หวั่นทีพีพีชะงักทุนไทย
ทีพีพีสะดุดทุนไทยในเวียดนามชะลอลงทุนเพิ่มแต่คงฐานการผลิตเดิมไว้ ชี้กลุ่มสิ่งทอกระทบหนักสุด
ทีพีพีสะดุดทุนไทยในเวียดนามชะลอลงทุนเพิ่มแต่คงฐานการผลิตเดิมไว้ ชี้กลุ่มสิ่งทอกระทบหนักสุด
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เปิดเผยว่า จากการหารือกับผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนในเวียดนามถึงผลกระทบจากการถอนตัวของสหรัฐอเมริกา จากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(ทีพีพี) พบว่าในส่วนของนักลงทุนเดิมที่มีการลงทุนอยู่แล้วจะไม่ขยายการลงทุนเพิ่ม จากเดิมที่บางรายอาจมีแผนขยายการลงทุนหรือขยายกำลังการผลิตเพิ่ม แต่จะยังรักษากำลังการ ผลิตที่มีอยู่เอาไว้
สำหรับกลุ่มธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม และได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการล้มทีพีพีครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการที่เวียดนามเข้าร่วมทีพีพีในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและประเทศสมาชิกทีพีพี ที่เป็นตลาดใหม่อย่างแคนาดา เม็กซิโก และเปรู โดยนักลงทุนไทย กลุ่มที่มุ่งเฉพาะตลาดภายในเวียดนาม หรือส่งออกไปยังประเทศอื่นนอกสมาชิกทีพีพีก็จะไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจากการสอบถามไม่พบว่ามีนักลงทุนไทยรายใดมีแนวโน้มที่จะยุติหรือถอนการลงทุนออกจากเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม เวียดนามในสายตาของนักลงทุนไทยมองว่ายังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะภาคการผลิต ด้วยเวียดนามมีเสถียรภาพทาง
การเมือง ตลาดบริโภคภายในประเทศยังน่าดึงดูด และปัจจัยด้านแรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก และประสิทธิภาพในการผลิตที่เริ่มพัฒนา รวมถึงปัจจัยข้อตกลงทางการค้าร่วมกับยุโรป รัสเซีย จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น และกลุ่มประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
ขณะที่ข้อด้อยของเวียดนามยังเป็นเรื่องสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ ถนนที่ใช้ในการขนส่งรวมถึงระบบราง ยังไม่เพียงพอรองรับต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมในประเทศ โดยนักลงทุนไทยรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามในระยะปัจจุบัน ส่วนใหญ่เน้นภาคค้าปลีก (รีเทล) และการกระจายจำหน่ายสินค้า การค้าวัสดุก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม และสิ่งทอ มูลค่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามในช่วง 10 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 2559) อยู่ที่ 9,986 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยนำเข้า 3,044 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% และการส่งออก 6,942 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ปัจจุบันประเทศไทยมีการเข้าไปลงทุนในเวียดนามเป็นอันดับ 9 ของการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีการเงินรวมทั้งสิ้น 7,715 ล้านเหรียญสหรัฐ มีจำนวนบริษัทจดทะเบียน 440 โครงการ และหากนับเฉพาะปี 2559 (ม.ค.-20 ต.ค. 2559) มีจำนวนลงทุนของนักลงทุนไทยอยู่ที่ 26 โครงการ ด้วยทุนจดทะเบียน 390 ล้านเหรียญสหรัฐ


