จะไป SAGA 9

อิ่มเอมจากเมนูอาหารญี่ปุ่นของร้านโระอาจิกันแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่เมือง Takeo เมืองออนเซนชื่อดังของจังหวัดซากะ ที่ไม่ได้เด่นเพียงแค่น้ำแร่ แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกหลายแห่ง ที่แรกที่ไปแวะเที่ยว ก็คือ ศาลเจ้าทาเคโอะ เราขับรถมาจอดฝั่งตรงข้ามกับทางขึ้นศาลเจ้า การขับรถเที่ยวต่างจังหวัดในญี่ปุ่นนี่สะดวกมาก เพราะสถานที่จอดรถมีพร้อม ไม่ว่าจะเมืองเล็กเมืองใหญ่ แม้แต่บนเขาหรือในหุบเขาก็มีที่จอดรถจัดไว้ให้ และมักจะมีห้องน้ำพร้อมตู้จำหน่ายเครื่องดื่มไว้บริการด้วยเช่นกัน จากลานจอดเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็จะเจอกับทางขึ้นศาลเจ้า

สังเกตง่ายๆ คือมีเสาโทริอิอยู่ตรงทางเข้า เดินลอดเสาโทริอิขึ้นบันไดไปสักพักจะเจอลานแห่งแรก เป็นจุดที่มีคู่รักมาขอพรกัน เพราะมีต้นสนไซเปรสคู่หนึ่งยืนต้นขนานกัน และรากของต้นสนทั้งคู่ก็เชื่อมติดกัน เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็พบว่ากิ่งของต้นหนึ่งได้เชื่อมประสานกับกิ่งของอีกต้นหนึ่ง ดูแล้วคล้ายกับต้นสนทั้งคู่กำลังโอบกันประหนึ่งคู่รัก คนญี่ปุ่นเรียกต้นสนคู่นี้ว่า Meotohinoki วันนั้นก็เห็นมีหนุ่มสาวญี่ปุ่นมาขอพรกันอยู่ 2-3 คู่ เหมือนกัน

จากลานแรกเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเจอศาลเจ้า Takeo ที่แปลกตากว่าศาลเจ้าอื่นๆ ทั่วไป เพราะเป็นศาลเจ้าสีขาว ถามเจ้าหน้าที่ดูจึงได้รู้ว่า ที่ทาสีขาวเพราะตั้งใจให้เป็นเสมือนสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้า ในญี่ปุ่นเทพเจ้าส่วนใหญ่จะมีสัตว์นำสาส์นหรือสัตว์คู่กาย อาทิ สุนัขจิ้งจอกของเทพเจ้าอินาริ หรือกบของเทพี Miketsu ที่ศาลเจ้า Futamiokitama ในจังหวัดมิเอะ เป็นต้น สำหรับที่ศาลเจ้าทะเคโอะนี้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพ 2 องค์ คือ Takeuchi no sukune กับ Takeokokoro no mikoto และยังร่วมอุทิศให้กับจักรพรรดิ Chu-ai และจักรพรรดินี Jingu รวมทั้งพระโอรสของทั้งสองพระองค์ คือ จักรพรรดิ Ou-jin ด้วย โดยมีนกกระยางขาวเป็นสัตว์นำสาส์น และเพื่อให้คำขอของผู้คนส่งถึงยังเทพเจ้า จึงได้กำหนดให้สร้างศาลเจ้าเป็นสีขาวให้เหมือนกับนกกระยาง

จากศาลเจ้าขึ้นไปเป็นแนวป่าไผ่ที่ทอดยาวไปจนสุดทาง สถานที่ซึ่งต้นการบูรยักษ์ยืนต้นมากว่า 3,000 ปี ใครเคยดูการ์ตูน เรื่อง Tonari no Totoro คงจำต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าหลังบ้านครอบครัว Kusakabe ได้ เจ้าหน้าที่ของจังหวัดซากะ บอกว่า คุณ Hayao Miyazaki แห่งสตูดิโอ Ghibli ได้แรงบันดาลใจจากต้นการบูรยักษ์ของศาลเจ้าทะเคโอะนี่เอง ผมมองดูบรรยากาศโดยรอบแล้วก็ดูท่าว่าจะเป็นจริงตามนั้น มันเงียบสงบเหมือนกับในการ์ตูนเลย นี่ถ้ามีโทโทโร่โผล่ออกมาก็ไม่แปลกใจ เพราะนอกจากจะร่มรื่นแล้วยังรู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างปกคลุมอยู่โดยรอบ ใครไม่เชื่อต้องลองไปดูครับ และถ้าให้ดีไปตอนเย็นๆ จะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบที่ผมเล่าให้ฟัง

จากศาลเจ้าเราขับรถไปแวะชม Romon ประตูแดงขาว 2 ชั้น แลนด์มาร์คของ Takeo onsen กันก่อนจะเข้าที่พัก ประตูแห่งนี้ออกแบบโดยคุณ Tatsuno Kingo ผู้ออกแบบสถานีรถไฟโตเกียว ซึ่งคุณ Tatsuno ได้แอบซ่อนสัญลักษณ์รูปสัตว์ประจำปีเกิด 8 ตัว ไว้บนเพดานรูปแปดเหลี่ยมของสถานีรถไฟโตเกียว แต่ทำไมถึงใส่ไว้ไม่ครบนี่ไม่มีใครทราบสาเหตุ ปรากฏว่า คุณ Tatsuno แกแอบเอามาซ่อนไว้ที่ประตู Romon แห่งนี้ และเพิ่งมีการค้นพบตอนบูรณะประตูครั้งล่าสุดนี่เอง ด้านในเป็นลานจอดรถและศูนย์รวมของสถานอาบน้ำแร่สาธารณะหลายแห่ง แต่ที่ดังที่สุดก็คือ Tonosama ที่ตั้งอยู่ด้านในสุด โดดเด่นด้วยอาคารสีแดงขาวยุคปลายเอโดะต่อต้นยุคเมจิ ภายในยังคงสภาพเดิมไว้ได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะโถงด้านหน้าและห้องอาบน้ำที่ประดับด้วยกระเบื้องขาวดำที่ถือว่าคูลมากๆ ในยุคนั้น เสียดายมีเวลาไม่มาก เลยอดลองแช่น้ำแร่ในตำนานเลย