posttoday

พอที ... ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก

19 กุมภาพันธ์ 2560

ตัวหนังสือบนเสื่อโยคะ “I’m enough!” นั้นโดดเด่น สะดุดทั้งตาและใจ เป็นทั้งคำเตือนตนและแสดงตัวตนได้อย่างดี

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

ตัวหนังสือบนเสื่อโยคะ “I’m enough!” นั้นโดดเด่น สะดุดทั้งตาและใจ เป็นทั้งคำเตือนตนและแสดงตัวตนได้อย่างดี

สำหรับครูสอนโยคะสาวผู้กระตือรือร้นและเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตจนผู้คนรอบข้างสามารถสัมผัสได้ ก่อนที่เธอจะกลั่นกรองประโยคประจำตัวนั้นออกมาได้ หญิงสาวผ่านการเรียนรู้และเข้าใจว่า แม้จะต้องการความสมบูรณ์แบบมากขนาดไหน หากพยายามเกินไปจนทุกข์กายหรือไม่สบายใจ นั่นก็หมายความว่า ถึงเวลาต้องช้าลง หรือหยุด และบอกตัวเองว่า “พอแล้ว”

เธอเติบโตมาด้วยความคาดหวัง และทำได้ดีในทุกๆ อย่าง เป็นนักเรียนเกรด A มีความสามารถทางด้านกีฬา ทำตามความต้องการของพ่อแม่ ครูอาจารย์ รวมทั้งโค้ชอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเก่าแก่ชั้นนำของประเทศ แต่เมื่อขึ้นชั้นปีที่ 2 เธอก็ป่วยหนักจนถูกหามเข้าโรงพยาบาล ต้องใช้เวลาพักรักษาตัวและใจอยู่นาน

ทั้งหมดเกิดเพราะความต้องการสมบูรณ์แบบ เริ่มจากที่โค้ชแนะนำให้เธอลดน้ำหนักเพื่อเล่นยิมนาสติกให้ได้ดีขึ้น และเธอก็เหมือนวัยรุ่นหลายๆ คนที่มักจะกลัวอ้วน จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะผอม นอกจากออกกำลังกายลดหุ่นอย่างบ้าคลั่งแล้วเธอก็แทบไม่แตะอาหารเลย บ่อยครั้งจะล้วงคอให้อ้วกหลังรับประทาน เธอปลีกตัวห่างจากเพื่อนและครอบครัว ก่อนจะป่วยหนักด้วยโรคอะนอเร็กเซีย จนต้องพักการเรียน และเลิกเล่นกีฬา นอกจากรักษาตัวแล้วเธอต้องฟื้นฟูจิตใจด้วยการพบจิตแพทย์ ซึ่งใช้เวลาเป็นปีกว่าจะคิดและเชื่อว่า ทุกอย่างในชีวิตไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์!

แม้จะรู้ว่า โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ แต่หลายคนก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นความบกพร่องในตัวเอง รวมถึงคนรอบตัว งาน ความสัมพันธ์ สังคม ฯลฯ บางคนถูกเรียกหรือเรียกตัวเองว่าเป็น “Perfectionist” หรือ “นักสมบูรณ์แบบนิยม” เพราะพวกเขามีมาตรฐานที่ต้องไปให้ถึงในทุกเรื่อง โดยไม่มีข้อแม้ข้ออ้างใด ไม่ว่าจะไม่มีเวลา ไม่มีกำลัง ไม่มีเหตุผลที่จะอนุโลมให้ทำอะไรส่งๆ หรือสักแต่ว่าทำให้เสร็จๆ ไป

นักนิยมความสมบูรณ์มักจะมองเห็นข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดทั้งๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็น เพราะพวกเขามักจะสนใจและใส่ใจในรายละเอียด เมื่อเห็นข้อผิดพลาดเขาก็เป็นคนแรกๆ ที่กระโดดเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลง บางคนมักเล็งเป้าหมายและผลสุดท้าย โดยไม่สนใจว่าระหว่างนั้นต้องทุ่มเทหรือสูญเสียอะไรไปบ้าง ด้วยมาตรฐาน ความหวัง และเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความกดดันอย่างไม่รู้จบ ความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบนั้นบ่อยครั้งต้องแลกมาด้วยเวลา สุขภาพ และอื่นๆ เมื่อไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ความรู้สึกเศร้า เสียใจ ผิดหวัง หรือโกรธเกรี้ยวก็ตามมา

