พระราชพิธีสถาปนา สมเด็จพระสังฆราชในอดีต
ข่าวเรื่องประเทศไทยจะมีสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แพร่ระบาดตามโซเชียลมีเดีย 1 สัปดาห์
โดย...ส.สต
ข่าวเรื่องประเทศไทยจะมีสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แพร่ระบาดตามโซเชียลมีเดีย 1 สัปดาห์ แต่ถึงวันและเวลานี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการศึกษาอดีตจึงขอนำเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชในหนังสือบวรธรรมบพิตร ที่พิมพ์ในงานออกพระเมรุพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2558 มาเล่าไว้เพื่อประดับสติปัญญา (ตามสำนวนพระเทศน์) เพราะประเทศไทยจะมีพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่แน่นอน
หน้า 88 ของหนังสือนั้น บอกเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชว่า พิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชที่เป็นพระราชวงศ์ จะจัดพระราชพิธีสถาปนาขึ้นเป็นพิเศษ
ส่วนพิธีสถาปนาพระเถระที่มิได้เป็นพระราชวงศ์จะไม่มีแบบแผนตายตัว เช่น เมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีร่องรอยว่าเมื่อพระเถระรูปใดได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็จะแห่แหนมาประทับที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ซึ่งมีตำหนักที่ประทับสมเด็จพระสังฆราชเป็นการถาวรที่นั่น (ปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่)
เมื่อสมัยรัชกาลที่ 8 และในช่วงต้นรัชกาลที่ 9 การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชจะจัดขึ้นเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา หรือวันฉัตรมงคล มิได้แยกเป็นพระราชพิธีต่างหาก
จนกระทั่งถึงการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 16 คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺฐายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งพระราชพิธีขึ้นเป็นการเฉพาะ ท่ามกลางมหาสังฆสันนิบาต พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้ถือเป็นพระราชประเพณีสำหรับการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อๆ มา รวมถึงการสถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2532 ด้วย ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดพระราชพิธีทั้งภาคเช้าและบ่าย
พระราชพิธีในภาคเช้า เป็นการจารึกพระนามลงในพระสุพรรณบัฏ โดยมีผู้แทนพระองค์เสด็จเป็นประธานในพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลา 06.49 น.
เมื่อจารึกพระสุพรรณบัฏเสร็จแล้วพระราชครูอัษฎาจารย์ (ละเอียด รัตนพราหมณ์) ประธานคณะพราหมณ์หลั่งน้ำเทพมนตร์ที่พระสุพรรณบัฏ เจิมแล้ววางใบมะตูมที่พระสุพรรณบัฏ เจ้าพนักงานเชิญพระสุพรรณบัฏบรรจุถุงผ้าตาดทองวางไว้บนพาน จากนั้นเชิญพานพระสุพรรณบัฏไปยังธรรมาสน์ศิลา เชิญพระสุพรรณบัฏขึ้นวางบนพานแว่นฟ้ากลีบบัวประดับมุกครอบด้วยคลุมปักดิ้นทอง เมื่อเสร็จการพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏแล้วเจ้าหน้าที่กองประกาศิตเชิญพระสุพรรณบัฏไปยังสำนักราชเลขาธิการ มอบราชเลขาธิการ (ม.ล.ทวีสันต์ ลดาวัลย์) เชิญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเจิม เมื่อทรงเจิมแล้วเชิญกลับมาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สำหรับการพระราชพิธีในช่วงบ่าย
พระราชพิธีในภาคบ่าย
เวลา 16 นาฬิกา 30 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มายังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อเสด็จฯ เข้าในพระอุโบสถแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทรงกราบ แล้วประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระญาณสังวร ถวายศีล
เวลา 17 นาฬิกา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์อ่านกระแสพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งปวง ณ ที่นั้น ยืนขึ้นเคารพพระบรมราชโองการพร้อมกัน เมื่อจบประกาศพระบรมราชโองการแล้ว สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเลื่อนพระองค์จากที่ประทับเดิมไปประทับเหนืออาสนะ ซึ่งปูลาดด้วยพระสุจหนี่สีเหลืองสำหรับตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร) นั่งกระโหย่งเท้าและสวด “สงฺฆราชฏฺฐปนานุโมทนา” จบแล้ว พระสงฆ์ในพิธีมณฑลพนมมือถวายอนุโมทนาและเปล่งวาจาสาธุขึ้นพร้อมกัน จากนั้นสมเด็จพระวันรัต นำสวด โส อตฺถลทฺโธ สุขิโตฯ พระสงฆ์ทั้งปวงในพิธีมณฑลสวดรับพร้อมกันสามจบ
จากนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จไปประทับที่อาสนะซึ่งปูลาดไว้ข้างพระแท่นเศวตฉัตรที่ต้นอาสน์สงฆ์สังฆมณฑล ส่วนสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะกรรมการมหาเถรสมาคมตามไปนั่งที่อาสน์สงฆ์ลำดับถัดจากสมเด็จพระสังฆราช
เวลา 17 นาฬิกา 24 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปถวายน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏแด่สมเด็จพระสังฆราช ขณะนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พร้อมกันกับที่พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา และย่ำระฆังพร้อมกับระฆังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายพระสุพรรณบัฏ พระตราตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช พัดยศ ไตรแพร และเครื่องสมณศักดิ์รวม 19 รายการ
เมื่อเสร็จพระราชพิธีในช่วงสำคัญ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายมหานิกาย และสมเด็จพระวันรัต (จับ) พระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุตถวายเครื่องสักการะ พระบรมวงศานุวงศ์ ประธานองคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เข้าถวายเครื่องสักการะตามลำดับ และสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่เสด็จออกที่ระเบียงหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อรับการถวายเครื่องสักการะจากบรรพชิตจีนและญวณ แล้วเสด็จกลับวัดบวร นิเวศวิหาร


