ริงกิตตกเหลือ7บาท ท่องเที่ยวสลด-นำเข้ายิ้มร่า

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ค่าเงินริงกิตมาเลเซียที่ลดลงเหลือ 7 บาท/1 ริงกิต ทำให้นักธุรกิจชายแดนไทย-มาเลเซีย วิตกกังวลถึงผลกระทบที่ตามมา ส่วนหนึ่งสำหรับธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือชาวมาเลเซีย น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดน้อยลง เห็นได้ชัดจากช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เดิมห้องพักในพื้นที่ ท่องเที่ยวอย่างเช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่พอ รองรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียซึ่งเข้ามาจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันอัตราการเข้าพัก กลับมีแค่ไม่เกิน 80% ของจำนวนห้องพักที่มีอยู่ทั้งหมด

กันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้า จังหวัดยะลา กล่าวว่า เมื่อเงินริงกิตลดลงทำให้เกิดผลกระทบ ต่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศ มาเลเซีย รวมทั้งการท่องเที่ยวชายแดน นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียก็เดินทาง เข้ามาลดลง จะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวเงียบเหงาทันที

ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา เสนอว่า เพื่อลดผลกระทบการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะ อ.เบตง จ.ยะลา ถ้ารัฐบาลมีการพัฒนาเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง และสนามบินเบตง หากมีผลกระทบจากฝั่งมาเลเซีย ก็จะยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบแก่ผู้ประกอบการได้บ้าง

ทั้งนี้ ผลกระทบจากค่าเงินริงกิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้การท่องเที่ยว ในพื้นที่ชายแดน เช่น พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส  และ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบ นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ที่เดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียนับแสนคน ก็ได้รับผลกระทบจากค่าเงินริงกิตที่ลดลงเช่นกัน จากเดิมที่ส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวในประเทศไทย 1 ริงกิต แลกได้ 10 บาท ปัจจุบัน 1 ริงกิต แลกได้ประมาณ 6-7 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินที่ลดลง กลับส่งผลดีต่อธุรกิจที่นำเข้าสินค้าจากมาเลเซีย

ผู้ค้าน้ำมันปาล์มรายหนึ่ง เปิดเผยว่า การนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียเข้ามาจำหน่ายใช้เงินน้อยลงแต่ซื้อของได้มากขึ้น

ทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า กำลังจับตาการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศอยู่เช่นกัน เพราะจะทำให้กลไกการตลาดในประเทศเสียหาย

โอภาส หนูชิต ประธานกรรมการสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.พัทลุง (สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช) เปิดเผยว่า ปาล์มน้ำมันพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ในไตรมาสแรกปี 2560 ได้หายไปจากภาพรวมประมาณ 70% จากภาวะน้ำท่วมหนัก โดยคาดว่ากว่าปาล์มในพื้นที่ภาคใต้จะกลับมาให้ผลผลิตได้ ก็น่าจะเข้าสู่ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.

ทั้งนี้ เศรษฐกิจมาเลเซียถือว่าตกต่ำสุดในรอบ 7 ปี ค่าเงินริงกิต ซึ่งร่วงจาก 9 บาท/1 ริงกิต เหลือเพียง 7 บาท ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคใต้ตอนล่างอย่างมาก โครงการต่างๆ ที่กำลังปักหลักเริ่มต้นต้องชะงักงันทันที

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของมาเลเซียและค่าเงินริงกิตที่ตกต่ำ ยังคงเป็นประเด็นสำคัญ สำหรับผู้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการค้าชายแดนไทยมาเลเซีย คาดว่าผลกระทบครั้งนี้คงใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัว