"พันโท" แจ้งความถูกผู้จัดการผับใช้อิฐทุบหัว

นายทหารยศ "พันโท" สังกัดค่ายเทพสตรีศรีสุนทร เข้าแจ้งความเอาผิดผู้จัดการผับข้อหาพยายามฆ่า หลังใช้ก้อนอิฐทุบหัวได้รับบาดเจ็บ ที่ร้านข้าวต้ม

จากกรณี พ.ท.พงศ์ภูริช สิงหรา อายุ 43 ปี หัวหน้ากอง จพล.บชร.4 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร (ค่ายกะปาง) อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถูกผู้จัดการผับ ใน อ.ทุ่งสง ทำร้ายร่างกายโดยใช้ก้อนอิฐทุบศีรษะแตกต้องเย็บ 7 เข็ม ที่ร้านข้าวต้มหน้าโรงแรมแกรนด์เซาเทิร์น ในพื้นที่ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง เมื่อคืนวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจาก พ.ท.พงศ์ภูริช ได้ไปรับประทานข้าวต้มในบริเวณดังกล่าว โดยพ.ท.พงศ์ภูริชต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุ่งสงเป็นเวลา 1 คืน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. เวลา 11.00 น. พ.ท.พงศ์ภูริช ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สพ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินคดีผู้จัดการผับคู่กรณี ในข้อหาพยายามฆ่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและเตรียมเรียกผู้จัดการผับรายนี้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป  

พ.ท.พงศ์ภูริช กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนกับลูกน้องไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม ปรากฏว่า มีคนขว้างแก้วใส่โต๊ะที่ตนนั่งถึง 2 ครั้ง เมื่อตนหันไปมองพบว่าผู้จัดการผับคนดังกล่าวนั่งอยู่อีกโต๊ะและมีอาการมึนเมา จึงชวนลูกน้องกลับเพราะเกรงจะมีเรื่อง ขณะที่ลูกน้องแยกไปขึ้นรถอีกคัน ตนก็เดินไปที่รถ ปรากฏว่าผู้จัดการผับคนนั้นตามมาด้านหลังใช้ก้อนอิฐทุบศีรษะตนจนได้รับบาดเจ็บ

"ผมยังงงไม่หาย เพราะไม่ทราบว่าทุบหัวผมด้วยเรื่องอะไร หลังจากนั้นก็พยายามขับรถไปโรงพักเพื่อขอความช่วย แต่ตำรวจได้นำส่ง โรงพยาบาลก่อน เพราะเกรงว่าจะอันตรายไปมากกว่านี้ หลังแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้จัดการผับในข้อพยายามฆ่า ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจได้รับแจ้งความไว้แล้ว ในขณะที่เพื่อนทหารร่วมรุ่นไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าหมิ่นศักดิ์ศรีกัน"พ.ท.พงศ์ภูริช กล่าว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานคนร้าย นอกจากนี้จะทำการตรวจเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ พ.ท.พงศ์ภูริช เข้าแจ้งความ มีเพื่อนทหารมาให้กำลังใจหลายคน โดยต่างไม่พอใจกับการกระทำของผู้จัดการผับเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการดูถูกและย่ำยีเกียรติและศักดิ์ศรีของทหาร ขณะที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ให้ความสนใจในเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน และสั่งให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด