เซี่ยงอวี่-เก่งกล้าแต่อายุสั้น
เซี่ยงอวี่ คือหนึ่งในหัวหน้ากองกำลังสำคัญที่ล้มราชวงศ์ฉินของจิ๋นซีฮ่องเต้ลงได้ ฝีมือและวีรกรรมของเซี่ยงอวี่ไม่เป็นสองรองใคร
โดย...นิธิพันธ์ วิประวิทย์
เซี่ยงอวี่ คือหนึ่งในหัวหน้ากองกำลังสำคัญที่ล้มราชวงศ์ฉินของจิ๋นซีฮ่องเต้ลงได้ ฝีมือและวีรกรรมของเซี่ยงอวี่ไม่เป็นสองรองใคร
เซี่ยงอวี่เกิดในตระกูลยอดนักรบ ปู่และลุงของเขาเป็นแม่ทัพมีชื่อของแค้วนฉู่ เซี่ยงอวี่รูปร่างสูงใหญ่ พละกำลังมหาศาล ว่ากันว่าเขาสามารถยกกระถางทองเหลืองหนักนับร้อยกิโลกรัมขึ้นชูเหนือหัวได้ด้วยแขนเดียว เมื่อรู้ว่าตัวเองมีดีทั้งด้านพละกำลัง และด้วยความหยิ่งผยองในชาติเชื้อ เซี่ยงอวี่จึงมักแสดงความมักใหญ่ใฝ่สูงและความเก่งกล้าแบบบ้าพลังให้เห็น
เมื่อเขาเห็นขบวนรถเสด็จประพาสของจิ๋นซีฮ่องเต้ผ่านท่ามกลางฝูงชนที่มุงดู เขาพูดออกมาว่า “ข้าขึ้นไปแทนที่ตรงนั้นได้” ทำเอาลุงของเซี่ยงอวี่ตกใจสะดุ้ง ต้องเอามือปิดปากเซี่ยงอวี่ไว้
พ่อแม่เซี่ยงอวี่ไม่ปรากฏชื่อในประวัติศาสตร์ เขาเป็นเด็กที่มีลุงคอยสั่งสอน เมื่อยังเล็กลุงให้เขาร่ำเรียนหนังสือ แต่เซี่ยงอวี่กลับไม่เอาใจใส่ ลุงจึงให้เขาไปเรียนเพลงกระบี่ เขาก็ไม่ตั้งใจเรียนอีก ลุงโมโหยิ่งนัก เซี่ยงอวี่เห็นลุงผู้มีพระคุณโกรธจึงอธิบายว่า “ร่ำเรียนเขียนหนังสือจะมีประโยชน์ก็แค่ให้จำชื่อคนได้ ส่วนวิชาดาบเรียนไปก็ชนะได้แค่ตัวต่อตัว ที่ข้าต้องการคือเอาชนะคนนับหมื่นในสนามรบ” คำอธิบายนี้คงเก๋าถูกจริตลุงเข้าให้ ลุงจึงให้เซี่ยงอวี่ไปเรียนพิชัยสงคราม แต่เซี่ยงอวี่เรียนไม่ทันจบครบกระบวนความ ก็มีอันวิชาร้อนรีบลองเชิงในสนามจริง
ช่วงนั้นคือช่วงปลายราชวงศ์ฉิน แผ่นดินแตกแยก กบฏทั้งหลายลุกฮือ ขุนศึกเข้าห้ำหั่นช่วงชิงอำนาจ ลุงหลานสองคนจึงได้โอกาสออกรบสร้างชื่อ เซี่ยงอวี่ทำได้ดีงามสมราคาคุย วีรกรรมการออกรบแต่ละครั้งเป็นที่กล่าวขวัญ
ไม่ว่ารบแบบใช้ทหารน้อยตะลุยฝ่ากองทัพใหญ่ รบแบบใช้ทหารมากทุ่มถาโถมจนข้าศึกเผ่นป่าราบ ใช้ความเก่งกล้าเข้าข่มขู่โดยไม่ต้องออกแรงรบ หรือรบชี้ชะตาทุบหม้อข้าวจมเรือ ตัดทางถอยตัวเองเพื่อรีดประสิทธิภาพของกองทัพ เซี่ยงอวี่ทำมาหมด และล้วนประสบความสำเร็จงดงามในทุกสมรภูมิรบ
เซี่ยงอวี่อายุ 24 ร่วมออกรบกับลุงในฐานะรองแม่ทัพ อายุ 27 เป็นหนึ่งในขุนศึกทรงอำนาจ ได้ขึ้นนั่งแท่นผู้นำอันดับหนึ่งในแผ่นดิน
แต่แล้วเซี่ยงอวี่ก็ต้องเจอกับความเป็นจริงของการชิงชัยในเวทีการเมือง
เซี่ยงอวี่เจอคู่แข่งตัวฉกาจนามหลิวปัง เทียบฝีมือนำทัพกัน หลิวปังเป็นแค่เด็กอนุบาล เทียบความหนุ่มแน่น เซี่ยงอวี่คือหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ส่วนหลิวปังคือผู้นำรุ่นลุง เซี่ยงอวี่ไม่เห็นหลิวปังในสายตา ในใจเซี่ยงอวี่คิดแต่ว่าก็แค่ลุงหลิวปังจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
แต่ไหงได้ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เชี่ยวชาญการเอาตัวรอดอย่างหลิวปังกลับพลิกเกมหน้ามือเป็นหลังเท้า หลิวปังใช้ทั้งยุทธวิธียอมอ่อนข้อให้ก่อนเพื่อซ่องสุมกำลัง หลบซ่อนไม่เผชิญหน้าตัวต่อตัว บางครั้งหลิวปังต้องยอมหนีหัวซุกหัวซุนก็ยังมี แต่โดยรวมหลิวปังมีดีที่ศิลปะการหลอกล่อให้ลูกน้องเซี่ยงอวี่ให้ตีจากมาเข้ากับตัว
