"ผมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้" จำลอง ศรีเมือง

"จำลอง ศรีเมือง" เข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพที่ศาลาสหทัย เผยรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้เมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

ตามที่สำนักพระราชวังได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์  ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 14 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 8.30-12.00น.

ในช่วงเช้าวันที่ 14 ต.ค.ได้มีประชาชนเดินทางมาต่อแถวเพื่อรอเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพเป็นจำนวนมาก

หนึ่งในนั้นคือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดตามแถลงการณ์พระอาการมาโดยตลอด ตอนที่ทราบแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังฉบับล่าสุด รู้สึกตกใจมาก เช้าวันนี้จึงตั้งใจมาร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ในฐานะที่เป็นคนหนึ่ง ที่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯและถวายงานในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่หลายครั้ง

"ผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ตอนที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ตอนที่ผมถูกจับเข้าคุก ผมคิดว่าจะต้องตายแล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่วังมาแจ้งว่า ให้ไปเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9  เนื่องจากมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าด่วนในตอนนั้นผมใส่ชุดม่อฮ่อม คิดว่าไม่เหมาะสม จึงขออนุญาตไปเปลี่ยนชุด แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าด่วนมาก ไม่ต้องเพราะรับสั่งให้เฝ้าฯด่วนมาก พอไปถึงวังสวนจิตรลดา คำแรกที่ผมทูลต่อในหลวง คือ ขอพระราชทานอภัยที่แต่งกายไม่เรียบร้อย แต่ท่านทรงเอ่ยด้วยความเมตตาว่า ไม่เป็นไร"พลตรีจำลองกล่าว

ในห้วงที่ประชาชนชาวไทยเศร้าโศกเสียใจ พล.ต.จำลอง แนะนำว่า อยากให้ประชาชนเยียวยาหัวใจตัวเอง ด้วยการน้อมนำเอาคำสอนและพระจริยาวัตรของพระองค์มาใช้ เช่น การประหยัดมัธยัสถ์ ดั่งภาพที่คนไทยคุ้นตหลอดสีพระทนต์ที่พระองค์ใช้จนหมดแล้ว ยังใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์มารีดที่หลอด เพื่อใช้จนหมดจริงๆ ดังนั้น ประชาชนที่ใช้ชีวิตทุกวันนี้ สามารถน้อมนำพระจริยาวัตรในเรื่องความประหยัดดังกล่าวมาใช้ได้ ด้วยการปิดไฟ ปิดพัดลม ซึ่งง่ายการเอาแปรงสีฟันมารีดยาสีฟันเสียอีก