posttoday

ลิขสิทธิ์กับการเปิดเพลง

20 กันยายน 2559

โดย...รุจิระ บุนนาค

โดย...รุจิระ บุนนาค

“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์” เป็นพระราชนิพนธ์แปลตอนหนึ่ง ในรัชกาลที่ 6 (จากต้นฉบับของวิลเลียม เช็กสเปียร์) ทำให้เห็นได้ว่าบทเพลงและเสียงดนตรีย่อมมีอยู่ในส่วนลึกของมนุษย์ทุกคน

แต่เมื่อสังคมโลกเปลี่ยนไป การรับฟังเพลง การเปิดเพลงเพื่อความบันเทิง รวมถึงการขับร้องเพลงของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งที่ในอดีตผู้คนในสังคมสามารถกระทำได้ เช่น การเปิดเพลงเต้นรำในเทศกาลสำคัญๆ หรือการขับร้องเพลงในโอกาสต่างๆ แต่เมื่อเจ้าของค่ายเพลงนำบทเพลงและเสียงดนตรีมาใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ประกอบกับสังคมโลกเริ่มมีกฎหมายลิขสิทธิ์บังคับใช้กับทรัพย์สินทางปัญญาหลายประเภท ประเทศไทยก็ต้องปรับเปลี่ยนกฎหมายตามเช่นกัน

เมื่อหลายปีก่อนในยุคที่บรรดาค่ายเพลงเฟื่องฟูถึงจุดสูงสุด มีศิลปินนักร้องในสังกัดหลายคน ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่บางรายมีรายได้จากผลประกอบการสูงถึงปีละ 5,000 ล้านบาท จากการออกอัลบั้มที่เป็นเทปคาสเซต ต่อมาเป็นแผ่นซีดี รวมถึงการจัดแสดงคอนเสิร์ตที่มีรายได้จากการขายบัตรเข้าชมเป็นจำนวนมาก

ต่อมายุคสมัยเปลี่ยนไป พฤติกรรมของผู้บริโภคเองก็เปลี่ยนไปรายได้จากการขายอัลบั้มเพลงซึ่งเป็นรายได้หลักแต่เดิมได้ลดลง เพราะผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเพลงได้จากสื่อออนไลน์ต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บรรดาค่ายเพลงเคร่งครัดกับการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์มากขึ้น

เริ่มตั้งแต่บรรดานักดนตรี นักร้อง ที่หาเลี้ยงชีพด้วยการร้องและเล่นเพลงที่มีลิขสิทธิ์ของค่ายเพลง ตามร้านอาหาร  บาร์ ไนต์คลับ จากเดิมที่ไม่เคยถูกเรียกเก็บลิขสิทธิ์ ปัจจุบันต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แล้ว

ปัญหาที่น่าสนใจคือ บรรดาร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านคอมพิวเตอร์บางร้าน เปิดเพลงจากแผ่นซีดีที่ซื้อมามีลิขสิทธิ์ถูกต้องให้ลูกค้าของตนเองฟัง โดยไม่ได้เก็บค่าบริการเพิ่ม จะถือว่าสามารถทำได้หรือไม่  และจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 หรือไม่

กรณีดังกล่าวได้เคยมีคดีร้านอาหารเปิดเพลงจากแผ่นซีดีที่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายให้ลูกค้าฟัง โดยที่ไม่ได้เก็บค่าบริการเพิ่มขึ้นจากค่าอาหารตามปกติ แต่ได้ถูกค่ายเพลงซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์จากการแสวงหากำไรจากเพลงที่มีลิขสิทธิ์ ในกรณีดังกล่าวศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า เมื่อไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าบริการจากการฟังเพลงโดยตรง ไม่ถือว่าเป็นการแสวงหากำไรจากงานที่มีลิขสิทธิ์เพลงตามฟ้อง ในคดีนี้ค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์ฟ้องคดีละเมิดโดยมุ่งประเด็นในเรื่องแสวงหากำไรจากเพลงที่มีลิขสิทธิ์เป็นประเด็นสำคัญ ศาลฎีกาจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นอื่นอีก