ข้อเสียของเซี่ยงอวี่คือเห็นว่าความเก่งกล้าของตัวเองชนะทุกสิ่ง เขาไม่ให้น้ำหนักกับคำเตือนคำปรึกษาของใครอื่น ลูกน้องทยอยเอาใจออกห่าง ที่ปรึกษาเหนื่อยหน่ายกับความเอาแต่ใจตัวเองโดยไม่สนใจยุทธวิธีระยะยาว
ถ้าเปรียบเซี่ยงอวี่เป็นไม้แข็งหักยาก หลิวปังก็คือไม้อ่อนยืดได้หดได้เทียบเท่ากระบองวิเศษของซึงหงอคง
ในระยะเวลาไม่กี่ปี เซี่ยงอวี่ถูกหลิวปังลูบหลังแล้วตบหัว ตบหลังแล้วลูบหัวครั้งแล้วครั้งเล่า แม้มีฝีมือรบเก๋าเกมขนาดไหน แต่ชัยชนะที่แท้จริงไม่อาจรบได้ด้วยทัพเซี่ยงอวี่แต่เพียงทัพเดียว
ในที่สุด เซี่ยงอวี่ต้องพ่ายแพ้หนีหัวซุกหัวซุนไปพร้อมสนมคนโปรด เหลือเพียงความหวังเดียวก็คือฝ่าวงล้อมออกไปตั้งหลักที่บ้านเกิด แต่วงล้อมที่หลิวปังส่งมาช่างแน่นหนา และเซี่ยงอวี่ยังมีภาระอีกอย่าง คือเขาจะไม่ยอมแยกห่างจากสนมคนโปรดที่ชื่อหยู่จีไปไหน
หยู่จีเห็นใจแม่ทัพคนรัก จึงตัดสินใจเชือดคอตายเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วง เซี่ยงอวี่เสียใจมาก แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป เขานำทหาร 800 นายบุกทะลวงกองทัพที่รายล้อมอยู่ออกไปกลางดึก
ด้วยเส้นทางวกวน กองกำลังเซี่ยงอวี่ถูกไล่ตามตีต่อเนื่อง แต่ชาติเสืออย่างเซี่ยงอวี่ก็ไม่ทิ้งลาย กำลังรบสุดท้าย 28 ชีวิตของเซี่ยงอวี่ร่วมรบอย่างองอาจ บุกทะลวงกองทหารนับพันไปทางใด ทางนั้นทหารก็ต้องหนีกระเจิง
เมื่อหนีมาถึงที่ริมแม่น้ำอูเจียง เพียงแค่ขึ้นเรือหนีไป เขาก็จะกลับไปตั้งหลักใหม่ได้ แต่ฉับพลันนั้นเอง เซี่ยงอวี่รู้สึกเสียใจที่ได้พาญาติพี่น้องชาวฉู่มาตายฟรี จนรู้สึกทั้งหดหู่ ทั้งอับอาย ทอดอาลัยในชีวิต
เซี่ยงอวี่ไม่คิดกลับไปแล้ว สั่งทหารที่เหลืออยู่ทั้งหมดลงจากหลังม้าปักหลักสู้ทิ้งทวน เซี่ยงอวี่คนเดียวสังหารข้าศึกไปได้อีกถึงร้อยคน แต่ทหารอีกนับพันกำลังรายล้อมเข้ามา
แล้วเซี่ยงอวี่ก็เหลือบไปเห็นลูกน้องเก่าที่เข้าสวามิภักดิ์หลิวปัง เซี่ยงอวี่จึงบอกออกไปว่า “ในเมื่อเจ้าเคยเป็นเพื่อนเก่าข้า หัวนี้ขอมอบให้เจ้าเอาไปรับรางวัลเป็นสินน้ำใจ” ว่าแล้วเซี่ยงอวี่ก็เชือดคอตายที่ข้างลำน้ำ เซี่ยงอวี่ผ่านชีวิตทั้งสูงสุดจนถึงตกต่ำและจบชีวิตตัวเองในวัยเพียง 30 ปีเท่านั้น
เซี่ยงอวี่จอมพลังจึงหยุดชื่อตัวเองในหน้าประวัติศาสตร์ไว้เพียงเท่านี้ ความคิดที่ว่าเก่งกล้านำทัพอย่างเดียวก็ชนะได้ทุกอย่างในใต้หล้า แม้ฟังดูฮึกเหิมถูกใจวัยรุ่น แต่ไม่เคยทำให้ใครในประวัติศาสตร์ได้ดิบได้ดี
แต่อย่างน้อยเซี่ยงอวี่ก็ยังให้ความทรงจำที่ดีไว้อีกนิด ตรงที่เขาไม่คิดทิ้งคนรักไปไหน กับยังมีความละอายที่เอาญาติพี่น้องเขามาตายอย่างสูญเปล่า พลิกเกมจากแม่ทัพที่มีดีแค่ตีรำฟันแทงเก่ง กลายเป็นความน่าประทับใจปนน่าสงสารที่ตราตรึงผู้คนมานานแสนนาน หากขาดจุดนี้ไปแล้ว น่ากลัวว่าภาพลักษณ์ของเซี่ยงอวี่จะติดลบไปอีกหลายเท่า
และชีวิตเซี่ยงอวี่ก็คงเหลือแต่ข้อสรุปที่ว่า “ชีวิตที่มีแต่ด้านความแข็งกร้าวมักแตกหักง่ายกว่าชีวิตที่ยืดหยุ่นได้”


