หลักการเลือกคนที่ใช่ ใช้ทำงานแบบสามก๊ก
ช่วงนี้ถ้าท่านใดได้มีโอกาสดูโทรทัศน์หรือติดตามในสื่อดิจิทัลทั้งหลายก็น่าจะได้เห็นซีรี่ส์เรื่อง “สามก๊ก”
โดย...ธรรมนูญ มิตรเทวิน ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท เดอะไนล์
ช่วงนี้ถ้าท่านใดได้มีโอกาสดูโทรทัศน์หรือติดตามในสื่อดิจิทัลทั้งหลายก็น่าจะได้เห็นซีรี่ส์เรื่อง “สามก๊ก”
เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และถูกทำมาให้ได้ทั้งอ่าน ฟัง และดูกันมาในหลากหลายรูปแบบแล้ว
ประเด็นหนึ่งที่เป็นประโยชน์จากเรื่องสามก๊กนี้ สำหรับผู้นำองค์กรไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ คือการได้หลักการวิธีเลือกคนและใช้คนของเหล่าผู้นำก๊กต่างๆ ในเรื่อง อันได้แก่ โจโฉ เล่าปี่ และซุนกวน โดยแต่ละคนมีหลักการดังนี้
โจโฉ แห่งวุยก๊ก
เน้นเลือกใช้คนที่ความสามารถและจัดคนให้เหมาะกับงานที่มอบหมาย เปิดโอกาสให้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่โดยไม่เล่นพรรคเล่นพวกหรือเครือญาติ
ยกตัวอย่างแม้ขนาดกวนอู ซึ่งเป็นแม่ทัพเอกของเล่าปี่ฝ่ายศัตรู เมื่อโจโฉเห็นฝีมือการรบก็ชื่นชมในความเก่งกล้าสามารถ ถึงขนาดยอมทำทุกวิถีทางที่จะดึงตัวไว้เป็นพวก แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
เล่าปี่ แห่งจ๊กก๊ก
เน้นเลือกใช้คนที่ตนเองไว้ใจ เปรียบเสมือนธุรกิจครอบครัว โดยมีพี่น้องร่วมสาบาน 2 คน เป็นแม่ทัพคู่ใจ และมีขงเบ้งเป็นนักบริหารมืออาชีพเป็นผู้คอยบริหารจัดการ
พร้อมกันนี้ยังอาศัยจุดแข็งของตนเอง คือความอ่อนน้อมถ่อมตนและภาพลักษณ์ในฐานะพระเจ้าอาของฮ่องเต้ขยายอำนาจ สร้างฐานที่มั่นของตนเองจนประสบความสำเร็จ
ซุนกวน แห่งง่อก๊ก
เน้นเลือกใช้คนโดยให้มีการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่า ซึ่งเป็นคนที่ก่อร่างสร้างตัวมากับรุ่นพ่อ รุ่นพี่ชาย ทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถมาทำงาน
ทั้งยังมีการคานดุลอำนาจและบริหารจัดการกันแบบเป็นทีมงานหรือคณะทำงาน
อย่างเช่น การให้จิวยี่เป็นแม่ทัพรับมือโจโฉ หรือลกซุนเป็นแม่ทัพรับมือเล่าปี่ โดยมีเหล่าแม่ทัพที่มีอาวุโสมากกว่าคอยให้การสนับสนุนและประชุมหารือร่วมกันเสมอ
สำหรับผมในฐานะที่ปรึกษาที่ทำเรื่องเกี่ยวกับการบริหารและพัฒนาบุคคล ได้สังเกตเห็นจุดร่วมกันของผู้นำทั้ง 3 ก๊ก ที่รู้ปัจจัยสำคัญทำให้สามารถเลือกคนที่ใช่มาใช้ทำงานให้ประสบความสำเร็จได้
สรุปออกมาได้ว่ามี 3 ปัจจัยดังต่อไปนี้
1.รู้ Character
ในความหมายนี้คือ รู้ลักษณะ บุคลิกภาพ นิสัยใจคอ ของขุนนาง แม่ทัพ และกุนซือแต่ละคนออกว่าเป็นอย่างไร ควรใช้ทำงานประเภทไหน แล้วจะทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย
2.รู้ Competence
ในความหมายนี้คือ รู้ความสามารถของขุนนาง แม่ทัพ และกุนซือของตนเอง ว่ามีฝีมือมากน้อยขนาดไหน ควรให้ไปดูแลเมืองประเภทใด หรือจะออกศึกแล้วจะชนะได้หรือไม่
3.รู้ Communication
ในความหมายนี้คือ รู้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมว่าจะพูดเรื่องอะไร ให้ใครฟังได้บ้าง
รวมทั้งรู้จักพูดหรือสื่อสารด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดกำลังใจ และเกิดความรู้สึกร่วมแรงร่วมใจเวลาต้องทำศึกสงคราม
นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ประเด็น ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากเรื่องราวของสามก๊ก
สำหรับใครก็ตามที่ต้องการพัฒนาตนเองและทีมงานหรือแม้กระทั่งองค์กร บริษัทให้ก้าวหน้า เติบโต ควรจะศึกษาเอาไว้
สุดท้ายนี้ขอยกคำกล่าวหนึ่ง ซึ่งน่าจะพอคุ้นเคยกันอยู่บ้างแล้ว และขอนำมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยนี้ว่า
“ถ้าไม่ได้ศึกษาเนื้อหาสามก๊ก อย่าริคิดการใหญ่ในยุค 4.0”


