posttoday

สถิติอุบัติเหตุปีใหม่พุ่งกว่าปีที่แล้ว 4วันยอดดับ280ราย

02 มกราคม 2560

เผยสถิติอุบัติเหตุปีใหม่60พุ่ง 4 วันเสียชีวิต 280 ราย สาเหตุหลักเมาแล้วขับ ส่วนใหญ่เกิดช่วงทางตรง

เผยสถิติอุบัติเหตุปีใหม่60พุ่ง 4 วันเสียชีวิต 280 ราย สาเหตุหลักเมาแล้วขับ ส่วนใหญ่เกิดช่วงทางตรง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.กระทรวงคมนาคม รองประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติคนที่สอง เปิดเผยว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2560 ในส่วนของวันที่ 1 ม.ค. 2560  ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” นั้น ได้เกิดอุบัติเหตุ751 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 81 ราย ผู้บาดเจ็บ 778 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา  48.87%  ขับรถเร็วเกินกำหนด 9.29%  ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์  82.94% 

ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง 62.05% บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน  39.28% ถนนกรมทางหลวง  34.22 %ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา00.01 – 04.00 น. 29.83% ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน 57.63%

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,041 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,338 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 657,349 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม108,984 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 29,796 ราย  ไม่สวมหมวกนิรภัย 28,635 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (33 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สกลนคร (7 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (35 คน)

นายอาคม กล่าวว่า สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (29ธ.ค. 2559 – 1 ม.ค. 2560) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,712 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 280 ราย ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ในปีที่ผ่านมา

 ผู้บาดเจ็บรวม 2,877 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 10จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (117 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร และอุดรธานี (14 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (125 คน)

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วงวันปกติมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 46 ราย ขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2559 มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 54 ราย

สำหรับข้อมูลปริมาณรถของศูนย์ปฏิบัติการคมนาคม พบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2559 – 1 ม.ค. 2560 มีปริมาณรถบนท้องถนนทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ จำนวน 3,624,282 คัน เมื่อเทียบกับช่วงปกติ มีปริมาณรถ 2,823,599 คัน เพิ่มขึ้น จำนวน 800,683 คัน คิดเป็นร้อยละ 28.36 จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น

นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ  กล่าวว่า ในวันนี้ (2 ม.ค. 2560) ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้สั่งกำชับให้จังหวัดเข้มข้นดูแลทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง   

จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 พบว่า ดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงกว่า 48.87% และเวลา 00.01 – 04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คิดเป็น 29.83% จึงขอเน้นย้ำจุดตรวจเข้มงวดในการเรียกตรวจ เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ อีกทั้งจากสถิติอุบัติเหตุพบว่า กว่า 62.05% เกิดบนเส้นทางตรง จึงขอให้จังหวัดกวดขันการใช้ความเร็ว ปรับแผนเพิ่มจำนวนจุดตรวจบนเส้นทางสายตรงที่มีระยะทางยาว เพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับใน

นอกจากนี้ ให้พิจารณาปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยปรับย้ายจุดตรวจ จุดบริการ และเพิ่มจุดพักรถบนเส้นทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคและจังหวัดใหญ่ รวมถึงจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอต่อการเดินทางกลับของประชาชน

นายกฤษฎา  บุญราช  ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้จังหวัด และอำเภอใช้กลไกของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2560 โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจร กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กฎหมายสถานบันเทิง และกฎหมายรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างจริงจัง  พร้อมกำชับให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินมาตรการทางสังคม โดยจัดตั้งด่านชุมชนและจุดสกัดในหมู่บ้าน กวดขันผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่ใช่อุปกรณ์นิรภัย และการซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากกว่า 1 คน รวมถึงกลุ่มผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชนในทุกพื้นที่

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ซึ่งความอ่อนล้าจากการเฉลิมฉลองและการขับรถทางไกล อาจเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นายกรัฐมนตรีห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน จึงได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกำชับจังหวัดประสานการปฏิบัติงานของจุดตรวจบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อส่งต่อการดูแลความปลอดภัยของประชาชน โดยกวดขันความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทาง ไม่ประจำทาง และรถตู้โดยสาร เป็นพิเศษ พร้อมยึดมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการผลักดันกลไกมาตรการทางสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง                 

อีกทั้งปรับแผนการปฏิบัติการสร้างความปลอดภัย โดยเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลเส้นทางขากลับกรุงเทพฯ และเส้นทางที่มุ่งสู่จังหวัดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดระบบการจราจรให้สอดคล้องกับปริมาณรถในแต่ละเส้นทาง ทั้งนี้ ขอฝากเตือนผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็ว ดื่มไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์  ขณะขับรถ หากมีอาการเหนื่อยล้าหรือง่วงนอน ให้จอดพักรถตามจุดบริการ และสถานีบริการน้ำมัน

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”