ศิริราชขอเก็บ‘ห้องประทับ’ เป็นพิพิธภัณฑ์แก่ชาวไทย

โรงพยาบาลศิริราชเตรียมขออนุญาตสำนักพระราชวังเก็บรักษาห้องประทับที่เสด็จฯ มาประทับรักษาพระอาการประชวรเป็นเวลานานให้เป็นพิพิธภัณฑ์ต่อไป 

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า โรงพยาบาลศิริราชตั้งใจจะเก็บรักษาห้องประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติไว้ เพื่อจัดเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ แต่ต้องปรึกษาหารือและขออนุญาตจากทางสำนักพระราชวังก่อน นอกจากนี้ยังตั้งใจที่จะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย แต่ต้องประสานสำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาตเช่นกัน เนื่องจากพระองค์เสด็จฯ มาโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลศิริราชได้ถวายการรับใช้มาตลอดเวลานานกว่า 20 ปีแล้ว

ศ.นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตหัวหน้าคณะแพทย์ที่ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เล่าบรรยากาศเมื่อครั้งถวายการรักษาพระองค์ท่าน เมื่อปี 2550-2554 ทำให้ทราบว่า พระองค์ทรงอดทนต่อการฟื้นฟู และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพราะแม้จะประชวรและอยู่ระหว่างการพักฟื้นพระวรกาย แต่ก็ยังทรงงานหนักเพื่อแก้ปัญหาให้แก่พสกนิกรชาวไทย โดยห้องทรงงานของพระองค์จะอยู่ติดกับห้องประทับของพระองค์ เป็นห้องโล่งๆ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีโต๊ะทรงงาน และพระเก้าอี้ประทับ ซึ่งพระองค์จะทอดพระเนตรดูความเป็นไปของบ้านเมืองและพสกนิกรของพระองค์

อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ระยะเวลาในการทรงงานของพระองค์จะอยู่ที่สุขภาพของพระองค์ หากพระวรกายของพระองค์ดีขึ้นก็จะทรงงานบ่อย ซึ่งทรงห่วงเรื่องปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะปี 2554 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ รวมถึงทอดพระเนตรเห็นปัญหาการจราจรในฝั่งธนบุรีและโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช โดยโปรดเกล้าฯ ให้ตนเองเป็นผู้ถวายรายงานเกี่ยวกับการจราจรและน้ำท่วมทุกวัน โดยต้องตอบให้ได้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร สูงขึ้นเท่าไร น้ำขึ้นเท่าไร

ทั้งนี้ การกราบบังคมทูลเรื่องน้ำท่วมและการจราจร จะมีประชุมผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำเป็นรายงานถวายพระองค์ในทุกๆ วัน อย่างน้ำท่วมพระองค์ทรงห่วงใยมาก รับสั่งให้หาข้อมูลน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ทั้งที่ช่วงน้ำท่วมตามปกติคือช่วงเดือน ต.ค.

ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เล่าว่า ในเรื่องการฟื้นฟูพระวรกายนั้นหลังมีพระอาการประชวรทรงมีความอดทนอย่างมาก ซึ่งสำหรับผู้ป่วยสูงวัยถือเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง แต่พระองค์ก็อดทนในการที่จะเสด็จ
ลุกจากพระที่นั่ง พระดำเนิน หรือทรงจักรยาน เพื่อฟื้นฟูพระวรกายโดยเร็ว

“พระองค์ท่านทรงโปรดที่จะเสด็จฯ ลงมาทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอย่างไร ระดับน้ำเป็นอย่างไรแล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเช่นไร ซึ่งคณะแพทย์ก็พยายามทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญที่สุด โดยให้พระองค์ท่านได้เปลี่ยนพระอิริยาบถ โดยนอกจากการเสด็จฯ ลงมาเสวยพระกระยาหารแล้ว ยังได้ทอดพระเนตรเห็นพระบรมมหาราชวังด้วย นอกจากนี้ยังพาเสด็จฯ ขึ้นไปยังบนดาดฟ้าของตึกสยามินทร์ เพื่อทอดพระเนตรความเป็นไปของบ้านเมือง” ศ.นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ คณะแพทย์ยังพยายามทำให้พระองค์ทรงเกษมสำราญมากที่สุด โดยได้จัดการแสดงต่างๆ ด้วย เช่น ช่วงตรุษจีนก็เชิญแชมป์ตรุษจีนมาให้ทอดพระเนตร หรือพระองค์ทรงโปรดดนตรีก็จัดให้มาแสดงในหอประชุม พระองค์ท่านก็ทอดพระเนตร และตรัสว่าขอบใจนะที่จัดให้ เพลงเพราะดี หรืออย่างการจัดงานเทศน์มหาชาติพระองค์ก็เสด็จฯ ลงมาเป็นประธานถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง

เมื่อครั้งเสด็จฯ ลงมาจากห้องประทับเป็นครั้งแรกเพื่อถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เมื่อเสร็จแล้วคณะแพทย์ก็กราบบังคมทูลเชิญให้เสด็จฯ กลับห้องประทับ แต่พระองค์ทรงตรัสว่าให้วนเป็นวงใหญ่ ไปให้ไกลขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่มาได้เห็นโดยรอบ

“การที่ประชาชนมารอเฝ้าที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและให้กำลังใจแด่พระองค์ ทั้งการถวายดอกไม้ ถวายบังคม หรือเปล่งเสียงทรงพระเจริญ พระองค์ทรงได้ยินตลอด และทำให้พระองค์มีพระพักตร์ที่แจ่มใสขึ้น” 

อนึ่ง สำหรับห้องประทับชั้น 16 เป็นชั้นบนสุดของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ศ.นพ.ปิยะสกล สกสัตยาทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เคยให้ข้อมูลเมื่อปี 2549 ว่า โรงพยาบาลศิริราชจัดทำห้องประทับดังกล่าวไว้สำหรับเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในกรณีเสด็จฯ มาทรงรับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช โดยเฉพาะ โดยเมื่อออกจากลิฟต์จะอยู่ฝั่งขวามือ ส่วนทางด้านฝั่งซ้ายจะเป็นสถานที่สำหรับบุคคลสำคัญระดับวีไอพีของประเทศ

ศ.นพ.ปิยะสกล ระบุว่า เมื่อมองผ่านหน้าต่างจากห้องประทับชั้น 16 จะสามารถชมวิวทิวทัศน์ตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีที่สุด สิ่งที่สะดุดตาเมื่อขึ้นลิฟต์โดยสารถึงชั้นที่ประทับของพระองค์ คือ โคมไฟห้อยเพดานที่สวยงามอลังการสมกับพระเกียรติของพระองค์ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ภายในสถานที่ประทับฝั่งขวาที่จัดขึ้นเป็นการเฉพาะสำหรับพระองค์ ภายในแบ่งซอยเป็นห้องๆ สำหรับให้ทรงประทับ พร้อมทั้งยังมีห้องประทับของพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายห้อง มีการตกแต่งอย่างละเมียดละไมอย่างสมพระเกียรติ โดยมีเครื่องอำนวยความสะดวกตามพระราชอัธยาศัย