ม.เกษตรฯพร้อมรับผิดชอบนิสิตจมน้ำ แจงเป็นเหตุฝึกปฏิบัติไม่ใช่รับน้อง

ผู้บริหารม.เกษตรฯพร้อมรับผิดชอบเหตุการณ์นิสิตจมน้ำ แจงเป็นการฝึกปฏิบัติไม่ใช่รับน้อง ระบุจุดเกิดเหตุเป็นบ่อรับน้ำฝนไม่ใช่น้ำเสีย

จากกรณีที่สังคมออนไลน์ได้มีแชร์เหตุการณ์ที่นิสิตชั้นปี1ของคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จมน้ำหมดสติและถูกนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาล โดยสมาชิกเฟซบุ๊กที่เผยแพร่เรื่องดังกล่าวระบุว่า เหตุเกิดขึ้นขณะนิสิตที่จมน้ำเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องและถูกรุ่นพี่สั่งให้ลงไปล้างตัวในบ่อบำบัดน้ำเสียจนจมน้ำ ขณะที่สมาชิกเฟซบุ๊กอีกรายได้ให้ข้อมูลว่าบ่อดังกล่าวเป็นบ่อบำบัดสารเคมีนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถาม อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับการชี้แจงว่า ขณะนี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทราบเรื่องแล้วและทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ขณะที่บ่อน้ำที่เกิดเหตุ เป็นบ่อรับน้ำฝน เเต่เนื่องจากอยู่ใกล้กับตึกวิทยาศาสตร์ ทำให้นักศึกษาตั้งฉายาว่า บ่อเคมี หรือบ่อรับน้ำเสีย 

ด้าน รศ.ก่อโชค จันทวรางกูร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การรับน้องแต่เป็นการฝึกปฏิบัติของคณะพาณิชยนาวีที่ต้องฝึกเตรียมความพร้อมก่อนออกปฏิบัติการทางทะเล ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีอาจารย์คอยควบคุมและมีนิสิตรุ่นพี่ที่เคยผ่านการฝึกมาช่วยดูแล

สำหรับบ่อที่เกิดเหตุเป็นบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดเท่ากับสนามบาสเกตบอลไว้ใช้รับน้ำฝน ซึ่งเป็นสถานที่ในการฝึกการว่ายน้ำของคณะนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่บ่อบำบัดน้ำเสียหรือบ่อบำบัดสารเคมี

อย่างไรก็ตามขณะนี้อาการของนิสิตยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งมหาวิทยาลัยขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนิสิต รวมทั้งอาจารย์และรุ่นพี่ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านเฟซบุ๊กทนายเพื่อนคุณ (www.facebook.com/Bestthailawyer) โพสต์ข้อความระบุว่าหากรุ่นพี่บังคับรุ่นน้องดำน้ำในบ่อน้ำเน่า ย่อมเจตนาเล็งเห็นผลว่าน้ำเน่ามีอันตราย ดังนั้นผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส คุกสูงสุด10ปี

การกระทำและพฤติกรรมของรุ่นพี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลักๆดังนี้

1.โดนความผิดฐานบังคับข่มขืนใจผู้อื่น ในการบังคับให้ดำน้ำในบ่อน้ำเน่า และคงไม่มีใครอยากดำในน้ำเน่าหรอก แบบนี้ผิด ตามมาตรา 309 ป.อาญา เต็ม!เต็ม!! "ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

2.จากการที่รุ่นน้องจมน้ำและสำลักน้ำจนปอดติดเชื้อได้รับอันตรายสาหัสก็โดนอีกกระทง ซึ่งรุ่นพี่ย่อมเล็งเห็นผลว่าบ่อน้ำเน่าย่อมมีอันตรายไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคต่างๆรวมทั้งบ่อน้ำเน่าปุถุชนอย่างเราๆท่านๆคงไม่มีใครลงไปดำเล่นเพราะเต็มไปด้วยสิ่งอันตรายดังนั้นรุ่นพี่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 297 ป.อาญา " ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสิบปีอันตรายสาหัสนั้น คือ

(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท

(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์

(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด

(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว

(5) แท้งลูก

(6) จิตพิการอย่างติดตัว

(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต

(8) ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน"