ครูโหดโรงเรียนเอกชนโคราชมอบตัวแล้ว

ครูโหดโรงเรียนเอกชนดังโคราช เข้ามอบตัวแล้ว หลังถูกสังคมกดดันหนัก อ้างทำไปเพื่อต้องการแค่สั่งสอนเด็กในอยู่ในระเบียบ ไม่มีเจตนาสนองความสะใจ

ครูผู้ดูแลหอพักโรงเรียนมารีย์วิทยา อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 3 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุลงโทษเด็กนักเรียนชายกว่า 40 ชีวิต ด้วยการใช้ไม้เรียวที่ทำด้วยหวายพันด้วยเทปพันสายไฟเฆี่ยนตีเด็กจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ผ่านมา ประกอบด้วย นายสมชาย ลิ้มธรรมาภรณ์ อดีตครูสอนศิลปศึกษา และนางปิยฉัตร ขาวนอกอดีต ครูประจำวิชาภาษาไทย ที่ถูกทางโรงเรียนต้นสังกัดไล่ออก
 
ทั้งนี้เนื่องจากสอบสวนแล้วพบว่ากระทำผิดจริง รวมถึงนายพะเยา อิติปิ อีกหนึ่งครูผู้ดูแลหอพัก ที่ร่วมกระทำผิด แต่ทางโรงเรียนได้ทำโทษเพียงภาคทัณฑ์ไว้ก่อน เนื่องจากสอบสวนแล้วพบว่านายพะเยา ไม่มีเจตนาที่จะลงมือทำโทษเด็กนักเรียน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จำนงค์ สายป้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ทางผู้ปกครองนักเรียนที่ถูกลงโทษได้นำคลิปวีดีโอของนักเรียนที่แอบถ่ายการลงมือทำโทษเด็กอย่างรุนแรงแจ้งความดำเนินคดีไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ในข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กที่อยู่ในปกครองจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่ได้รับหมายเรียกจากทางพนักงานสอบสวนในช่วงเช้าที่ผ่านมา
 
นายสมชาย ครูผู้ลงมือใช้ไม้เรียวหวายตีเด็กอย่างรุนแรงซึ่งปรากฏในคลิปวีดีโอ ที่ทางนักเรียนแอบถ่ายไว้ขณะเข้ามอบตัวกับตำรวจได้สวมกางเกงขาว สวมเสื้อแขนยาว สวมหมวกและแว่นตาปิดบังใบหน้า เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อหลบเลี่ยงสายตาของประชาชนที่เดินทางมารับบริการภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา  ขณะที่นางปิยฉัตร ครูที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย เมื่อพบผู้สื่อข่าวก็ได้เดินหลบเลี่ยงหนีหายไป ส่วนนายพะเยา อิติปิ ครูผู้ร่วมกระทำผิดอีกราย รับสภาพตามปกติโดยไม่มีท่าทีใดๆ
 
นอกจากนี้ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เข้ารับทราบข้อหาจากทางพนักงานสอบสวนแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อประกอบสำนวนคดีโดยทันที ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือลงโทษเด็กตามที่ถูกกล่าวหาจริง แต่ยืนยันว่าที่ทำไปเนื่องจากต้องการป้องปรามให้เด็กนักเรียนอยู่ในกฏระเบียบ และไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายเด็กเพื่อสนองความสะใจ ทางพนักงานสอบสวนจึงบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายลงในสำนวนคดี และนำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายไปลงบันทึกประจำวัน
 
พ.ต.ท.จำนงค์ กล่าวว่า ขบวนการดำเนินคดีหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมเป็นรายบุคคลก่อนที่จะรวบรวมสำนวนคดีทั้งหมดส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลต่อไป ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
 
ทางด้านนายสมชาย กล่าวว่า ที่ทำโทษเด็กนั้น ทำไปเพื่อต้องการให้เด็กนักเรียนอยู่ในกฏระเบียบที่กำหนดไว้ และสิ่งที่ทำไปก็ด้วยความรักและอย่างเห็นเด็กโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเป็นคนดีของสังคม ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายเพื่อการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่หากสิ่งที่ทำไปได้สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับผู้ปกครอง ก็ยินยอมขอรับผิด และพร้อมที่จะขอขมากับผู้ปกครองของเด็กทุกราย รวมถึงอยากจะให้ผู้ปกครองขอเด็กทุกคนอโหสิกรรมให้กับสิ่งที่ได้กระทำไป