posttoday

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (77)

18 ธันวาคม 2559

มูลนิธิอานันทมหิดล เป็นมูลนิธิที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

โดย...วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

มูลนิธิอานันทมหิดล เป็นมูลนิธิที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งชื่อ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนิสิตนักศึกษาและบัณฑิตชาวไทยที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการสาขาต่างๆ ให้ได้รับโอกาสไปศึกษาต่อเพิ่มเติม ณ ต่างประเทศในระดับที่สูงขึ้น เพื่อให้เป็นบุคคลชั้นนำของประเทศในสาขาวิชานั้นๆ และนำความรู้ความเชี่ยวชาญกลับมารับใช้ประเทศชาติ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดแล้ว

ในระยะแรก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดตั้งทุนอานันทมหิดล และทรงเริ่มพระราชทานทุนในสาขาแพทยศาสตร์เป็นสาขาแรก ต่อมาได้มีพระบรมราชวินิจฉัยให้เปลี่ยนสถานภาพจากทุนเป็นมูลนิธิ ชื่อ มูลนิธิอานันทมหิดล และได้ขยายขอบเขตการพระราชทานทุนเพิ่มขึ้นในหลายสาขา ครอบคลุมทั้งสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชประสงค์ที่จะทรงสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และทรงตระหนักว่าประเทศไทยยังขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญในวิทยาการต่างๆ ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาชาติบ้านเมือง จึงมีพระราชดำริที่จะทรงสนับสนุนให้นักศึกษาและบัณฑิตชาวไทยผู้มีความเป็นเลิศทางวิชาการสาขาต่างๆ ได้ไปเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญ ณ ต่างประเทศ จนถึงระดับสูงสุด เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจักได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญนั้นกลับมาพัฒนาประเทศชาติ ดังนั้นในปี 2498 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งทุนการศึกษาขึ้น และพระราชทานนามว่า ทุนอานันทมหิดล เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้พระราชทานทุนเริ่มแรกจำนวน 2 หมื่นบาท

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (77)

 

เมื่อแรกตั้ง ทรงประเดิมด้วยการพระราชทานทุนการศึกษาในสาขาแพทยศาสตร์ เพื่อทรงเจริญรอยตามพระราชปณิธานในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาด้านแพทยศาสตร์ และได้ทรงวางรากฐานด้านการแพทย์สมัยใหม่ขึ้นในประเทศสยาม ทั้งยังเคยทรงเอาพระทัยใส่พระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้แก่นักศึกษาแพทย์ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ

ต่อมา ได้มีพระบรมราชวินิจฉัยให้เปลี่ยนสถานภาพจาก “ทุน” เป็น “มูลนิธิ” ชื่อว่า มูลนิธิอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2502 และได้ขยายขอบเขตการพระราชทานทุนเพิ่มขึ้นในหลายสาขา

ปัจจุบัน มูลนิธิอานันทมหิดล ได้พระราชทานทุนการศึกษาครอบคลุมทั้งสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยแยกเป็นแผนกต่างๆ จำนวน 8 แผนก คือ

1.แผนกแพทยศาสตร์

2.แผนกวิทยาศาสตร์

3.แผนกวิศวกรรมศาสตร์

4.แผนกเกษตรศาสตร์

5.แผนกธรรมศาสตร์

6.แผนกอักษรศาสตร์

7.แผนกทันตแพทยศาสตร์

8.แผนกสัตวแพทยศาสตร์

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (77) นพ.เกษม

 

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง “มูลนิธิอานันทมหิดล” ขึ้นด้วยทรงตระหนักว่า ในการพัฒนาประเทศจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญวิชาการขั้นสูงสาขาต่างๆ วิธีการหนึ่งที่จะสร้างผู้เชี่ยวชาญ คือ การส่งผู้มีความสามารถออกไปศึกษาหาความรู้ ณ ประเทศที่เป็นแหล่งวิทยาการแขนงต่างๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ จึงมีพระราชดำริที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาผู้แสดงความสามารถยอดเยี่ยม ได้มีโอกาสไปศึกษาวิชาความรู้ให้ถึงขั้นสูงสุดในประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยทรงพระราชดำริว่าเมื่อได้ศึกษาถึงขั้นสูงสุดแล้ว จะเห็นว่าศาสตร์ต่างๆ นั้นมีความสัมพันธ์กันและสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติได้