ก่อนที่จะสายไป นักนิยมความสมบูรณ์ควรเรียนรู้และเข้าใจว่า “สมบูรณ์แบบ” ไม่มีจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสิ่งหนึ่งซึ่งใกล้เคียงคือ “ทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้” และรู้จักคำว่า “พอแล้ว”

แต่กว่าที่ใครสักคนจะพูด I’m enough! ออกมาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งอาจจะไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว เพราะเรายังต้องมีชีวิตอยู่ในสังคม ซึ่งเต็มไปด้วยความกดดันและคาดหวัง สังคมทำให้เราพยายามมีรูปร่างดีเยี่ยม ต้องประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีชีวิตครอบครัวอบอุ่น ใช้วันหยุดในสถานที่แสนสวยงาม มีเงินทอง อยู่ดีกินดี มีเวลาปาร์ตี้หรือช็อปปิ้ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผลักให้เราต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง มุ่งมั่นทำงาน หาเงิน ปรุงแต่งเสริมบุคลิกภาพเนื้อตัว ออกกำลังกาย สร้างไลฟ์สไตล์ ฯลฯ เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ด้วยหวังว่าจะมีความสุขมากขึ้น มีคนรัก และได้รับการยอมรับ สุดท้ายความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบ ในสายตาคนอื่นและในความคิดของตัวเองนั้น อาจจะเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า เมื่อเรากลายเป็นคนอื่น

ในสังคมที่มีการแข่งขันสูง แนวโน้มที่คนจะนิยมความเป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์มีสูงไปด้วย แม้แต่เด็กๆ ก็ไม่ยกเว้น อย่างเช่น สาวน้อย แซนดี้ แซนเดอร์ส ตัวละครจากหนังสือภาพสำหรับเด็กชื่อ Nobody’s Perfect: A Story for Children About Perfectionism

แซนดี้เป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์ ถ้าหากทำอะไรได้ไม่ดีที่สุด เธอก็จะรู้สึกว่า ตัวเองล้มเหลว เธอมักจะติดอยู่กับอะไรเก่าๆ เดิมๆ ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ แซนดี้คอยแต่จะคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ และคิดว่า ตัวเองไม่ดีพอ โชคไม่ร้ายเกินไปที่เธอยังมีครูและแม่คอยประคองช่วยเหลือให้แซนดี้ได้เรียนรู้วิธีผ่อนคลาย และลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ต้องกังวลมากเกินไปกับการเป็น “ที่สุด” รวมทั้งช่วยให้เธอรู้ว่า ทั้งหมดที่สามารถทำได้ และควรทำคือ เป็นตัวของตัวเอง

หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ เอลเลน ฟลานาแกน เบิร์นส์ นักจิตวิทยาโรงเรียนผู้ได้เรียนรู้ว่า ความต้องการที่จะสมบูรณ์แบบนั้นมักมาพร้อมกับความเจ็บปวด! ผู้เขียนต้องการที่จะบอกกับเด็กๆ รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองได้เข้าใจว่า ความผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต และทุกสิ่งที่ทำนั้นไม่จำเป็นจะต้องเพอร์เฟกต์!

ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเอง และมีเส้นทางชีวิตซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกับใคร โดยไม่ปล่อยให้สังคมรอบข้าง รวมทั้งความคาดหวังจากคนอื่นๆ มามีอิทธิพลมากจนเกินไป เราอาจจะต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างที่สุด เพื่อหลุดพ้นจากแรงกดดันจากผู้คนรอบข้างและสังคม แต่เป้าหมายคือ อิสรภาพ และความสุขแบบไม่ต้องพึ่งพิงหรือขึ้นกับคนอื่นและสิ่งอื่นก็ควรค่าที่จะลงมือลงแรง

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้