อาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ต้นแบบสร้างคนดีสู่สังคม

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

“วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ” นับเป็นสถานศึกษาต้นแบบที่หลอมรวมทั้งวิชาการ วิชาชีพ และธรรมะ พัฒนาเป็นหลักสูตรการท่องเที่ยว โรงแรม บัญชี คอมพิวเตอร์ธุรกิจ เลขานุการ ภาษาต่างประเทศ (จีนและอังกฤษ) การทำอาหาร ซึ่งทั้งหมดเป็นการตอบโจทย์เพื่อป้อนคนเข้าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทุกหลักสูตรเรียนฟรีและกำลังจะเปิดรับรุ่นแรกเดือน พ.ค.นี้

สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย อธิบายแนวคิดการก่อตั้งวิทยาลัยแห่งนี้ว่า ต้องการมีโรงเรียนอาชีวศึกษาที่ผลิตคนป้อนให้ตรงกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ สอง นักศึกษาของเราจะต้องเรียนและทำงานควบคู่กันไปทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ คือ เรียน 4 วัน ทำงาน 3 วัน ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย สอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นค่อยเพิ่มเติมเนื้อหาเพื่อทำให้คนมีคุณภาพ

จุดเด่นจะอยู่ที่การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้กับนักศึกษา ซึ่งกินนอนอยู่ประจำ กินฟรี อยู่ฟรี เรียน ปวช. 3 ปี ปวส. 2 ปี แต่ต้องอยู่แบบชาววัด ตื่นตี 4 มาทำวัตรเช้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ฟังเทศน์ จากนั้นค่อยมาเรียนหนังสือ ฝึกงาน ทำวัตรเย็น สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา 

ทั้งหมดเป็นการฝึกเพื่อควบคุมตัวเอง ภาษาพระเรียกการควบคุมอินทรีย์ ควบคุม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกิเลส

สอง เด็กจะต้องได้รับการฝึกให้รู้จักการใช้ชีวิต พอกินพออยู่ พอเหมาะ พอควร ภาษาพระเรียกโภชเนมัตตัญญุตา ซึ่งจะต้องบำเพ็ญเพียรทุกวัน เราเชื่อว่าทำทุกวัน 5 ปี จะต้องมีอะไรติดตัวออกไป

สุเทพ เล่าย้อนถึงที่มาของแนวคิดว่า ภาพคนเรียนอาชีวะคือเด็กไปตีกันกลางถนน แต่หากไปดูหลายประเทศ ทั้งเยอรมนี สิงคโปร์ กำลังพัฒนาประเทศคืออาชีวะ ตอนนั้นบวชที่สวนโมกข์ อ่านหนังสือ ฟังเทศน์พระพุทธทาสทุกวัน สิ่งที่ท่านพูดบ่อยคือเรื่องการศึกษา ต้องปลูกฝังธรรมะในระบบการศึกษา พอไปคุยกับพระภาวนาโพธิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม ก็คิดตรงกัน

“เราคิดอยู่ในใจ ซึ่งพระท่านไม่ยุ่งทางโลก กลับพูดเหมือนที่เราคิด คือทั้งเรื่องอาชีวะและธรรมะจึงตกลงใจทำในนามมูลนิธิ คิดว่าหากจะทำให้สำเร็จ จุดแรกต้องทำให้คนสนใจ จึงไปตั้งที่เกาะสมุย เวลาชวนคนไปดูงานจะได้มีคนสนใจ

“งบประมาณทั้งหมดตั้งไว้ประมาณ 500 ล้านบาท ขณะนี้ใช้ไป 200 ล้านบาท มาจากคนบริจาคคนละร้อยบาทไปจนถึงคนละแสนสองแสน มีทั้งจัดกิจกรรมระดมทุน ใครบริจาคก็ติดชื่อเขา เช่น สร้างห้องเรียนหนึ่งห้อง 6.8 แสนบาท ก็จะติดชื่อว่าใครบริจาค ตอนเชิญสมาคมผู้ส่งออกข้าวมาทานอาหารกลางวัน เขาบริจาค หอประชุม 23 ล้านบาทเศษ ทำเสร็จก็พาไปดู กรรมการสมาคมบอกเดี๋ยวบริจาคอีก

“ขณะนี้เฟสแรกถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย สามารถเปิดสอนได้ แต่ก็ต้องหาเงินทำเฟสสอง เฟสสามต่อไป สร้างไปเรื่อยๆ เดี๋ยววันที่ 25 มี.ค. ก็จะมีการทอดผ้าป่า ใครอยากทำบุญก็ไปที่นั่น”

สุเทพ เล่าถึงเป้าหมายว่า เด็กที่จบจากที่นี่จะมีงานรองรับ โดยเบื้องต้นได้ไปเจรจากับโรงแรมในเกาะสมุย ทั้ง คอนราด บันยันทรี โฟร์ซีซั่นส์ ทุกเจ้าในเกาะสมุย ไปเจรจากับเขาว่าใครเก่งอะไรก็ให้มาสอนที่วิทยาลัย สอง เจรจาให้เขาช่วยรับเด็กจากวิทยาลัยไปทำงานกับเขา ซึ่งก็เป็นลูกศิษย์ที่เขามาสอนว่าจะรับได้กี่คน ให้ไปทำงานจนเก่ง สาม คุณมีความต้องการคนทำงานในอีก 5 ปีอย่างไร สนใจจะให้ทุนเขาไหม

“เรียนจบเราจะให้คุณมาเลือก ทั้งตะกร้ามาหยิบเด็กผมไป แต่ผมคิดค่าตัวแพงกว่าคนอื่น เพราะเด็กผมมีธรรมะ เราเชื่อว่าของเราดี ต่อรองได้ หากโรงเรียนนี้เสร็จ ผมตั้งใจไปทำที่ภาคเหนืออีกสักโรง ภาคใต้มุสลิมอีกสักโรง วันนั้นเริ่มไปคุยกับคุณสมัย เจริญช่าง ไปแล้ว” สุเทพ กล่าวทิ้งท้าย