ทำแผนคดีลักตู้เอทีเอ็ม

ตำรวจนำตัว 2 แขกขาวขาวเซอร์เบีย ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีลักตู้เอทีเอ็ม แบงก์กรุงศรีอยุธยา  ระยอง

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.อิทธิเดช เจริญสหายานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.เวียง วงศ์เพียร ผกก.สภ.เพ พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผกก.สส.ภ.2 นายสาธิต ปิตุเตชะ ประธานกรรมาธิการตำรวจ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายมิลาน นิโคลิค อายุ 42 ปี และนายเบรนิเลฟ ลาซิค 50 ปี ชาวเซอร์เบีย 2 ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมยกตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขากะเฉด อ.เมืองระยองพร้อมเงินสดกว่า 4 ล้านบาท หลบหนีไป

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมของกลางตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขากะเฉด รถยนต์กระบะแคปยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน ณจ-3996 กทม พร้อมเงินสด 140,000 บาท แถลงข่าวที่จุดเกิดเหตุ

จากการสอบสวน 2 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกชาวเซอร์เบียร์ที่ยังหลบหนีอีก 2 คน ประกอบด้วย นายเดแยน มาร์ริค (Dejan Maricic)อายุ 32 ปี และนายอเล็กซานเดอร์ วาเรเซฟ (Aleksander Vrencev)อายุ 42 ปี (ที่ยังหลบหนี)ทั้งหมดได้เช่าที่พักอาศัยอยู่ที่ “ดีเด่นอพาร์ทเมนท์ “ซ.กอไผ่ พัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ก่อนเกิดเหตุได้เช่ารถยนต์กระบะแคปยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน ณจ-3996 กทม เต็นท์รถไฮเวย์คาร์เร้นท์ เมืองพัทยาใต้ นำรถตระเวนหาตู้เอทีเอ็มตั้งแต่พัทยาถึงจังหวัดจันทบุรี และมาพบตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขากะเฉด อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนลงมือก่อคดีได้ศึกษาเส้นทางก่อน จากนั้นพากันเดินทางกลับพัทยา เข้าไปซื้อถุงมือพลาสติก เบียร์สิงห์ จำนวน 4 กระป๋อง น้ำมันปาล์ม ข้าวผัดกะเพราไก่ 4 กล่อง ร้านเซเว่นในพัทยาใต้

จากนั้นกลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คนได้ขับรถมุ่งหน้ามาที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาสาขากะเฉด อ.เมืองระยอง เข้าไปตัดสัญญาณระบบป้องกัน และช่วยกันยกตู้เอทีเอ็มใส่รถยนต์กระบะที่เตรียมมา และได้ขับรถมุ่งหน้าไปตามเส้นทางสะพานคลองช้าง หมู่ 4 ต.สำนักทอง อ.เมือง ระยอง นำโมเด็มสัญญาณ ทิ้งไว้ในคลองพร้อมขับรถเข้าไปจอดรถในสวนยาง เพื่อเลื่อยตู้เอทีเอ็มโดยใช้น้ำมันปาล์มเป็นตัวหล่อลื่น พร้อมงัดตู้เอทีเอ็ม

หลังจากนั้นได้นำตู้เอทีเอ็มมาทิ้งในไร่มันสำปะหลัง ถ.สายยุทธศาสตร์ (สาย 331) สัตหีบ-นครราชสีมา หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นได้เดินทางกลับไปที่พักอพาร์ทเม้นท์แบ่งเงินกันและแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายเดแยน มาริค และนายอเล็กซานเดอร์ วาเรเซฟ ได้หลบหนีไปที่ด่านอรัญ จ.สระแก้ว ส่วนนายเบรนิสเลฟ ลาซิค และนายมิลาน นิโคลิค ได้หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาช่องทางหลบหนีไปประเทศสิงคโปร์ ผู้ต้องหาทั้งสองมีหนังสือเดินทางของประเทศสิงค์โปร์ และกำลังหาช่องทางเพื่อหลบหนีเข้าประเทศสิงค์โปร์ ในวันที่ 6 กันยายนนี้

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า แก๊งแขกขาวรายนี้ มีเครือข่ายอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งก่อเหตุในประเทศไทยและหลบหนีไปต่างประเทศ โดยให้ตำรวจ ตม.และตำรวจท่องเที่ยวประสานประวัติแก๊งแขกขาวที่เข้ามาในประเทศไทยในรูปแบบลักษณะท่องเที่ยว และมาก่อเหตุต่างๆ