ผงะ!หนุ่มร้องจ๊ากกินอาหารเจในห้างเจอแมลงสาบ
ลูกค้าหนุ่มตั้งกระทู้โวยเจอแมลงสาบในร้านอาหารห้างดัง แถมยังโดนคิดค่าเซอร์วิสชาร์จ
ลูกค้าหนุ่มตั้งกระทู้โวยเจอแมลงสาบในร้านอาหารห้างดัง แถมยังโดนคิดค่าเซอร์วิสชาร์จ
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. โลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ลูกค้ารายหนึ่งร้องเรียนว่าไปรับประทานอาหารเจที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และพบแมลงสาบโผล่ในจาน ทว่าพนักงานร้านกลับแสดงความรับผิดชอบอย่างไม่น่าพอใจเท่าไรนัก
โดยสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อ กระดาษในโหลแก้ว ได้ตั้งกระทู้เล่าเรื่องว่า ได้ไปรับประทานอาหารเจที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และพบแมลงสาบตัวเล็กอยู่ในจาน จึงร้องเรียนพนักงานของร้าน ซึ่งพนักงานได้เสนอส่วนลดให้ 15% ทว่าตอนคิดเงินกลับลดเพียง 10% เท่านั้น แถมยังคงค่าเซอร์วิสชาร์จ 10% ด้วย สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้ารายนี้เป็นอย่างมาก
เจ้าของเรื่อง ได้เสนอแนวทางรับผิดชอบให้ทางร้าน ดังนี้
"1.จะลดกี่เปอร์เซนต์ก็ว่าไป เพราะการชดเชยเป็นตัวเงินมันไม่ได้บรรเทาความผะอืดผะอมได้ แต่อย่างน้อยก็แสดงถึงความขอโทษในเบื้องต้น ซึ่งในจุดนี้ร้านทำผิดคือ ไม่ลด 15% ตามที่เสนอมา
2.ไม่ควรเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ เพราะการเรียกเก็บไปทับซ้อนกับส่วนลด ลดให้ 10% เท่ากับ 35 บาท แต่คิดเซอร์วิส 10% เท่ากับ31บาท ในความรู้สึกลูกค้าคือ เราได้ส่วนลดค่าเซอร์วิสชาร์จ ไม่ใช่ค่าอาหาร เพราะร้านไม่ถูกกระทบเรื่องราคาอาหารเลย ร้านยังคงคิดราคาอาหารเท่าเดิม แค่เรียกเก็บเซอร์วิสชาร์ลดลงไป 4 บาท ในส่วนลูกค้าต้องการให้ร้านรู้สึกผิดที่ทำให้เสียความรู้สึก
3.ควรมีการชี้แจงเรื่องความสะอาด จากประสบการณ์ที่เคยทานอาหารในต่างประเทศ ถ้ามีอาหารจานไหนที่เรากินแล้วมีกลิ่นเหมือนบูดๆ เชฟจะเดินออกมาจากครัวแล้วขอโทษเราทันที จากนั้นเชฟจะชี้แจงว่า อาหารที่เราทานแล้วมีกลิ่นนั้นเกิดจากอะไร วัตถุดิบตัวไหนที่เชฟคาดว่าจะมีปัญหา และเชฟจะยกเลิกเมนูเดียวกันในวันนั้นทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบใหม่ เพื่อไม่ให้ลูกค้าคนอื่นในร้านต้องมีชะตากรรมเดียวกัน
4.ขอเบอร์ติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งผลการดำเนินการ ร้านควรให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะเมื่อลูกค้าเดินออกจากร้านโดยที่ร้านไม่มีการแสดงออกใดๆ ยกเว้นโยนส่วนลด 10% มาให้ ลูกค้าก็จะไม่กลับไปใช้บริการอีกเลย ร้านควรต้องบอกผลการดำเนินการในด้านความสะอาดว่าแก้ไขตรงจุดไหน แล้วผลเป็นอย่างไร เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ กล้ากลับไปใช้บริการอีก"
อย่างไรก็ตาม ลูกค้ารายนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้าร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบให้ดูแลด้านความสะอาดของร้านอาหาร และความปลอดภัยในอาหาร เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร้านอาหารเอาใจใส่กับความสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่เป็นหน้าเป็นตาประเทศ


