วัดพระธรรมกายปัดใช้แผนจีวรเปื้อนเลือด
ปทุมธานี-วัดธรรมกายปัดใช้ลูกศิษย์กับพระแกล้งล้มทำร้ายตัวเองหากถูกเจ้าหน้าที่บุกค้น ตำรวจติดป้ายไวนิลรอบกำแพงวัดเป็นของกลางคดีอาญาห้ามเคลื่อนย้าย
ปทุมธานี-วัดธรรมกายปัดใช้ลูกศิษย์กับพระแกล้งล้มทำร้ายตัวเองหากถูกเจ้าหน้าที่บุกค้น ตำรวจติดป้ายไวนิลรอบกำแพงวัดเป็นของกลางคดีอาญาห้ามเคลื่อนย้าย
เมื่อวันที่ 17ธ.ค.59 เมื่อเวลา14.30น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการสภ.คลองหลวง พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ หัวหน้าพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองท่าโขลง และอบต. คลองสาม ได้ร่วมประชุมร่วมกันก่อนจะเดินทางไปติดป้ายไวนิลซึ่งเป็นป้ายคำสั่งของพนักงานสอบสวน จำนวน17จุดทั้งในเขต ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งวัดพระธรรมกายมีการปลูกสร้างรั้วกำแพงรอบวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยป้ายมีข้อความว่า “ของกลางคดีอาญาที่ 2283/2559 ห้ามใช้ ห้ามเคลื่อนย้าย หรือกระทำการใดๆ ให้สูญหาย เสียหาย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายและถูกดำเนินคดีต่อไป สภ.คลองหลวง”
เมื่อเวลา15.00น.ที่ด้านหน้าประตู7 พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายได้ออกมาชี้แจง 3 เรื่องอาคารวัดได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต ทางวัดไม่มีการเตรียมพระสงฆ์เพื่อเตรียมรับมือไม่เป็นความจริงอย่างที่เป็นข่าวกรณีที่ที่มีข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ DSI ได้ภาพหลวงพ่อไม่น่าเป็นความจริง เพราะก็ไม่เจอหลวงพ่อมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ค.ที่หมอเยอรมันมาตรวจ และถ้ามีภาพก็เอามาพิสูจน์กัน ซึ่งตอนนี้ที่จะเจอพระธัมมชโย รักษาการเจ้าอาวาสกิตติมาศักดิ์กับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกวัดพระธรรมกายได้นั้นก็คือในโปรแกรมยูทูปเพียงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่พระภิกษุของวัดพระธรรมกายได้นำแสงเลเซอร์ยิงใส่กล้องของผู้สื่อข่าวช่องหนึ่ง ว่าทางวัดมีความคิดเห็นอย่างไรและพอจะทราบหรือไม่ว่านายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์ยานุศิษย์ที่โดนออกหมายจับอยู่ที่ใด พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายได้ขอยุติการแถลงข่าวและเดินเข้าไปภายในวัดทันที
กระทั่งเวลา15.40น.พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สวป.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาที่ประตู7 โดยนำเอกสารมามอบให้วัดพระธรรมกาย เพื่อให้ทางวัดส่งตัวพระธัมมชโยและนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์วัดพระธรรมกาย ซึ่งคาดว่าหลบซ่อนตัวอยู่ภายในวัดพระธรรมมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใน7วัน โดยมีพระภิกษุสงฆ์ของวัดรูปหนึ่งเดินออกมาต้อนรับไม่ยอมรับเอกสารดังกล่าวและเชิญตัวพ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สวป.สภ.คลองหลวง เข้าไปพูดคุยด้านในโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน
ด้านนายธัชนนท์ พรใบหยก ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากวัดพระธรรมกาย ยืนยันสิ่งปลูกอาคารต่างๆภายในวัดพระธรรมกายทั้งหมด เป็นไปตาม พ.ร.บ. การก่อสร้างอาคาร 2550 ที่ระบุว่า การก่อสร้างภายในวัดไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากท้องถิ่นแต่ต้องส่งแบบให้ท้องถิ่นรับทราบโดยทางวัดยื่นแบบอย่างถูกต้องเพื่อสร้างอาคาร ลานจอดรถ สะพานข้ามคลอง รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆเพื่อการศาสนา ส่วนสะพานข้ามคลองสามที่มีรถจอดขวางไม่ให้ใช้งานตามกฎหมายนั้น ทนายความปฎิเสธว่าไม่ได้รับทราบเรื่องกล่าว ซึ่งหากพบว่าในจุดไหนมีสิ่งปลูกสร้างผิดแบบและผิดกฎหมายก็ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าร่วมหารือหรือร่วมตรวจสอบร่วมกันทางวัดพร้อมให้ความร่วมมือ
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์การวัดพระธรรมกายกล่าวว่า ส่วนที่ทางวัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดี 158 คดี พึ่งทราบจากทางสื่อมวลชนและไม่ได้หารือร่วมกับฝ่ายกฎหมายแต่อย่างใด ยอมรับว่าการตรวจสอบเป็นของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองแต่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นหากมีเรื่องสงสัยอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาหารือร่วมกันเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ส่วนการนำเสนอข่าวที่ระบุว่า ทางวัดเตรียมพร้อมที่จะปกป้องพระธัมมชโยแม้นจะมีการเสียเลือดเนื้อและมีการจัดเตรียมกองกำลังไม่เป็นความจริง และการนำเสนอข่าวพระธัมมชโยเดินทางภายในวัด นั่น มองว่าน่าจะเป็นภาพเก่าเพราะตนเองไม่เคยพบพระธัมมชโยมาเดือนพฤษภาคมรวมถึงนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัด นั้นหลังถูกออกหมายจับก็ไม่พบตัวเพียงแต่พบในโลกโซเชียล ทั้งนี้ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกายปฎิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด.


