยาเสพติด รวมถึงการใช้ยาและสารต่างๆ ในทางที่ผิดด้วย