ในปี 2538 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ดำรงตำแหน่งองค์ประธานกรรมการมูลนิธิอานันทมหิดล โดยพระองค์ทรงร่วมพิจารณาคัดเลือก และติดตามผลการศึกษาของผู้ได้รับพระราชทานทุนอย่างใกล้ชิด ร่วมกับองคมนตรีผู้เป็นคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  ทรงมีพระราชดำรัสว่า

“มูลนิธิอานันทมหิดล มีเป้าหมายในการพัฒนา เป็นการสร้างทรัพยากรมนุษย์เพื่อความก้าวหน้าของส่วนรวม คนที่คัดเลือกมารับพระราชทานทุน ต้องเป็นผู้มีศักยภาพเป็นนักวิชาการที่เด่นที่สุดในสาขาวิชาต่างๆ แต่ละสาขา มูลนิธิต้องมีหลายสาขาเพราะชีวิตมนุษย์ที่เราต้องการพัฒนานั้นมีหลายด้าน หลายแง่ หลายมุม หลายระบบ มารวมกัน จึงจะทำให้คนมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้”

การดำเนินการของมูลนิธิอานันทมหิดลต่อเนื่องมาเป็น 53 ปีเศษ จนถึงปัจจุบันมีผู้เข้ารับพระราชทานทุนรวมจำนวน 318 ราย ก่อนที่ผู้ได้รับพระราชทานทุนจะออกไปศึกษาในต่างประเทศ คณะกรรมการประจำแผนกจะนำผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อรับพระราชทานพระราโชวาท และเมื่อสำเร็จการศึกษามาแล้ว ในโอกาสแรกที่กลับมาถึงประเทศไทย จะนำเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทกราบบังคมทูลรายงานทุกคน

เทพรัตนแห่งแผ่นดิน (77) ดร.ประสาร

 

ผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันมหิดล เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้กลับมาทำประโยชน์พัฒนาประเทศ โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่ศึกษามา อาทิ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ปี 2526 สาขาชีววิทยา (พันธุศาสตร์) รางวัลแมกไซไซ สาขาบริการรัฐ ได้รับเลือกเป็นบุคคลดีเด่นของชาติ สาขาการแพทย์ รวมทั้งได้รับเลือกเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อปี 2531 ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจ ได้รับรางวัลเหรียญทองผลงานดีเด่นในด้านการแพทย์ จากที่ประชุม Grand World Congress of Spain 1992 ของ World Organization of Alternative Medicines

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจัดทำ “แผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศและเงินตราต่างประเทศ” เพื่อให้การหมุนเวียนของเงินทุนเข้าออกระหว่างประเทศของไทยมีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว ได้รับรางวัล Central Bank Governor of the Year for Asia จากวารสาร Emergine Markets ในเครือ Euromoney Group เมื่อเดือน ก.ย. 2554 และได้รับรางวัลนักการเงินแห่งปี จากวารสารการเงินธนาคาร เมื่อเดือน ธ.ค. 2555 และ รศ.ดร.นลิน นิลอุบล สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพและวิศกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้นำความกราบบังคมทูล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อเดือน ต.ค. 2546 เรื่อง ประโยชน์จากเมล็ดชา และเสนอให้มีการส่งเสริมการปลูกชาสายพันธุ์คามิเลีย โอลิเฟลา (Camellia Oleifera) และนักเรียนทุนมูลนิธิอานันทมหิดล อีกหลายสาขาที่กระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศต่างก็ได้ใช้วิชาความรู้ ประสบการณ์ และความสามารถอย่างสูง ทำคุณประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองอย่างทั่วหน้า

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025