แต่ในคดีร้านกาแฟเปิดเพลงที่มีลิขสิทธิ์จากยูทูบ (YouTube) ให้ลูกค้าในร้านฟังโดยไม่ได้เก็บเงินเพิ่ม หรือร้านคอมพิวเตอร์เปิดเพลงที่มีลิขสิทธิ์ในแผ่นซีดีให้ลูกค้าฟัง โดยไม่ได้เรียกเก็บเงินเพิ่ม ยังโดนค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์ดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะถือว่าเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป แม้ว่าจะไม่ได้เรียกเก็บเงินจากการฟังเพลงเลยก็ตาม

ค่ายเพลงที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิที่จะอ้างเช่นนั้นได้ เพราะตามกฎหมายลิขสิทธิ์ เจ้าของลิขสิทธิ์มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะเผยแพร่งานอันมีลิขสิทธิ์ต่อสาธารณชน หากกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ จึงถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ มีความผิดตามกฎหมาย

ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้มีโอกาสเห็นป้ายประกาศของร้านบางร้านที่เขียนไว้ว่า เพลงที่เปิดในร้านเจ้าของร้านเปิดเพื่อฟังเอง ไม่ได้เปิดให้ลูกค้าฟัง และขออย่าให้ลูกค้าฟังเพลงที่เปิด ซึ่งถือว่าเป็นการประชดประชันค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์  เนื่องจากการที่เจ้าของร้านเปิดเพลงฟังเอง ไม่ถือเป็นการเผยแพร่ต่อสาธารณชน อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถ้าเป็นคดีความกัน ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนถึงเจตนาในการเปิดเพลง จึงจะวินิจฉัยว่าละเมิดลิขสิทธิ์และผิดกฎหมายหรือไม่

ในความเป็นจริง คุณค่าของงานเพลงที่มีลิขสิทธิ์จะถือว่ามีคุณค่าหรือมีมูลค่ามากน้อยเท่าไร แค่ไหน ต้องพิจารณาว่าเพลงนั้นเป็นที่นิยมและชื่นชอบของผู้ฟังและคนทั่วไปหรือไม่

เพลงใหม่ที่เป็นงานใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ค่ายเพลงหลายรายพยายามนำเสนอแบบยัดเยียดให้คนทั่วไปได้รู้จักเสียด้วยซ้ำ ครั้นเป็นที่นิยมแพร่หลาย กลับจะตักตวงเก็บผลประโยชน์โดยไม่ยกเว้น ถึงขนาดจะดำเนินคดีกับผู้ที่เปิดเพลงที่ซื้อมามีลิขสิทธิ์ถูกต้องให้แก่ลูกค้าในร้าน โดยไม่ได้เก็บค่าบริการเพิ่ม ซึ่งดูจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ที่เคร่งครัดเกินไป  โดยไม่คำนึงตอนนำเสนอผลงานครั้งแรกๆ ที่ต้องอาศัยประชาชนทั่วไปที่จะกลายเป็นฐานลูกค้าในอนาคต เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจล้วนๆ โดยแท้ จนมองข้ามสุภาษิตไทยโบราณที่ว่า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า

ถ้าค่ายเพลงเจ้าของลิขสิทธิ์บางรายยังให้ความสำคัญต่อการเรียกเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์จากการเปิดเพลง จนไม่ทราบว่าความพอดีควรจะอยู่ที่ตรงไหน บรรดาร้านค้าทั้งหลายหากต้องการจะเปิดเพลงให้ลูกค้าของตนเองฟัง ควรจะเลือกเปิดเพลงจากค่ายเพลงหลายค่ายที่ได้แสดงเจตนาโดยเปิดเผยชัดแจ้งแล้วว่า ยินยอมอนุญาตให้เผยแพร่งานต่อสาธารณชนได้ ซึ่งมีความไพเราะและเป็นที่นิยมไม่ยิ่งหย่อนกันเลย จะเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ดีที่สุด

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมซีเกมส์ 2025 วันนี้ 15 ธ.ค. 68 ลิ้งก์ดูสด ถ่ายทอดสดช่องไหน