มดตัวเดียว ทำเขื่อนพัง
มีสุภาษิตเกาหลีหนึ่งบอกว่า “มดตัวเดียวทำเขื่อนพังได้” คงไม่ได้เกินความจริง...มดเริ่มทำรังจนใหญ่ขึ้นๆกลายเป็นรูพรุนใต้เขื่อน
โดย...ดร. เพียงออ เลาหะวิไลย [email protected]
มีสุภาษิตเกาหลีหนึ่งบอกว่า “มดตัวเดียวทำเขื่อนพังได้” คงไม่ได้เกินความจริง...มดเริ่มทำรังจนใหญ่ขึ้นๆกลายเป็นรูพรุนใต้เขื่อน จนในที่สุดเขื่อน (น่าจะเป็นเขื่อนดิน) ก็เปราะบางจนถูกน้ำเซาะพังทลายได้...ฉันใดฉันนั้น ความเห็นผิดเป็นชอบ ปล่อยให้ครอบครัวเจ้าลัทธิชีวิตนิรันดร์ เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตยาวนานเกือบ 40 ปี กำลังทำให้เขื่อนที่ ประธานาธิบดีปาร์กกึนเฮ สู้อุตส่าห์สร้างมาในวันนี้เปราะบางและอาจจะพังทลายลง...
มดตัวเล็กสุดที่เดินลอดรูใต้เขื่อนไปมาอย่างร่าเริง แต่เป็นตัวสุดท้ายที่อาจทำให้เขื่อนพัง กลายเป็นเด็กสาวนักศึกษาปี 2 ของมหาวิทยาลัยสตรีที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลี เนื่องจากการได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยได้โดยมิชอบ ได้เกรดดีโดยมิชอบ ทำให้เป็นที่กังขาแก่อาจารย์และนักศึกษาคนอื่นๆ จนนำมาซึ่งการขุดคุ้ย ว่า “นางเป็นใคร” จนกระทั่งความแตกว่า นางเป็นลูกสาวของคนสนิทประธานาธิบดีใช้เส้นเข้ามา
แล้วมหากาพย์เรื่องยาวที่ทำให้เกิดกระบวนการตรวจสอบในวงกว้างก็เกิดขึ้น ส่งผลให้ประธานมหาวิทยาลัยต้องลาออก ผู้มีอำนาจทั้งฝ่ายการเมืองถูกสอบสวน ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลีเกือบ 20 บริษัทถูกตรวจสอบว่าให้สินบนแก่คนใกล้ชิดประธานาธิบดีหรือไม่....“ไม่มีใครหนีพ้นผลกรรมที่ตนกระทำไว้” คงเป็นสัจธรรมที่ ไร้ซึ่งขอบเขตของกาลเวลา คือ ไม่ว่าจะพันหมื่นปีก่อน หรือ พันหมื่นปีหน้าก็ยังคงเป็นจริงตามนั้น
หลายสิบปีก่อน เมื่อ “เชกา” ได้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่กรุงโซลในช่วงที่การเมืองของเกาหลีกำลังปรับเปลี่ยนจากการปกครองโดยทหารมาเป็นประชาธิปไตย ทุกๆ วันตอนบ่ายหลังเลิกเรียนจะเห็นนักศึกษามาชุมนุมประท้วงที่หน้าหอสมุด ส่วนหน้ามหาวิทยาลัยก็จะมีหน่วยปราบจลาจล เอารถหุ้มเกราะมาจอดรอพร้อมกำลังพลในชุดป้องกันระเบิดขวดที่นักศึกษาจะขว้างใส่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูใหญ่มหาวิทยาลัย และแก๊สน้ำตาที่กำลังพลจะยิงโต้ตอบ...เห็นจนชินว่า นักศึกษาเกาหลีเขาแบ่งเวลาประท้วงได้ดี ไม่เบียดบังเวลาเรียน ช่วงสอบไม่ประท้วง ฝนตกก็สลายตัว
ไปก่อน
การชุมนุมประท้วงขับไล่ให้ประธานาธิบดีลาออกคราวนี้ก็เช่นกัน ประชาชนนัดกันทุกวันเสาร์ต่อเนื่องมาสามสัปดาห์แล้ว ไม่ได้มีการเผาบ้านเมือง ประท้วงเสร็จก็กลับ จึงเป็นการแสดงพลังและความต้องการของประชาชนมากกว่าตั้งใจจะให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ประชาชนจากต่างจังหวัดมุ่งหน้าเข้ากรุงโซลเป็นล้านคนทำให้ตำรวจต้องเตรียมกำลังพลตำรวจต้อนรับราว 2 หมื่นนายทุกวันเสาร์ แม้เป็นเรื่องไม่ปกติแต่ควบคุมได้
สถานการณ์ของประธานาธิบดีปาร์กน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยเมื่อมีการสอบสวนคนรอบข้างและผู้นำกลุ่มธุรกิจ เช่น ซัมซอง แอลจี ฮยอนเด ที่เคยสนับสนุนนโยบายและโครงการของรัฐในปีที่ผ่านมา เช่น โครงการสร้างศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่มธุรกิจให้สามารถตั้งศูนย์ได้ทั่วประเทศ และทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ยังไม่มีทุนแต่มีนวัตกรรมได้รับการช่วยเหลือ ก็อาจจะถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ประธานาธิบดีได้คุยกับผู้บริหารกลุ่มบริษัทนั้นๆ ด้วยตัวเอง น่าเสียดายที่เรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อชาติ แต่อาจจะถูกนำมาพัวพันกับการคอร์รัปชั่นของคนรอบข้างประธานาธิบดีด้วยสิ...


