posttoday

เยาวชนโกงสอบ จุดเริ่มต้นหายนะชาติ

30 มกราคม 2560

"การลงโทษจะต้องทำเพราะหากผู้ที่มีความรู้ทางวิชาชีพ แต่ความประพฤติไม่ซื่อสัตย์ เมื่อจบไปทำงานเป็นแพทย์ วิศวกรอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของประชาชนได้"

โดย...วิรวินท์ ศรีโหมด

กรณีการทุจริตสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) กำลังเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้สังคมอย่างมาก เพราะการทุจริตครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการทุจริตสอบทั่วไปอย่างที่เคยเห็นมา ในการโกงสอบตามสถาบันการศึกษา แต่เป็นการทุจริตสอบคัดเลือกผู้ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ผู้พิทักษ์รักษากฎหมาย ให้ความเป็นธรรมเที่ยงตรงแก่ประชาชน และยิ่งไปกว่านั้นขบวนการดังกล่าวมีนักศึกษาแพทย์-วิศวะ ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่มีความรู้ของมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศเข้าไปเกี่ยวข้อง

เบื้องต้นความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุจริตการสอบรอบแรกไปแล้ว 52 คน และกำลังมีรอบสองอีกกว่า 30 คน ภาพรวมตำรวจเชื่อว่าขบวนการนี้มีไม่ต่ำกว่า 100 คน ไล่ตั้งแต่หัวหน้าการ ผู้ทำหน้าที่ชักชวน นักศึกษาผู้มีความรู้ทำหน้าทีเป็นมือปืนทำข้อสอบ และผู้ลอกข้อสอบ นอกจากนี้ตำรวจเชื่อว่า มีสถาบันการกวดวิชาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

การทุจริตสอบนักเรียนนายสิบตำรวจครั้งนี้ที่ไม่ใช่ครั้งแรก ของประวัติศาสตร์การโกงข้อสอบในประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามว่า ทำไมถึงเกิดขึ้นซ้ำซากอีก เพราะเหตุใด และจะทำอย่างไรให้ปัญหานี้สูญสลายหายไปจากผืนแผ่นดินไทยหมดสิ้นเสียที

ประเด็นปัญหานี้ในมุม รศ.วรากรณ์ สามโกเศศ อดีต รมช.ศึกษาธิการ อธิบายว่า ปัญหาการโกงสอบจากเยาวชนกลุ่มผู้ที่มีความรู้ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในสังคม การรับจ้างสอบนั้นเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และเชื่อว่าทุกครั้งที่พบไม่ได้เป็นยอดของก้อนน้ำแข็ง แต่ยังคงมีก้อนน้ำแข็งที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้ ดังนั้นปัญหานี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

ส่วนสาเหตุของปัญหาที่มีมานานเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ เงินและความต้องการ เพราะเมื่อมีผู้พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ที่ไม่มีความสามารถในการสอบจึงเกิดการรับจ้างสอบขึ้น รวมถึงความหละหลวมของระบบตั้งแต่การจัดที่นั่ง การตรวจสอบบุคคลที่เข้าออกห้องสอบ การควบคุมการสอบที่มีช่องว่างสามารถกระทำผิดได้ และมีเจ้าหน้าที่ร่วมอยู่ในขบวนการ สาเหตุเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เอื้อเกิดการทุจริตสอบ

ขณะเดียวกัน บทลงโทษทุกครั้งเมื่อตรวจพบ มักใช้มาตรการสถานเบาเพียงตักเตือนหรือปรับตก จึงทำให้ผู้ที่ทุจริตคิดว่าอย่างดีถ้าหากถูกจับผิด ก็ถูกปรับตักเตือนไม่มีอะไรเสียหาย หรือหากรอดไปได้ถือเป็นโชคดี สิ่งเหล่านี้จึงเป็นแรงจูงใจทำให้มีบุคคลกล้าที่จะทุจริตสอบอยู่

อดีต รมช.ศึกษา เสนอว่า การแก้ปัญหานี้มี 2 ช่วง คือ การแก้ปัญหาระยะสั้น ควรต้องวางกฎกติกาการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการลงโทษอย่างจริงจังกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไล่จากโทษสถานเบาไปถึงการลงโทษทางอาญา เชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาระยะสั้นได้

เยาวชนโกงสอบ จุดเริ่มต้นหายนะชาติ รศ.วรากรณ์ สามโกเศศ อดีต รมช.ศึกษาธิการ

เมื่อถามว่าการนำกฎหมายเข้ามาดำเนินการกับเยาวชนกลุ่มนักศึกษาที่มีความรู้ สังคมเกิดคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ รศ.วรากรณ์ กล่าวว่า บทลงโทษกับเยาวชนที่กระทำผิดสามารถทำได้หลายระดับตั้งแต่ขึ้นทัณฑ์บน ตัดคะแนนคุมประพฤติ ไล่ออกจากสถานศึกษา ไปถึงการรอลงอาญา แต่ถึงอย่างไรการลงโทษจะต้องทำ

เพราะหากผู้ที่มีความรู้ทางวิชาชีพ แต่ความประพฤติไม่ซื่อสัตย์ เมื่อจบออกไปทำงานเป็นแพทย์ วิศวกรอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของประชาชนได้ และหากเกิดในการสอบระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศความเสียหายก็จะยิ่งมากไปกว่านี้ และถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีวัยวุฒิหากกระทำผิดก็ควรต้องติดคุก เพราะจะมาปรานีต่อไปคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างไรยืนยันว่าขั้นตอนการลงโทษควรทำตามระดับความเหมาะสม

ขณะที่การแก้ปัญหาในระยะยาวควรใช้นโยบายของ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ คือควรแก้ไขเริ่มที่พฤติกรรมศึกษา บุคลิก อุปนิสัย เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตต่อตัวเอง ให้รู้ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้มีความซื่อสัตย์ ซึ่งนี่จะเป็นคำตอบขั้นสุดท้ายของเรื่องทั้งหมด เพราะการสอนเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตต่อตัวเอง เป็นพื้นฐานที่ดีทั้งกับตนเองและระบบการศึกษา

อดีต รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หากพยายามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุคิดว่าคงควบคุมได้ยาก เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมมานานและกำลังขยายวงกว้างขึ้น จึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ปฏิบัติด้วยความถูกต้อง รวมถึงสังคมจะไม่ได้รับคนที่มีความสามารถแท้จริงเข้าไปทำงาน ซึ่งอาจส่งผลทำให้ระบบราชการเสียหาย วุ่นวาย ปั่นป่วน สุดท้ายเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างมหาศาล

“ถ้าคนกลุ่มนี้กระทำผิดโดยไม่ถูกลงโทษ จะกลายเป็นนิสัย จะทำให้เกิดการโกง และทำสิ่งผิดเป็นความเคยชินต่อไป ฉะนั้นต้องหยุด คนกลุ่มนี้ไม่ให้มีโอกาสทำได้อีก”

อดีต รมช.ศึกษาธิการ มองว่า ในอนาคตถ้าสังคมช่วยกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังจะสามารถยุติลงได้ แต่การที่สนามสอบมีเจ้าหน้าที่จัดสอบร่วมอยู่ในขบวนการด้วย ตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวและอันตรายอย่างมาก ดังนั้นคนกลุ่มนี้ควรถูกลงโทษรุนแรงด้วยการจำคุก เพราะจุดเริ่มต้นไม่ได้เกิดมาจากเด็ก แต่มาจากผู้ใหญ่และส่วนตัวเชื่อว่าปัญหานี้มีอยู่ทุกแห่ง

รศ.วรากรณ์ ทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้หลายคนอาจมองว่าเป็นความเสียหายเล็กน้อย และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็มักให้จัดสอบใหม่ แต่ความจริงปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากกว่านั้น คือ ผู้ที่กระทำผิดเมื่อเห็นช่องทางที่สามารถทุจริตได้และทำเป็นนิสัย เมื่อไปดำรงตำแหน่งใหญ่โตในสังคม ก็จะต้องโกงต่อไปซึ่งถือเป็นความเลวที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในอนาคต ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา